"อุเทน" ดักคอ สนช.ล้มมวยเตะถ่วง 2 ก.ม.ลูก ยื้อเลือกตั้งตามใบสั่ง เชื่อ พ.ย.61 ยังตั้งคูหาไม่ได้ เหตุผู้มีอำนาจวางกลเกมผ่าน สนช. ท้าเดิมพัน "พรเพชร" เลือกตั้งตามโรดแม็ปได้จริงหรือไม่ พร้อมฝากเตือนจะเสียคนตอนแก่ สวดคำสั่ง 53/2560 กดหัวพรรคเก่า เอื้อประโยชน์พรรคใหม่ กีดกัน ปชช.ไม่ให้มีส่วนร่วมการเมืองตามหลักประชาธิปไตย...

เมื่อวันที่ 5 ม.ค.61 นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงกรณีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. ซึ่งเป็นกฎหมายลูก 2 ฉบับสุดท้ายในชั้นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า หาก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีความจริงใจ และตั้งใจว่าจะให้มีการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนปี 2561 ตามที่ประกาศไว้จริง เหตุใดจึงเก็บกฎหมายลูก 2 ฉบับที่ถือว่ามีความสำคัญมากต่อการจัดให้มีการเลือกตั้งไว้ในลำดับสุดท้าย ซึ่งพรรคคนไทยก็เคยตั้งข้อสังเกตไว้แล้วว่า กฎหมายลูก 2 ฉบับนี้ มีผลชี้ขาดว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ เมื่อไร เพราะนี่อาจเป็นกลเกมให้เกิดความล่าช้า หรือกระทั่งจงใจให้เกิดอุบัติเหตุเพื่อตีตกกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับ หรือเพียงฉบับใดฉบับหนึ่ง เพื่อเป็นข้ออ้างในการเลื่อนโรดแม็ปของ คสช. และทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไปอีก ซี่งเป็นที่แน่นอนว่า จะไปในทิศทางใดก็ต้องเป็นสัญญาณที่ออกจากบุคคลระดับสูงใน คสช. ที่ส่งมาถึง สนช. เท่ากับ สนช.ภายใต้การดูแลของ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.จะเป็นปัจจัยสำคัญในกลเกมนี้ ซึ่งนายพรเพชรก็เคยระบุว่า ยังคิดว่าโรดแม็ปการเลือกตั้งยังเดินหน้าไปตามปกติและตามรัฐธรรมนูญ แต่ก็มีคำพูดระหว่างบรรทัดอีกว่า แต่ถ้าพิจารณาจากปัจจัยอื่นที่ไม่ใช่ปัจจัยทางกฎหมายคงไม่สามารถประเมินได้ ตรงนี้เองเหมือนนายพรเพชรพูดออกตัวแล้วว่าอาจจะมีปัจจัยที่ทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไป จึงอยากขอท้าเดิมพันกับนายพรเพชรว่า การเลือกตั้งจะเป็นไปตามโรดแม็ป ในเดือนพฤศจิกายนปี 2561 จริงหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ จากร่องรอยการทำหน้าที่ของ สนช.ที่ไร้ความจริงใจต่อการปฏิรูปประเทศผ่านการตรากฎหมาย และยังพร้อมจะรับนโยบายจาก คสช.ไม่ว่าจะขัดหรือแย้งต่อกฎหมายของบ้านเมืองหรือสัญญาประชาคมเช่นใด อีกทั้งตลอด 3 ปีที่ผ่านมา กฎหมายที่ผ่านชั้น สนช.หาได้น้อยมากที่มีประโยชน์ต่อส่วนรวม หลายฉบับยังออกมาในลักษณะอัปลักษณ์ ผิดเพี้ยนไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรมอีกด้วย

...

"อยากฝากเตือนถึงคุณพรเพชรว่า หากปล่อยให้กฎหมายลูก 2 ฉบับสุดท้ายล่าช้า หรือมีอันตกไปตามที่หลายฝ่ายจับตามอง ไม่เพียงแต่คุณพรเพชรจะทำตามคำพูดไม่ได้ ยังจะเสียภาพลักษณ์ที่เคยเป็นครูบาอาจารย์มาก่อน แล้วยังจะมาเสียคนตอนแก่อีกด้วย และคงถูกตราหน้าว่าเป็นส่วนหนึ่งในผู้ขัดขวางกระบวนการเลือกตั้ง และไม่มีความจริงใจต่อหลักการประชาธิปไตยอีกด้วย อยากให้ประชาชนและพรรคการเมืองต่างๆ หูตาสว่างและร่วมจับตาการทำหน้าที่ของ สนช.อย่างใกล้ชิด" นายอุเทนระบุ

นายอุเทน ยังได้กล่าวถึง คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 ที่มีสาระสำคัญในการแก้ไข พ.ร.ป. พรรคการเมือง ด้วยว่า การที่ คสช.พยายามชี้แจงว่าเป็นการใช้อำนาจมาตรา 44 เพื่อขยายเวลาให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมตามกฎหมายนั้น แท้จริงแล้วซ่อนนัยว่า คสช.ไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้งเป็นไปตามโรดแม็ป สร้างภาระความยุ่งยากให้กับพรรคการเมืองที่มีอยู่เดิม ตรงข้ามกับหลักการประชาธิปไตย ที่ต้องส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมให้มากที่สุด และทุกอย่างควรจะไม่ยุ่งยากซับซ้อน แต่ควรเข้าถึงได้ง่าย แต่คำสั่ง 53/2560 เสมือนเป็นการกีดกันและสร้างเงื่อนไขให้ประชาชนออกไปจากการมีส่วนร่วมทางการเมือง โดยเฉพาะในส่วนของการยืนยันสมาชิกเดิม ที่ต้องให้แต่ละรายแสดงตัวและนำหลักฐานยืนยันคุณสมบัติต่างๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งแม้พรรคการเมืองจะยินดีเป็นธุระให้ แต่อาจจะเป็นผลให้สมาชิกแต่ละรายเลือกที่จะไม่ยืนยันสถานะ เพื่อตัดปัญหาความยุ่งยากออกไป ในทางปฏิบัติทำได้ยากจึงอาจพูดได้ว่า ทำไม่ได้จริง อาทิ การระบุว่าให้สมาชิกพรรคแสดงหลักฐานครบถ้วนตามกฎหมาย เช่น การไม่ถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง การไม่ติดยาเสพติดให้โทษ หรือไม่เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ เป็นต้น ตรงนี้สร้างปัญหาให้กับทุกพรรค โดยเฉพาะพรรคการเมืองใหญ่ที่มีสมาชิกจำนวนมาก ซึ่งหากพรรคไหนทำไม่ได้ตามเวลาที่กำหนดก็ต้องพ้นสภาพพรรคการเมืองไป จนพูดกันว่ารูปการณ์เช่นนี้การตั้งพรรคใหม่ทำได้ง่ายกว่า สอดคล้องกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่า คสช.ออกคำสั่งเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคตั้งใหม่ ที่หลายพรรคจะมีความเชื่อมโยงกับการสืบทอดอำนาจของ คสช.