เลขาปปง.ให้มั่นใจ  ‘นิพิฏฐ์’ จวก ‘วิษณุ’

ป.ป.ช.ปิดมิดข้อมูลสอบนาฬิกาหรู-แหวนเพชร แต่เรียกคนนอกที่มีเอี่ยว 4 รายชี้แจง ทำหนังสือให้ “บิ๊กป้อม” แจงเพิ่มนาฬิกาสุดหรูที่ผุดราวดอกเห็ด อ้างแหวนเพชรราคาไม่ถึงสองแสนเลยไม่แจ้ง “วรวิทย์” ขอสังคมมั่นใจ ป.ป.ช. “นิพิฏฐ์” จวก “วิษณุ” สวนทางยุคปฏิรูป ชี้โพรง ป.ป.ช.แก้ระเบียบเปิดช่องนักการเมือง-ขรก.รับของขวัญ ไล่ไปนุ่งขาวห่มขาวที่อินเดีย อยู่ใกล้อำนาจชักเลอะเลือน “ศรีสุวรรณ” ร่อนแถลงการณ์ค้าน ระบุยิ่งส่งเสริมคอร์รัปชัน “จุรินทร์” ชี้ “บิ๊กตู่” ลงเล่นเต็มตัว “นิพิฏฐ์” เตือนเป็นนักการเมืองต้องรับการตรวจสอบ “จาตุรนต์” ซัดผู้นำไม้หลักปักเลน “วรชัย” ย้อนมั่นใจได้ไงจะไม่มีปฏิวัติอีก ชทพ.อยากเลือกตั้งไม่พร้อมก็ยอม “ประยุทธ์” ผวารับของขวัญเกินมูลค่า “ศรีวราห์” บี้สอบหญิงร่วมเฟรม “ปู”

ประเด็นการครอบครองนาฬิกาหรูนับสิบเรือนและแหวนเพชร ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่สังคมจับตามอง ด้วยความสงสัยว่าไม่ได้แสดงอยู่ในบัญชีทรัพย์สิน ล่าสุดนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. แถลงถึงความคืบหน้าในกรณีดังกล่าวแล้ว

เรียกคนนอกไขปมนาฬิกาหรู

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 5 ม.ค.ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่ง ชาติ (ป.ป.ช.) นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. แถลงความคืบหน้าการตรวจสอบนาฬิกาหรูของ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. กลาโหม ที่ถูกตั้งข้อสงสัยไม่ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. ว่า ป.ป.ช.ทำหนังสือถึงบุคคลที่ 3 จำนวน 4 คน เป็นภาคเอกชนทั้งหมดแต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ ทั้ง 4 รายนี้เกี่ยวข้องกับนาฬิกาของ พล.อ.ประวิตรทั้งหมดทุกเรือนตามที่ปรากฏเป็นข่าว โดยจะเรียกบุคคลที่ 3 เหล่านี้มาให้ข้อมูลในสัปดาห์หน้าบางคนอาจนัดหมายไปให้ข้อมูลนอกสถานที่ การรวบรวมหลักฐานเรื่องนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน คาดว่าจะเสร็จในเดือน ม.ค.นี้ หากได้ข้อมูลว่าต้องขยายผลไปสอบปากคำบุคคลอื่นเพิ่ม หรือหาเอกสารอื่นอีก ต้องขยายเวลาสอบสวนเพิ่มเติม อาจไปถึงเดือน ก.พ. หรือ มี.ค.ได้

...

ให้ “บิ๊กป้อม” แจงผุดเป็นดอกเห็ด

นายวรวิทย์กล่าวว่า ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประวิตรเป็นครั้งที่ 2 ให้ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับนาฬิกาหรู แหวนเพชร และเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ยังไม่มีความชัดเจน ภายใน 15 วัน เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรแจ้งหรือไม่ว่าเจ้าของนาฬิกาทุกเรือนมีสถานะเป็นเพื่อน นายวรวิทย์ตอบว่า ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เมื่อถามว่าหากระบุเหตุผลว่ายืมเพื่อนมาถือว่ามีน้ำหนักรับฟังได้หรือไม่ นายวรวิทย์ตอบว่า ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์และความไว้เนื้อเชื่อใจ ส่วนต้องตรวจสอบข้อมูลจากเพจซีเอสไอแอลเอที่นำเรื่องดังกล่าวมาเปิดเผยหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่ดูรายละเอียด ถ้าจำเป็นก็ต้องดำเนินการตรวจสอบ

ขอสังคมมั่นใจ ป.ป.ช.ทำคดีนี้

นายวรวิทย์กล่าวอีกว่า กรณี พล.อ.ประวิตร ป.ป.ช.ให้ความสำคัญทั้งการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและกรณีความร่ำรวยผิดปกติ ป.ป.ช.ตรวจสอบทุกประเด็นที่เกี่ยวข้อง เป็นมาตรการเชิงป้องกันให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยื่นบัญชีทรัพย์สิน ต้องตรวจสอบดูความถูกต้องและมีอยู่จริง ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินระหว่างดำรงตำแหน่ง หากพบว่ามีเพิ่มขึ้นโดยไม่สัมพันธ์กับรายได้ ก็ต้องไปตรวจสอบที่มาที่ไป ป.ป.ช.ขอให้สังคมมั่นใจในกรณีนี้ว่าทำงานภายใต้หลักกฎหมาย มีสโลแกนซื่อสัตย์ เป็นธรรม และมืออาชีพ หากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจจะเร่งรัดเป็นกรณีพิเศษ ไม่ได้ทำตามลำดับเวลา

อ้างแหวนเพชรไม่ถึงสองแสน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของที่มาแหวนเพชรนั้น พล.อ.ประวิตรได้ทำหนังสือชี้แจงต่อ ป.ป.ช.ว่า มีราคาไม่ถึง 2 แสนบาท จึงไม่จำเป็นต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. ซึ่ง ป.ป.ช.ทำหนังสือไปยัง พล.อ.ประวิตรเพิ่มเติมขอให้แสดงหลักฐานใบเสร็จการซื้อขายแหวนวงดังกล่าว ขณะเดียวกันได้ทำหนังสือสอบถามเพิ่มเติมไปยัง พล.อ.ประวิตรให้ชี้แจงที่มาของนาฬิกาหรูเรือนอื่นที่ปรากฏเป็นข่าวเพิ่มเติมด้วย

“บิ๊กกุ้ย” อ้ำอึ้งเจอนักข่าวซักไซ้

พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า เลขาธิการ ป.ป.ช. รายงานกรณีการถือครอง นาฬิกาและแหวนเพชร ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้ที่ประชุม ป.ป.ช.รับทราบ พร้อมทำหนังสือสอบถาม พล.อ.ประวิตรเพิ่มเติม เมื่อถามว่าแสดงว่าหนังสือชี้แจงของ พล.อ.ประวิตรไม่ชัดเจนใช่หรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพลตอบว่า ไม่ใช่ไม่ชัดเจน แต่เป็นกระบวนการตรวจสอบของสำนักตรวจสอบทรัพย์สินที่ต้องมีข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ที่ประชุม ป.ป.ช.เห็นว่าต้องดำเนินการเรื่องนี้ให้ชัดเจน ส่วนจะเสร็จในเดือน ม.ค.นี้หรือไม่ ยังตอบไม่ได้ เพราะต้องนัดบุคคลที่ 3 มาชี้แจง แต่ยืนยันว่าไม่ได้ลำบากใจ แม้ถูกมองว่าสนิทสนมกับ พล.อ.ประวิตร

จวก “วิษณุ” สวนทางยุคปฏิรูป

ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่อง “นุ่งขาว-ห่มขาว” อ่านข่าวนักกฎหมายใหญ่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. และนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ไปเที่ยวญี่ปุ่นกันมาถือเป็นการชาร์จแบตเติมพลังช่วงปีใหม่ ยินดีที่จะมีกำลังใจกายทำงานเต็มที่ แต่พอกลับจากญี่ปุ่น นายวิษณุบอกว่า ป.ป.ช.จะแก้ไขระเบียบให้นักการเมือง หรือข้าราชการ รับสิ่งของหรือของขวัญได้เกิน 3,000 บาท เพราะระเบียบนี้ออกมานานตั้งแต่ปี 2542 ดูเหมือนนายวิษณุจะเห็นด้วยกับการแก้ไขในครั้งนี้ ค่อนข้างตกใจ เพราะยุคนี้รัฐบาลบอกว่าเป็นยุคปฏิรูปมิใช่หรือ น่าจะเปลี่ยนให้นักการเมืองรับเพียงการ์ดอวยพร ราคา 5-10 บาทดีกว่า มิใช่ให้รับของขวัญในราคาที่สูงขึ้น

ไล่ไปนุ่งขาวห่มขาวที่อินเดีย

นายนิพิฏฐ์ระบุอีกว่า นายวิษณุอาจอยู่ในแวดวงของผู้มีอำนาจมากเกินไป จึงใช้สติปัญญาความรู้-ความสามารถไปในทางปกป้องผู้มีอำนาจ แทนที่จะปกป้องระบบที่มันควรเป็น เห็นทีว่าการไปญี่ปุ่นไม่ได้ก่อประโยชน์อะไร เลยแนะนำนายวิษณุ (อาจารย์ของผม) ว่า คราวหน้าอาจารย์ไปอินเดียดีกว่า ไปนุ่งขาว-ห่มขาว นั่งใต้ต้นโพธิ์ที่พุทธคยา สัก 7 วัน อาจเห็นสัจธรรมที่เป็นความจริงของสังคม และนำความจริงนั้นมาใช้ให้เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ ส่วนท่านจะโกนหัวด้วยหรือเปล่าก็แล้วแต่ท่าน ไม่กล้าแนะนำไปถึงขนาดนั้น

อยู่ใกล้อำนาจเลยเลอะเลือน

นายนิพิฏฐ์ให้สัมภาษณ์เพิ่มว่า ที่โพสต์ในเฟซบุ๊กเพราะเห็นว่า หากเขาทำจริงจะเป็นการสวนทางกับการปฏิรูป จึงอยากให้ทบทวนอย่าปรับแก้อะไร ขอให้ดูนักการเมืองในต่างประเทศที่เป็นประชาธิปไตย เขาไม่ให้รับอะไรเลย เขาปฏิเสธงานเลี้ยง การมอบของขวัญ การออกกฎหมาย หรือแก้กฎหมายใดไม่ควรออกมาเพื่อคุ้มครองคนคนเดียว แต่ต้องออกมาเพื่อสังคมโดยรวม จึงแนะนำควรไปนุ่งขาวห่มขาวที่อินเดียสัก 7 วัน ปรับวิธีคิดใหม่ รวมถึงนายมีชัยด้วย เพราะทั้ง 2 คนอยู่ใกล้ผู้มีอำนาจ ความคิดจึงสนองแต่ผู้มีอำนาจ เลอะเลือนตรงข้ามกับการปฏิรูป ใช้ความรู้ที่มีรับใช้แต่ผู้มีอำนาจมากกว่าประชาชน จึงคิดว่าต้องตั้งหลักใหม่

“ศรีสุวรรณ” ค้านแก้ประกาศ ป.ป.ช.

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า สมาคมฯออกแถลงการณ์คัดค้านการแก้ไขประกาศ ป.ป.ช. เพื่อเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดของเจ้าหน้าที่รัฐ ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุ เพราะไม่มีเหตุผลน้ำหนักพอ นอกจากใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ให้กันเพื่อเลี่ยงกฎหมาย ตามที่ได้ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.สอบกรณีการซื้อลูกสุนัขพันธุ์บางแก้วของนายกฯ และยิ่งเป็นการเพาะบ่มระบบอุปถัมภ์มากกว่าระบบคุณธรรม กลายเป็นปัญหาคอร์รัปชันเพิ่มมากขึ้น ขัดแย้งต่อคำโฆษณาชวนเชื่อว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นฉบับปราบโกง และเสนอให้ ป.ป.ช.แก้ไขปรับปรุงตัดทิ้งมูลค่าทรัพย์สินเหลือเพียง 0 บาท ยกเว้นการให้รับกันโดยธรรมจรรยาหรือในหมู่เครือญาติกันเท่านั้น จึงจะเชื่อได้ว่ารัฐบาล และ ป.ป.ช. มีเจตนาปราบทุจริตจริง

“จุรินทร์” ชี้ “บิ๊กตู่” เล่นเต็มตัว

วันเดียวกัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รอง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ทวิตเตอร์ระบุว่า กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ยอมรับเป็นครั้งแรกว่าเป็นนักการเมืองนั้น วันสองวันมานี้ไม่ว่าไปไหนเจอแต่คนถามเรื่องนี้ว่ามีความเห็นอย่างไร ก็ตอบไปว่าเป็นเรื่องดีที่ยอมรับว่าเป็นนักการเมืองแล้ว จะได้ชัดเจนเลิกคลุมเครือเสียที จะได้แสดงบทบาทได้เต็มที่ไม่ต้องเหนียมอาย เชื่อว่าจากนี้หลายฝ่ายคงสนใจติดตามว่าบทบาทในฐานะ “นักการเมือง” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนักการเมืองแบบไหน ต่างจากที่ท่านเคยวิจารณ์หรือไม่ ส่วนการไม่ปิดประตูตัวเองที่จะเป็นนายกฯคนนอกนั้น สอดรับว่าเป้าหมายการประกาศตัวเป็นนักการเมืองคืออะไร ชี้ให้เห็นว่าจากนี้ไปท่านได้เปลี่ยนบทบาทจากกรรมการ มาเป็นผู้เล่นเต็มตัวแล้ว

นักการเมืองต้องรับตรวจสอบ

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เราตื่นเต้นเกินเหตุกับคำพูด พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ อยากให้ดูที่การกระทำเหมือนหนังสืออย่าดูแค่ปก ขอให้อ่านเนื้อหาข้างใน การพูดของ พล.อ.ประยุทธ์แค่เอื้อประโยชน์ตัวเองในอนาคต ในเมื่อประกาศตัวต่อสังคมแล้วต่อจากนี้ต้องพร้อมยอมรับการตรวจสอบด้วย เพราะนักการเมืองอยู่ได้ด้วยการไว้วางใจจากประชาชนไม่เหมือน ผบ.ทบ. หรือข้าราชการที่อยู่ได้โดยไม่ต้องได้รับความไว้วางใจจากประชาชน เมื่อท่านประกาศว่าเป็นนักการเมืองก็ต้องใช้หลักเกณฑ์เดียวกับนักการเมือง ใช้จริยธรรมของนักการเมืองเป็นหลักคือต้องพร้อมยอมรับการตรวจสอบ ตนจึงไม่ตื่นเต้นอะไรขอให้ดูการกระทำดีกว่าว่าเขาทำอะไร อย่างไร

“องอาจ” ไม่ประมาท ลต.ท้องถิ่น

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่คาดว่าจะเป็นช่วงกลางปี 2561 ว่า พรรคยังไม่ได้เตรียมความพร้อมเรื่องนี้ เพราะยังไม่สามารถเรียกประชุมได้ แต่ได้เตรียมการหาผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.แล้ว เป็นการพูดคุยแบบไม่เป็นทางการ และยังไม่มีความชัดเจนอะไร มีผู้ให้ความสนใจจำนวนหนึ่ง มีทั้งหน้าใหม่จากนอกพรรค และหน้าเก่าในพรรค พรรคจะเฟ้นหาบุคคลที่มีความรู้มีประสบการณ์ โดยเฉพาะงานท้องถิ่น ทำงานตามแนวนโยบายเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ต้องเป็นคนที่มีใจรักงานท้องถิ่น และมีความซื่อสัตย์สุจริตด้วย ทั้งนี้พื้นที่ กทม.แม้จะเป็นฐานเสียงของพรรค แต่ก็ไม่ประมาท จึงต้องเตรียมความพร้อมให้มากที่สุด เพื่อเสนอตัวให้ประชาชนพิจารณาให้เราได้เข้าไปทำงานให้ประชาชน

พท.ลั่นยังไม่ถึงเวลาจับมือ ปชป.

นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ข้อเสนอนายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้พรรคเพื่อไทยจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์สู้กับ คสช.นั้น นายพิชัยเป็นผู้ใหญ่ที่มีความปรารถนาดี แต่พรรคเพื่อไทยไม่เคยพูดคุยเรื่องนี้ ส่วนตัวเห็นว่ายังไม่ถึงเวลาจับมือกับพรรคใด การทำงานร่วมกันต้องคำนึงถึงอุดมการณ์และนโยบายด้วยว่าไปด้วยกันได้หรือไม่ ที่สำคัญต้องฟังเสียงสมาชิกพรรค และเคารพเสียงประชาชน พรรคมีงานต้องทำอีกมาก ทั้งการปฏิรูปพรรค การทำนโยบาย และการพัฒนาให้พรรคเป็นที่พึ่งหวังของประชาชน ยังไม่ถึงเวลาจะพิจารณาว่าจับมือกับพรรคใด

“อ๋อย” ซัดผู้นำไม้หลักปักเลน

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ลงทวิตเตอร์ว่า เป็นหัวหน้ารัฐบาลเผด็จการทหารมา 3 ปีกว่า ผ่านปีใหม่มาแค่ 3 วัน พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศตัวเป็นนักการเมือง ไม่ปิดบังอ้อมค้อมว่าจะเป็นนายกฯ คนนอก พร้อมยืนยันจะไม่มีรัฐประหารอีก ทั้งที่ปลายปีที่แล้วยังว่านักการเมืองเลวทรามอยู่เลย ปีนี้นักการเมืองกลายเป็นคนดีเสียแล้ว เยี่ยมจริงๆ ทำให้เห็นชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนไม่มีหลักไม่มีเกณฑ์อะไร ยึดเอาผลประโยชน์ตัวเองเป็นที่ตั้ง แต่ถ้านายกฯ คนนอกไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์ล่ะ ไปคิดกันเอาเองแล้วกันคือคำขู่ดีๆนี่เอง และถ้า พล.อ. ประยุทธ์ได้เป็นนายกฯ คนนอก มั่นใจพรรคเพื่อไทยจะเป็นฝ่ายค้านแน่นอน

ย้อนมั่นใจได้ไงจะไม่มีปฏิวัติ

นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่ารัฐธรรมนูญเปิดช่องให้เสนอนายกฯ และต่อไปนี้จะไม่มีการปฏิวัติอีกแล้วนั้น รัฐธรรมนูญปัจจุบันวางกับดักหลายอย่าง ต่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้รับการเสนอให้เป็นนายกฯอีกสมัย แต่การบริหารประเทศจะเป็นไปได้ยาก เพราะจะถูกเสียงคัดค้านในสภา การออกกฎหมายต่างๆจะไม่ง่ายเหมือนปัจจุบัน ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์รู้ดีว่าบริหารประเทศยากลำบาก หากวันหนึ่งประเทศติดกับดักรัฐธรรมนูญที่แก้ไขได้ยาก และความขัดแย้งที่ยังไม่ได้แก้ไข จะมั่นใจได้อย่างไรว่าทหารคนอื่นจะไม่เลือกวิธีฉีกรัฐธรรมนูญอีก

นายกฯคนนอกเงื่อนไขฉีก รธน.

นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ พล.อ.ประยุทธ์เชื่อว่าจะไม่มีการปฏิวัติอีก เพราะรัฐธรรมนูญเปิดช่องเรื่องนายกฯคนนอกนั้น กติกาที่เขียนมาใหม่นี้แก้ไขได้ยากมาก เมื่อถึงทางตันไม่มีทางออก เพราะกติกาไม่เป็นตามหลักประชาธิปไตย อาจเป็นเงื่อนไขทำให้ต้องปฏิวัติเพื่อฉีกรัฐธรรมนูญอีก ส่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์ยอมรับว่าเป็นนักการเมืองนั้น หาก พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนักการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย เข้าสู่การเลือกตั้งให้ประชาชนเลือก ก็พร้อมยอมรับ ดีกว่าการเข้ามาด้วยอำนาจพิเศษ

อยากเลือกตั้งถึงไม่พร้อมก็ยอม

นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ยังกังวลว่าหากผู้ยื่นร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความคำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 ที่พรรคการเมืองมองว่าคำสั่งนี้อาจขัดรัฐธรรมนูญ อาจส่งผลให้คำสั่งนี้ไม่มีผลทางกฎหมายหรือไม่ และจะกระทบต่อโรดแม็ปเลือกตั้งในเดือน พ.ย.ได้ ขอให้สังคมจับตาการพิจารณาร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับสุดท้ายที่มีผลต่อโรดแม็ป โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะเข้า สนช.สัปดาห์หน้า เพราะยังไม่เคยสอบถามความเห็นจากพรรคการเมืองเลย ไม่ว่าอย่างไรเรายอมลำบากและรับสภาพ ถึงไม่พร้อมก็ต้องพร้อม เพราะอยากเลือกตั้ง อยากให้อำนาจกลับคืนสู่ประชาชน สำหรับกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ประกาศตัวว่าเป็นนักการเมือง และไม่ปฏิเสธเรื่องนายกฯคนนอกนั้น เป็นเรื่องที่ต้องรอดูต่อไปว่าท่านจะยอมรับการเสนอชื่อหรือไม่ และจะยินยอมให้พรรคใดเสนอชื่อ อย่างไร ก็ตาม ยังไม่ขอตอบว่าหากพรรคทหารได้รับเลือกตั้งเข้ามาด้วยเสียงข้างมาก และได้จัดตั้งรัฐบาล พรรคชาติไทยพัฒนาจะร่วมด้วยหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องที่ยังมาไม่ถึง

เตือน สนช.ระวังเสียคนตอนแก่

ขณะที่นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวว่า การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. กฎหมายลูก 2 ฉบับสุดท้าย หาก คสช.จริงใจ และตั้งใจจะให้มีการเลือกตั้งในเดือน พ.ย.จริง เหตุใดจึงเก็บกฎหมายลูก 2 ฉบับนี้ไว้ในลำดับสุดท้าย นี่อาจเป็นกลเกมให้เกิดความล่าช้า หรือจงใจให้เกิดอุบัติเหตุเพื่อตีตกกฎหมายเป็นข้ออ้างเลื่อนโรดแม็ปออกไปอีก เท่ากับ สนช.ภายใต้การดูแลของนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เป็นปัจจัยสำคัญในกลเกมนี้ แต่นายพรเพชรพูดออกตัวแล้วว่าอาจมีปัจจัยที่ทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไป จึงขอท้าเดิมพันว่าการเลือกตั้งจะไม่เป็นไปตามโรดแม็ป จากร่องรอยการทำหน้าที่ของ สนช.ที่ไร้ความจริงใจ พร้อมรับนโยบายจาก คสช. ไม่ว่าจะขัดหรือแย้งต่อกฎหมาย หรือสัญญาประชาคม ฝากเตือนนายพรเพชรว่า อาจเสียคนตอนแก่ และคงถูกตราหน้าว่าเป็นส่วนหนึ่งในการขัดขวางกระบวนการเลือกตั้ง

“ประยุทธ์” ถกบิ๊กราชการนัดแรก

วันเดียวกันเวลา 09.30 น.ที่กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2561 โดยมี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ยุติธรรม ให้การต้อนรับ โดยก่อนประชุมนายกฯเดินเยี่ยมชมนิทรรศการการให้ความรู้ด้านกฎหมาย การรับเรื่องร้องเรียนและร้องทุกข์ และการช่วยเหลือของกองทุนยุติธรรมผ่านแอพพลิเคชั่น การให้คำปรึกษากฎหมายผ่านระบบวีดิโอคอลไลน์ ที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมจัดขึ้น จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ถ่ายภาพร่วมกับ พล.อ.อ. ประจิน และผู้บริหารของกระทรวงยุติธรรม พร้อมกล่าวว่า ยืนยันว่าที่เข้ามาไม่ได้หวังอะไร แต่จะทำให้เกิด ความยุติธรรม ขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลความยุติธรรม

ผวารับของขวัญเกินสามพัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมนางเมธินี เทพมณี เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เป็นตัวแทนมอบแจกันดอกไม้และกล่าวอวยพรปีใหม่ ขอให้นายกฯมีสุขภาพแข็งแรง มีกำลังกายและแรงใจที่เข้มแข็งบริหารประเทศ เป็นผู้นำตลอดไป ขณะที่นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม มอบของที่ระลึกให้โดยนายกฯถามว่า เกิน 3,000 บาทหรือไม่ นายวิศิษฏ์จึงยืนยันว่าไม่เกิน 3,000 บาท นายกฯจึงกล่าวขอบคุณ อะไรที่เป็นความปรารถนาดีกับตนและครอบครัว ถือเป็นกำลังใจให้ทำงานต่อไปไม่ว่าจะสั้นหรือยาว แต่ที่ขอให้เป็นนายกฯตลอดไปคงลำบาก แม้เป็นเจตนาดี โดยส่วนตัวไม่เคยมีอะไรเป็นการส่วนตัวกับใครทั้งสิ้น มุ่งหวังเพียงทำงานปฏิรูปประเทศให้ได้

ยังไม่แจ้งตารางเลือกตั้ง พ.ย.

นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมเสนอ 2 แผนงาน ได้แก่ การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ให้ประชาชนเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ วิเคราะห์ปัญหาการก่ออาชญากรรมซ้ำของผู้ต้องหาและเยาวชนที่เป็นเด็ก การนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เชื่อมโยงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และเสนอแผนลดความเหลื่อมล้ำของประชาชนในต่างจังหวัด ประสานกระทรวงมหาดไทย สร้างกลไกยุติธรรมชุมชน ยุติธรรมจังหวัด ให้ประชาชนเข้าถึงกฎหมาย ทนายความ

ด้านนางเมธินี เทพมณี เลขาธิการ ก.พ.แถลงว่า นายกฯเร่งรัดให้ทุกส่วนราชการทำงานบรรลุเป้าหมายโดยเร็วตามตัวชี้วัดประเทศ การทำงานต้องทันสมัยในยุคการใช้เทคโนโลยี การดำเนินงานของแต่ละกระทรวงให้ยึดตามโรดแม็ปและพิจารณาไปตามสถานการณ์ เมื่อถามว่า มีการพูดคุยถึงโรดแม็ปเลือกตั้งหรือไม่ นางเมธินีตอบว่า นายกฯยืนยันดำเนินการตามโรดแม็ป แต่ไม่ได้ระบุว่าเดือนไหน

นายกฯปิดปากภาพ “ปู” ว่อนอีก

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์แถลงภายหลังการประชุม เพียงสั้นๆว่า มีการหารือและพูดคุยหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องการปฏิรูป การเดินหน้ายุทธศาสตร์ชาติ นำพาโอกาสของทุกคนให้เกิดความเท่าเทียม ดูแลแก้ปัญหาความยากจน ผู้มีรายได้น้อยอย่างเป็นธรรม เมื่อถามถึงภาพล่าสุดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไปปรากฏตัวที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้เห็นภาพดังกล่าวแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม ได้แต่ส่ายหน้าและเดินลงจากโพเดียม ขึ้นรถเดินทางกลับทันที

“ศรีวราห์” บี้สอบหญิงร่วมเฟรม

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ตามที่มีภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปรากฏตัวที่ประเทศอังกฤษ ได้มอบให้กองพิสูจน์หลักฐาน และกองการต่างประเทศ ดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว เบื้องต้นยังยืนยันไม่ได้ว่าเป็นภาพจริงหรือภาพตัดต่อ ถ่ายที่ไหน เมื่อไหร่ แต่จะให้ บช.สตม.ตรวจสอบบุคคลอื่นตามภาพ ว่า เป็นใคร อยู่ที่ไหน เพื่อจะได้ดำเนินการสืบสวนต่อไป เชื่อว่ายังมีความหวังที่จะได้ตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตราบใดยังปรากฏข้อมูลว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่ตรงนั้นตรงนี้

ต้านใช้ ตร.เกณฑ์มีการเมืองแฝง

อีกเรื่อง นายถวิล ไพรสณฑ์ อดีต ส.ส.บัญชี รายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข้อเสนอคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ที่จะให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ใช้ตำรวจเกณฑ์ลักษณะเดียวกับทหารเกณฑ์ วาระ 2 ปี ว่า ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ เกรงว่าประชาชน จะเดือดร้อนหนักกว่าเดิม เพราะไม่มีหลักเกณฑ์ตรวจสอบ ว่าจะไม่ลุอำนาจ แม้ผ่านการอบรม 2-4 เดือน แต่ ไม่มีหลักประกันว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนจะไม่ถูกละเมิด หรือใช้อำนาจเกินขอบเขต เช่น ตำรวจ อาสาหรือตำรวจบ้านที่ตั้งขึ้นมาช่วยงานเจ้าหน้าที่ ยังลุแก่อำนาจ ใช้อาวุธทำร้ายประชาชน สร้างความเดือดร้อนให้เห็นประจำ ข้อเสนอนี้น่าจะมีนัยยะทางการเมืองแอบแฝง เพราะ คสช.ยังยืนยันว่าจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในปลายปี 2561 มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะใช้ตำรวจเกณฑ์เหล่านี้เป็นเครื่องมือทางการเมืองก็เป็นได้ ตนมองว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปตำรวจ ไม่อยากให้การปฏิรูปครั้งนี้หลงทางโดยปฏิรูปเพื่อตัวเองอีก

จี้รัฐปฏิรูปปลอดภัยทางถนน

ด้านนายนิกร จำนง ประธานชมรมไทยปลอดภัย กล่าวว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในช่วง 7 วันอันตรายที่มีมากถึง 423 ราย ขณะที่ผู้รับผิดชอบแถลงว่าลดลงอย่างน่าพอใจ ทั้งที่ตัวเลขต้องพิจารณาจากค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง พบว่าค่าเฉลี่ยปีนี้สูงกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ ถือเป็นช่วงทดสอบการปฏิบัติด้านความปลอดภัยทางถนนของประเทศเพื่อนำไปดำเนินการตลอดทั้งปี จึงต้องปฏิรูปทั้งนโยบายและโครงสร้างการบริหารจัดการองค์กรการบังคับใช้กฎหมาย และให้มีสถาบันจัดการระบบข้อมูลเพื่อวิเคราะห์แก้ไขจัดทำแผนแม่บทและประกาศ ใช้ซึ่งได้ว่างเว้นมากว่า 1 ปี นำมาตรการสากลมาใช้ จำกัดความเร็วในเขตชุมชน โดยต้องจัดหาเครื่องตรวจจับความเร็วเป็นการด่วน ขณะนี้องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ที่เคยชี้ว่าไทยมีอัตราการเสียชีวิต จากท้องถนนเป็นอันดับ 2 ของโลก ซึ่งมีสรุปอีกครั้งในเดือน พ.ค. ถ้ายังอยู่อันดับ 2 หรือไต่ขึ้นแชมป์จะส่งผลกระทบต่อประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ รายได้การท่องเที่ยว รัฐบาลจึงต้องแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนตลอดทั้งปี ไม่ใช่แค่ปีละ 2 ครั้ง

ทบ.โชว์แสนยานุภาพรถถังจีน

ที่กรมแพทย์ทหารบก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. เป็นประธาน วันคล้ายวันสถาปนากรมแพทย์ทหารบก ครบ 118 ปี โดยได้ร่วมชมการแสดงนิทรรศการทางการแพทย์และงานวิจัย และชมการสาธิตการบริการทางยุทธวิธี อาทิ รถผ่าตัดศัลยกรรมสนามทางยุทธวิธี ชุดปฏิบัติการภูไท และชุดปฏิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉิน ของโรงพยาบาลกองทัพบก จากนั้นให้สัมภาษณ์ถึงรถถังวีที-4 ที่นำมาแสดงในงานวันสถาปนาศูนย์การทหารม้า เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมาว่า ยังอยู่ระหว่างการตรวจรับลอตแรก 28 คัน ยังตรวจรับไม่หมดซึ่งทยอยส่งมาและอยู่ระหว่างกำลังฝึกของกำลังพล ซึ่งรถถังรุ่นนี้ได้เห็นมาหลายครั้งแล้วไม่ใช่เพิ่งเห็นเมื่อวาน ทั้งนี้หลังวันกองทัพบกและวันกองทัพไทยวันที่ 18 ม.ค.นี้ จะเปิดแสดงให้สื่อมวลชนได้ชมการทดสอบสมรรถภาพของรถถังวีที-4

“บิ๊กตู่”เข้มใช้งบท้องถิ่นโปร่งใส

ต่อมาเวลา 20.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. กล่าวในรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนว่า การใช้งบประมาณท้องถิ่นแต่ละปี โดยเฉพาะส่วนที่รัฐบาลอุดหนุนเพิ่มเติม เนื่องจากเก็บเองไม่เพียงพอ ซึ่งพื้นที่ที่มีปัญหาการจัดเก็บรายได้ไม่พอ คือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เทศบาล ต้องไปช่วยกันคิดแก้ไขต่อไป ทั้งนี้ ในปี งบประมาณ 2561 รายได้ทั้งหมดจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 720,000 ล้าน หรือเกือบร้อยละ 30 ของงบประมาณทั้งหมด การใช้งบประมาณจะต้องมีกระบวนการโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยเฉพาะงบอุดหนุนเฉพาะกิจที่ต้องระบุโครงการชัดเจน หากเหลือต้องนำส่งคืนคลัง ซึ่งต้องรู้ในศักยภาพตนเอง ใช้ทรัพยากรและงบประมาณคุ้มค่า สอดคล้องกับภาพรวมประเทศ ดังนั้น อปท. จังหวัด กลุ่มจังหวัด และภาค ต้องมีแผนพัฒนา ต่อไปนี้ต้องเข้มงวดเพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาตร์ชาติ