'วิษณุ' ลั่น มิ.ย. 61 ประกาศวันเลือกตั้งแน่ ยันไม่มีเลื่อนอีก ระบุเร็ว-ช้าอยู่ที่พรรคการเมือง ปัดนายกฯ สั่งติดโคมแดงหน้าทำเนียบฯ แก้เคล็ด แจงแค่ร่วมฉลองตรุษจีน ยินดีรับฟังผลสำรวจดัชนีคอร์รัปชันไทยพุ่ง
เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 61 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ออกมาระบุว่า การเลือกตั้งอาจจะลากยาวไปจนถึงเดือน มี.ค. 62 ว่า หากพูดถึงโรดแม็ปคนทั่วไปจะคิดได้อย่างเดียวกันว่า จะเกิดอะไร เมื่อไร ทุกอย่างมีวันเวลาล็อกอยู่ ตนไม่อยากจะระบุว่าเป็นวันอะไร เพราะความชัดเจนจะเกิดในเดือน มิ.ย. 61 ที่คาดว่ากฎหมายลูกทั้งหมดจะประกาศใช้ โดยคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 53/2560 ระบุไว้ว่าให้เชิญคนที่เกี่ยวข้องมาประชุมหารือกัน ทุกอย่างจึงจะปรากฏชัดในวันนั้น
เมื่อถามว่า หากกฎหมายลูกถูกคว่ำในชั้นกรรมาธิการร่วม หน่วยงานใดจะร่างกฎหมายลูกฉบับใหม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใครก็ได้ เพราะไม่มีการเขียนล็อกเอาไว้ว่าเป็นหน้าที่ของใคร ตั้งขึ้นมาใหม่ก็ได้ หรือให้ กรธ.ชุดเดิมทำหน้าที่ก็ได้ ถ้าจะให้ง่ายก็ให้ กรธ.ทำหน้าที่ เพราะเขาบอกว่าทำ 2 วันก็เสร็จ
นายวิษณุ กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีที่อ่างบัวในทำเนียบรัฐบาลแตก ในวันตรุษจีนถือเป็นลางร้ายของรัฐบาลว่า ส่วนตัวไม่ได้ถือในเรื่องเหล่านี้ และการที่นายกฯสั่งให้ติดโคมจีนสีแดง(เต็งลั้ง)นั้น ก็ไม่แปลก แต่ตนไม่มีความรู้ในเรื่องของการแก้เคล็ดอะไร ทั้งนี้ การประดับโคมจีนที่ระบุไม่ใช่เรื่องแปลกนั้น เพราะตรุษจีนถือเป็นเทศกาลของโลกไปแล้ว การประดับโคมดังกล่าวแสดงออกถึงไมตรีจิต และมิตรภาพที่เรามีต่อชาวจีน และเพื่อร่วมฉลองกับชาวไทยเชื้อสายจีน ไม่แน่ในอนาคตทำเนียบรัฐบาลอาจประดับตกแต่งในเทศกาลอื่นๆ เช่น เทศกาลสงกรานต์ คริสต์มาส เป็นต้น
...
เมื่อถามว่า แต่ทำเนียบรัฐบาลเป็นสถานที่ราชการ การตกแต่งบางอย่างเป็นเรื่องที่ดูไม่เหมาะสม อีกทั้งการประดับโคมจีนสีแดง ก็ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องที่แปลก การทำครั้งแรกก็อาจเป็นเรื่องที่แปลกบ้าง แต่ครั้งต่อๆ ไปก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแล้ว
นายวิษณุ กล่าวถึงกรณีศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทย ที่พบว่าปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันสูงขึ้นว่า รัฐบาลรับทราบผลสำรวจดังกล่าว และยินดีรับฟัง เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นตัวชี้วัดหนึ่ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องไปเร่งปรับปรุงว่าปัญหาอยู่ที่ตรงจุดไหน และเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการประเมินประเทศไทยโดยองค์กรตรวจสอบความโปร่งใสนานาชาติ เพราะเป็นตัวชี้วัดคนละตัว องค์กรนั้นก็ทำของเขาไป
เมื่อถามว่า สะท้อนกลไกแก้ปัญหาการทุจริตของรัฐบาลไม่สามารถทำงานได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มันสะท้อนทัศนะของคนจำนวนหนึ่ง รัฐบาลมั่นใจว่าได้แก้ปัญหานี้ด้วยความเหน็ดเหนื่อย เอาจริงเอาจัง แต่อาจมีบางจุดที่คนในสังคมยังสงสัย หรือตั้งข้อสังเกต เช่น กรณีล่าเสือดำในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เป็นเรื่องที่ตนและสังคมติดตาม แต่สุดท้ายจะเป็นอย่างไรต้องอยู่ว่ากระบวนการที่เกี่ยวข้องจะจบลงอย่างไร ซึ่งต่างจากการทุจริตที่มีหลายเรื่องเป็นการกล่าวหาเลื่อนลอย ทำให้เกิดความรู้สึก ดังนั้นเราจะเอาสิ่งที่เป็นคดีแล้วไปปะปนกับเรื่องทุจริตที่เป็นการกล่าวหา คงไม่ได้ ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ทำออกมานี้ ดูจะเป็นเรื่องมุมมอง เพราะเขาไปสำรวจจากสำนักงานทนายความ นักลงทุน ผู้ประกอบการ ที่เคยจ่ายเงินใต้โต๊ะ-บนโต๊ะ