ผมนั่งเขียนต้นฉบับวันนี้ตอน 6 โมงเช้าของวันอาทิตย์ที่ 14 มกราคมครับ เขียนทันทีที่ตื่นนอน และยังไม่ทันล้างหน้าแปรงฟันด้วยซ้ำ

เหตุที่ต้องคว้าปากกาขึ้นมาเขียนหนังสือทันทีที่ตื่นนอน และไม่ใช่เวลาเขียนหนังสือตามปกติของผม ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เป็นเพราะอากาศที่หนาวเย็นเหลือเกิน จนอดใจเอาไว้ไม่ไหวต้องรีบบันทึกเอาไว้

แอพพลิเคชั่นว่าด้วยอุณหภูมิและการพยากรณ์อากาศในมือถือของผมขึ้นตัวเลข 19 องศาเซลเซียส ให้เห็นอย่างชัดเจนตัวเบ้อเร่อ เมื่อผมคลิกเข้าไปดู

นับเป็นอุณหภูมิหลักเลขสิบที่ผมรอคอยมาหลายวัน นับตั้งแต่กรมอุตุนิยมวิทยาท่านพยากรณ์ว่าจะมีลมหนาวหวนกลับมาอีกรอบหนึ่งสำหรับกรุงเทพมหานคร หลังจากจะมีฝนตกนำร่องอยู่หนึ่งหรือสองวัน

ซึ่งจะเป็นความหนาวเย็นในระดับ 18 หรือ 19 องศาเซลเซียสเช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่แล้ว

ทุกอย่างเป็นไปตามคำพยากรณ์เป๊ะโดยมีฝนตกจริงๆด้วย เพียงแต่ ตกหนักเกินคาดไปหน่อยเท่านั้น แถมตกเกือบทั้งคืนจนน้ำท่วมและรถราติดขัดระเบิดเถิดเทิงในเช้าวันพุธที่ผ่านมาทั่ว กทม.

แถวๆแฟลตคลองจั่นใกล้ๆบ้านผมนั่นเอง ท่วมหนักมากและขังอยู่ นานมากจนประชาชนชาวแฟลตทั้งหลายต้องลุยน้ำออกไปทำงานจนถึงเวลาบ่ายๆด้วยซ้ำไป

หลังจากนั้นอุณหภูมิก็ลดลงตามคำพยากรณ์ แล้วก็กลับมาสู่ความหนาวเย็นอีกครั้งในคืนวันพฤหัสบดี วันศุกร์ และวันเสาร์ที่ผ่านมา

เพียงแต่เย็นมากที่สุดแค่ 20 องศาเซลเซียสเท่านั้น ยังไม่สะใจและยังไม่คุ้มกับความเสียหายทั้งทางจิตใจและทางทรัพย์สินที่ได้รับจากฝนที่ตกนำร่องเท่าไรนัก โดยเฉพาะประชาชนชาวบางกะปิ และแฟลตคลองจั่นที่เจอน้ำท่วมหนักกว่าที่อื่นๆ

ดังนั้น พอวันนี้ลดลงมาได้ถึง 19 องศาเซลเซียส จึงถือว่าพอชดเชยอารมณ์และความเสียหายจากฝนหลงฤดูได้ดังที่หลายๆคนตั้งตารอคอย

...

โดยเฉพาะผมถือว่าพอใจมาก เพราะเป็นไปตามความหวังที่ตั้งไว้ทุกประการ

แต่ก็น่าเสียดายที่อุณหภูมิวันนี้จะเป็นอุณหภูมิหลักเลขหนึ่ง หรือต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส เป็นวันสุดท้ายแล้วสำหรับเขตบางกะปิของผม

เพราะในแอพที่ทำนายล่วงหน้าไปอีก 7 วัน จะเหลือต่ำสุด 22 องศาเซลเซียสเท่านั้นเอง

สำหรับวันที่ต้นฉบับลงตีพิมพ์ ซึ่งจะตรงกับวันอังคารที่ 16 มกราคมอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 23 องศาเซลเซียล จากนั้นก็จะอยู่ในระดับนี้ไปอีก 2-3 วัน แล้วก็จะค่อยๆอุ่นขึ้นเรื่อยๆ

จึงเป็นไปได้ที่อุณหภูมิ 19 องศาเซลเซียส ที่บางกะปิที่ผมบันทึกไว้นี้จะเป็นอุณหภูมิเลขหลักหนึ่งวันสุดท้ายของฤดูหนาว ปี 2560 ที่คาบเกี่ยวมาจนถึงต้นปี 2561

ที่ผมเน้นย้ำเฉพาะบางกะปิ ก็เพราะอุณหภูมิของเขตต่างๆจะไม่เท่ากัน แล้วแต่ภูมิศาสตร์และทิศทางลมที่พัดผ่าน

ผมดูในเฟซของเพื่อนๆพบว่า บางคนโชคดีมากสำหรับความหนาวงวดนี้ เพราะนอกจากจะไม่เจอน้ำท่วมมากหลังฝนตกแล้ว ยังมีโอกาสสัมผัสอุณหภูมิที่นำหน้าด้วยเลข 1 ถึง 2 วัน และบางพื้นที่ก็เห็นโชว์เลข 18 องศาเซลเซียสให้ดูด้วย

ครับ ก็ต้องขอขอบคุณเทพเจ้าแห่งดินฟ้าอากาศที่แม้ปีนี้จะทำให้อากาศวิปริตในหลายๆประเทศทั่วโลกในช่วงฤดูหนาว แต่สำหรับประเทศไทยเราถือว่าดีมาก เพราะแม้จะหนาวมากและหนาวนานกว่าปีก่อน แต่ก็ไม่ถึงขั้นวิปริตแต่อย่างใดเลย

ตรงข้ามกับเย็นสบายๆและเผื่อแผ่ความเย็นลงมาถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑลด้วยถึง 2 ช่วง

ผมก็ได้แต่หวังว่าฤดูหนาว 2561 ที่จะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป อุณหภูมิประเทศไทยจะหนาวเย็นพอๆกับฤดูหนาว 2560 นะครับ

ไม่ใช่อะไรหรอก ถ้าเป็นไปตามโรดแม็ปคนไทยอาจจะได้เลือกตั้งในช่วงพฤศจิกายนเช่นกัน ซึ่งอยู่ในช่วงฤดูหนาวพอดี การเมืองไทยเราจะได้เย็นตามไปด้วย อันจะเป็นผลดีให้เราได้คนใจเย็นมาบริหารบ้านเมือง

ถึงหากจะเป็นผู้บริหารคนเดิมที่อาจจะมาในฐานะคนนอกก็ตามที... แต่การได้เป็นนายกฯในฤดูหนาวของท่านก็อาจจะทำให้ท่านใจเย็นลงกว่าเดิมได้บ้างไม่มากก็น้อย

ยังไงๆจัดเลือกตั้งให้ทันฤดูหนาวปีนี้ (2561) นะครับ...ลุงตู่!

"ซูม"