"ประยุทธ์" ลั่น 3 ปี รบ.พยายามแก้ปัญหาประมงอยู่ แต่เป็นเพราะนโยบายที่มีมานาน ทำให้แก้ยาก พร้อมย้ำเร่งแก้พิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าว 

เมื่อวันที่ 6 มี.ค.61 ที่โรมแรมดุสิตธานี จ.เพชรบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย การแก้ปัญหาค้ามนุษย์ ว่า มีความพอใจในระดับหนึ่ง แต่มีหลายประการที่เป็นข้อกังวลของคณะกรรมการตรวจสอบ เพราะปัญหาของเรามีความซับซ้อน และเป็นนโยบายที่มีมานาน เป็นความเคยชินของผู้ที่มีส่วนร่วมในการประกอบการประมง ซึ่งเกี่ยวข้องทั้งข้าราชการ ผู้ประกอบการ ลูกจ้างประมงบนฝั่ง ลูกเรือ แรงงานในประเทศและแรงงานต่างด้าว ทุกอย่างผันกันไปหมด นี่คือปัญหาที่เราต้องแกะออกมาทีละปัญหา แล้วแก้ไขให้เร็วที่สุด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามทำตรงนี้ ทั้งนี้กฎหมายแรงงานที่กำลังแก้ไขจะสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องการจดทะเบียนแรงงาน ซึ่งตนได้เร่งรัดเรื่องการพิสูจน์อัตลักษณ์​ เพราะมีผลในการตรวจสอบเรื่องอาชญากรรม ผู้กระทำความผิดในคดีอื่นๆ เพราะเราต้องดูแลความปลอดภัยของคนทั้งประเทศ ขณะเดียวกันต้องดูแลหลักประกันสุขภาพของแรงงานด้วย เพราะถือว่าเป็นแรงงานที่สำคัญของประทศ ตราบใดที่คนไทยไม่ทำงานแบบนี้ ก็ต้องมีแรงงานต่างด้าวมาทดแทน แรงงานไทยเองก็ต้องพัฒนาตัวเอง เพื่อมาเป็นหัวหน้างาน ซึ่งกระทรวงแรงงานได้มีการอบรมรับรองคุณสมบัติ เพื่อให้ได้ค่าแรงที่มากขึ้น แต่ถ้าไม่ฟังกันเลย ก็ไปไม่ได้ อยู่ที่เดิมกันหมด หลายคนก็ไม่เข้าใจ ตีกันไป ตีกันมา ตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น นอกจากนี้ยังเห็นความก้าวหน้าระบบการติดตามควบคุมก่อนลงเรือ ก่อนขึ้นฝั่ง เราต้องดูแลทั้งหมด ไม่ได้อยากให้ใครเดือดร้อน ที่รัฐบาลทำไม่ใช่เพื่อแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมายอย่างเดียว แต่ทำเพื่อสินค้าขนาดใหญ่ของประเทศที่มีมูลค่า 2 แสนกว่าล้านบาท เพราะถ้าขายต่างประเทศไม่ได้จะทำอย่างไร แต่เราก็ต้องดูแลคน ทรัพยากรในประเทศ

...

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลเองมีเจตนารมณ์ มุ่งมั่นแก้ปัญหาการรักษาคุ้มครองทางการประมงให้ยั่งยืน มีสัตว์น้ำเพิ่มขึ้นในอนาคต เช่นการส่งเสริมการเพาะพันธุ์ปูม้า ปูทะเล เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ตนก็ได้ไปให้กำลังกลุ่มวิสาหกิจชุมชนธนาคารปูม้า-แพปลาชุมชนแหลมผักเบี้ย เขาเป็นคนทำงานข้างล่าง ส่วนคนที่ทำงานข้างบนตนได้แนะนำ สั่งไป บางทีก็ต้องเข้มงวดบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา เพราะการปกครองบังคับบัญชาต้องเป็นอย่างนั้น ถ้าจะให้ใจดี ทำอะไรก็ทำ คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของนโยบายที่ต้องทำตามห้วงเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งกระทรวงแรงงานกำลังเร่งปรับแผน ดำเนินการให้ทัน ซึ่งปัญหาเรื่องแรงงานไม่ได้อยู่ที่เรา แต่อยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านด้วย เพราะต้องไปขึ้นทะเบียน และพิสูจน์สัญชาติบริเวณชายแดน ซึ่งมีปัญหา อาจจะต้องมีการนัดวันเวลา โควตาในแต่ละพื้นที่ให้ตรงกับประเทศเพื่อนบ้าน มีการกำหนดว่าไปวันไหน กลับวันไหน ไม่ใช่ไปแล้วหายไปเลย แล้วลักลอบเข้ามาใหม่ มันเดือดร้อนไปหมด กลายเป็นว่ารัฐบาลสร้างปัญหาให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งความล่าช้าในการพิสูจน์สัญชาติ อาจเพราะมีเจ้าหน้าที่ ข้าราชการที่เกี่ยวข้องน้อย จึงต้องไปดูโครงสร้าง คนก็ต้องมีเครื่องมือ เราต้องช่วยกันคิด