นายกฯ ขานรับ "หม่อมอุ๋ย" แนะหากูรูแก้ปมสินค้าเกษตร ช่วยเฟ้นให้แล้วกัน ตอกตอนร่วมรัฐบาลยังทำไม่ได้ เร่งเดินหน้าวางโรดแม็ปแก้ปัญหายากจน แจงจับสลากแจกรางวัลบัตรคนจน แค่จูงใจให้ขึ้นทะเบียนแบบไทยๆ
เมื่อวันที่ 3 ม.ค.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกรณีที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี เสนอให้เชิญผู้เชี่ยวชาญเข้ามาแก้ปัญหาสินค้าเกษตร ในช่วงปีสุดท้ายของรัฐบาลว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ก็ทราบดีเพราะเคยเป็นรัฐบาลกับตนมาก่อนสมัยที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร อยู่ก็ยังทำไม่ได้ วันนี้เสนอให้เอาผู้เชี่ยวชาญมา กรุณาแนะนำมาก็แล้วกันว่าใครมาจากไหน วันนี้เราก็รวบรวมจากทุกความคิดเห็น บางครั้งผู้เชี่ยวชาญต้องเข้าใจบริบทของประเทศไทย การเกษตรของเรามาอย่างไร การเกษตร 1.0-2.0-3.0 ระบบทุนเสรีค้าเสรีทุกคนทราบดีหมด แต่วันนี้มันกลายเป็นประเด็นการเมืองเสียหมด ก็กำลังแก้ทุกวันแก้ง่ายแก้กันไปนานแล้ว วันนี้เราพยายามทำให้ยั่งยืน เราฟังจากผู้รู้เยอะแยะไปหมด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่อยากจะบอกปีนี้พวกเราจะลงไปดูเรื่องปัญหาความยากจน จะแก้ไขได้อย่างไร ทั้งเกษตรกร อาชีพอิสระ ผู้มีรายได้น้อยต่ำกว่าเดือนละ 3 หมื่น รัฐบาลต้องทำให้มีรายได้ 3 หมื่นให้ได้ ก็ต้องเอาเงินมาช่วยตรงนี้โปะไปโปะมา ก็ยิ่งมากขึ้นกินตัวไปเรื่อยๆ เพราะโลกเจริญเติบโตเร็ว ค่าใช้จ่ายมันสูงขึ้น สินค้าที่ใช้เทคโนโลยีมากขึ้นราคาสูงขึ้น แต่รายได้ไม่ขึ้นเลยจะทำอย่างไร ดังนั้นต้องมีการเปลี่ยนแปลงวันนี้เกษตกรหลายกลุ่มเป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ เป็นเกษตรแปลงใหญ่ก็ดีขึ้น รายได้สูงขึ้นมากพอสมควร ปีนี้จะลงรายละเอียดทั้งหมดโดยจะทำอย่างไรกับผู้ที่ลงทะเบียนไว้ทั้งหมด อีกส่วนต้องไปดูมาตรการหรือโมเดลจังหวัด ขึ้นอยู่กับว่าระดับล่างจะรวมกลุ่มกันได้หรือไม่ พร้อมปรับเปลี่ยนตัวเองได้หรือไม่ ถ้าเขาคิดอะไรไม่ออกเลย ก็ลำบาก เราต้องตั้งเกณฑ์ไว้ว่า จากรายได้เดือนละ 2,000 บาท เป็น 5,000 บาท ค่อยๆ ขึ้นเป็นหมื่นหรือสองหมื่นได้ไหม เราต้องทำให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งต้องวางโรดแม็ปการลดยากจนไม่ใช่ทำทีเดียว มันต้องไปสู่ความพอเพียงก่อน ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้ทำโรดแม็ปไว้ชัดเจนก็ต้องช้า ตนก็ไม่ได้โทษรัฐบาลที่ผ่านมา เพราะได้พยายามลดระดับความยากจนจาก 17 ล้านคน วันนี้เหลือ 15 ล้าน แต่ค่าครองชีพมันสูงขึ้น คนที่เคยจนหรือว่าจนน้อยก็เลยจนมากขึ้น ต้องมองสองด้าน ตนคิดว่าผู้เชี่ยวชาญที่ว่ามาจะคิดแบบไหนไม่รู้เหมือนกัน มันต้องคิดแบบบริบทไทยๆ ด้วย บางทีเราไม่ค่อยยอมรับความเปลี่ยนแปลง และอะไรก็ตามที่เอกชนเข้ามาร่วมทำงานด้วยกลายเป็นว่าไปเอื้อประโยชน์หรือเปล่า ตนกำชับเรื่องนี้เสมอมาว่าไม่ให้กลไกเหล่านี้ไปเอื้อประโยชน์ แต่ต้องมาคิดกันว่าจะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจมหภาคกับฐานรากเจริญเติบโตไปด้วยกัน
...
ผู้สื่อข่าวถามถึงการจับสลากให้รางวัลกับผู้ที่ไปลงทะเบียนบัตรคนจน มีการมองว่าไม่สามารถกระตุ้นให้คนจนพัฒนาตนเองได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การจับสลากเป็นมาตรการสร้างแรงจูงใจเท่านั้น และคงต้องมีการแก้ไข และเรากำลังมีมาตรการขั้นที่ 2 ได้สั่งให้ทบทวนไปแล้ว บางครั้งมีความขัดแย้งสูง ก็ต้องสร้างแรงจูงใจกันไปก่อน เพื่อหาวิธีการให้ความร่วมมือกับเราไปก่อน ถ้าไม่สร้างความสนใจก็ไม่มาลงทะเบียนอยู่ดี ครั้งก่อนลงทะเบียนไม่รู้ว่าจะได้อะไร ก็ไม่มาลง ต้องมีมาตรการจูงใจไประยะหนึ่งก่อน เพราะสังคมเราเป็นสังคมแบบนี้ ระยะที่ 2 หากมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ก็ต้องเข้ามาร่วมอบรมอะไรต่างๆ ต้องมีมาตรการถึงจะได้เงินเพิ่ม.