"สมชัย" ลั่นยังให้สัมภาษณ์เหมือนเดิม พ่วงลุยตรวจสอบการเลือกตั้งเข้มข้นขึ้น ยันโดนปลดไม่กระทบงาน กกต.โรดแม็ปยังเหมือนเดิม ส่วนลงสมัครเลขาฯ กกต.ยังไม่ถอนตัว แต่เชื่อทำกรรมการสรรหาลำบากใจหากจะเลือก

เมื่อวันที่ 21 มี.ค.61 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.ได้เดินทางมายังสำนักงาน กกต. เพื่อเคลียร์งานและเก็บของหลัง คสช.มีคำสั่งให้ยุติการทำหน้าที่ กกต.โดยให้สัมภาษณ์ว่า หลังรับทราบคำสั่ง คสช.ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก เพียงแต่อึดอัด เนื่องจากมีโทรศัพท์เข้ามาประมาณ 30-40 สาย ได้พยายามรับสาย แต่รับได้ไม่หมด ส่วนตัวไม่มีอะไรนอนหลับฝันดี ตอนนี้ยังไม่ได้คิดอะไรทั้งสิ้น โดยเฉพาะการเรียกร้องความยุติธรรม หลังจากนี้ก็ยังทำงานทุกวัน เพียงแต่ว่าจะไปทำงานที่ไหนเท่านั้นเอง ไม่ใช่ไม่มีที่แล้วจะว่างเปล่า บทบาทการตรวจสอบการเลือกตั้งก็จะทำต่อไป อย่างที่เคยบอกไว้แล้วว่า หลังจากพ้นการเป็น กกต.ก็จะไปทำงานที่ พี-เนต และหลังจากนี้การแสดงความคิดเห็นก็จะเต็มที่เหมือนเดิม และจะขยายขอบเขตได้มากขึ้น จากเดิมที่พูดแต่เรื่องของการเลือกตั้ง แต่เมื่อไม่มีตำแหน่งหน้าที่ การให้ความเห็นต่อสาธารณะก็จะพูดได้กว้างขวางมากขึ้น

ทั้งนี้ยืนยันว่าตนพ้นจากตำแหน่ง ก็ไม่กระทบต่อการทำงานของ กกต. เพราะมี 4 คน ก็ทำงานได้ และ กกต.ทุกคนก็มีความรู้ความสามารถ ฉะนั้นโรดแม็ปไม่เคลื่อนอยู่แล้ว เพราะไม่มี กกต.สมชัย แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น

นายสมชัย ยังกล่าวด้วยว่า การโพสต์เฟซบุ๊กว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งทีได้เปิดหน้า คสช.ว่า เป็นความรู้สึกที่เป็นเกียรติจริงๆ เพราะไม่เคยมีใครที่จะได้เป็นข่าวลงหนังสือพิมพ์หน้า 1 ทุกฉบับ และเป็นข่าวยาวๆ ในสื่อฯโทรทัศน์ และไม่มีใครที่สื่อจะให้ความสนใจมาก จึงถือว่าเป็นเกียรติ ส่วนหนึ่งเพราะได้แสดงบทบาทอย่างเต็มที่

...

เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ถูกคำสั่งพิเศษปลดออก นายสมชัย กล่าวว่า เป็นเกียรติอย่างยิ่งและไม่กลัวว่าจะถูก คสช.เพ่งเล็งในการแสดงความเห็น เพราะรู้ตัวว่าพูดอะไร ไม่เคยพูดสิ่งที่เป็นเท็จ หยาบคาย ปลุกระดม นำเสนอแต่ข้อเท็จจริง

นายสมชัย กล่าวต่อว่า หลังเก็บของเสร็จในวันศุกร์เวลา 15.00 น. จะเปิดใจอีกครั้ง ขณะนี้ขอเวลาไปเรียบเรียงเรื่องต่างๆ ให้แล้วเสร็จก่อน แล้วจะมาบอกให้ฟัง แต่เบื้องต้นภรรยาดีใจมากหลังทราบคำสั่ง เพราะก่อนหน้านี้ อยากให้ยุติการทำหน้าที่ กกต.

นายสมชัย กล่าวต่อว่า ส่วนตำแหน่งเลขาธิการ กกต.คิดว่าคำสั่ง คสช.ไม่ได้มีผลทำให้ขาดคุณสมบัติในการสมัครเลขาฯ เพราะไม่ได้มีกฎหมายใดที่เขียนว่า การถูกคำสั่งให้ยุติการทำหน้าที่เป็นลักษณะต้องห้ามของการสมัคร รวมทั้งตนก็ไม่ได้ถอนตัว ดังนั้นเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหาที่จะตรวจสอบคุณสมบัติ หากเห็นว่าตนมีคุณสมบัติครบ ก็จะประกาศให้เข้าแสดงวิสัยทัศน์ต่อ กกต.แต่คิดว่าเมื่อมีคำสั่ง คสช.ออกมาในลักษณะนี้ น่าจะสร้างความลำบากใจให้กับ กกต.พอสมควร เพราะการพิจารณาถ้าหากจะเลือกตน เพราะมีวิสัยทัศน์มีประสบการณ์ กกต.เองอาจจะลำบากใจที่จะต้องเลือก ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์ในตำแหน่ง กกต.คิดว่าคงได้ตามปกติ เพราะคำสั่ง คสช.ให้ยุติการปฎิบัติหน้าที่ ไม่ใช่การไล่ออกหรือการประพฤติชั่วร้ายแรงจนถูกไล่ออกจากราชการ

เมื่อถามว่า ตั้งใจแสดงความเห็นเพื่อให้ คสช.มีคำสั่งปลดใช่หรือไม่ นายสมชัย กล่าวชี้แจงว่า ตนไม่เคยเดินเกมอย่างนั้น ตนก็ทำงานของตนไป โดยคิดว่าสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ต่อบ้านเมือง ก็ทำอย่างนั้นไป ไม่เคยคิดถึงผลที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง ถือว่าเป็นการทำงานตามหน้าที่ แม้แต่ใน กกต. แม้แต่บทบาท กกต. ก็ไม่เคยคิดไปเข้าข้างใคร ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตนก็แสดงเตือนรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์หลายครั้ง จนคนคิดว่าอยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่จริงๆ ไม่ใช่ ตนเห็นว่าอะไรไม่ถูกต้องก็จะให้ความเห็นในฐานะที่เราเป็น กกต. มีหน้าที่เห็นว่าอะไรไม่ถูกต้องก็ต้องออกมาเตือนกัน ไม่คิดไปในเรื่องของการเล่นเกม เพราะไม่ใช่เด็กแล้ว จะไปเล่นเกมก็ไม่ทัน

เมื่อถามว่า จะมีโอกาสไปเล่นการเมืองหรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า คงต้องประเมินตัวเองว่ามีประสบการณ์ในเรื่องอะไร มีความรู้อะไร และทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองในโอกาสใดบ้าง การทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองสามารถทำได้ในหลายรูปแบบ คงไม่ใช่อาชีพนักการเมืองเพียงอาชีพเดียว เบื้องต้นยังไม่ได้ตอบรับว่าจะเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด ตอนนี้เป็นได้ทุกอาชีพยกเว้นกรรมการองค์กรอิสระ เพราะกฎหมายกำหนดเป็นได้แค่ครั้งเดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายสมชัย ได้เดินทางไปหา นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ที่ร้านกาแฟภายในศูนย์ราชการฯ ซึ่งเป็นสถานที่รวมพลของผู้ร่วมก่อตั้งพรรคเกรียน เมื่อมาถึงร้านกาแฟ นายสมบัติ ได้ออกมาต้อนรับ นายสมชัย พร้อมขอแตะมือทักทายกัน โดย นายสมบัติบอกว่า เป็นการทักทายแบบวัยรุ่น ก่อนจะถาม นายสมชัย ถึงกระบวนการจดชื่อพรรคเกรียน ว่ากลุ่มตนสามารถใช้ชื่อพรรค "เกรียน" ได้หรือไม่ ซึ่ง นายสมชัย กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบในฐานะ กกต.ได้ เนื่องจากพ้นจากตำแหน่งแล้ว แต่โดยหลักการของการจดจัดตั้งชื่อพรรค ชื่อย่อเครื่องหมาย ต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนดไว้ คือ ไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือสร้างความแตกแยก

ทั้งนี้ นายสมบัติได้ชวนให้นายสมชัยเข้าร่วมพรรคเกรียน เพราะนายสมชัยมีคุณสมบัติเหมาะสมกับพรรคเกรียน ไม่เหมาะที่จะไปอยู่พรรคไหนเลย ถ้าสนใจสมัครพรรคไหนและไม่มีใครรับสามารถมาร่วมกับพรรคเกรียนได้ เพราะจะได้เกรียนไกล นายสมชัย ได้ตอบสั้นๆ ว่า ไม่รีบเข้าพรรคการเมืองไหนขอคิดก่อน