"ศรีสุวรรณ" ยื่นร้อง ป.ป.ช.สอบ "บิ๊กตู่" ปมควักกระเป๋า 2.5 หมื่น ซื้อหมาพันธ์ุบางแก้วให้ "บิ๊กป๊อก-บิ๊กฉัตร" เกิน 3 พัน ส่อผิดกฎหมาย ป.ป.ช.ชัดเจน

เมื่อวันที่ 3 ม.ค.61 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งมี นายสุทธิ บุญมี ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ มารับแทนเลขาธิการ ป.ป.ช. โดยให้ตรวจสอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีพฤติกรรมอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ ในระหว่างลงพื้นที่ จ.พิษณุโลก ได้จ่ายเงิน 2.5 หมื่นบาท ซื้อสุนัขพันธุ์บางแก้ว 3 ตัว และมอบสุนัข 2 ตัวเป็นของขวัญให้กับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กับ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ โดยการให้หรือรับของขวัญซึ่งเป็นสุนัขดังกล่าว ถือว่าเป็นทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่มีมูลค่าเกิน 3,000 บาท เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายมาตรา 103 และ 103/1 ใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และแก้ไขเพิ่มเติมหรือไม่ 

ประกอบการประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่องหลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด โดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่รัฐ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการให้ของขวัญของเจ้าหน้าที่รัฐ และกฎหมายประมวลจริยธรรมของข้าราชการเมือง และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สนช. สจ. สท. เรียก รับ หรือยอมรับทรัพย์สิน ประโยชน์อื่นใด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือประหารชีวิตหรือไม่

...

นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า รวมทั้งอาจมีความผิดในมาตรา 83 ในกรณีความผิดใดเกิดขึ้น โดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป ผู้ที่ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันนั้นเป็นตัวการ ต้องระวางโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้ สำหรับความผิดนั้น จึงมาร้องต่อ ป.ป.ช.ให้ไต่สวนต่อไป

เมื่อถามว่า ทั้งสองรัฐมนตรี ระบุว่า ยังไม่ได้รับสุนัขจากนายกรัฐมนตรี นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เรื่องรับหรือไม่ขึ้นอยู่กับ ป.ป.ช.มีหน้าที่ตรวจสอบให้ชัดเจน เพราะสุนัขพันธุ์บางแก้ว นายกฯ ได้รับมาจากผู้ขาย และส่งถึงบ้านทั้งสามคนหรือยัง ที่ออกมาพูดว่ายังไม่ได้รับ

ด้าน นายสุทธิ กล่าวว่า จะตรวจสอบเอกสารและพยานหลักฐานที่ยื่นมาตามขั้นตอนกรอบเวลา และดูกฎหมายหลักเกณฑ์การรับทรัพย์สิน ซึ่งเรื่องนี้เข้าข่ายผิดกฎหมายที่ห้ามรับทรัพย์สินเกิน 3,000 บาท แต่ต้องดูกฎหมายปัจจุบันไม่ถึงผู้ให้ โดยไปดูผู้รับ มีหลักเกณฑ์ในประกาศ ข้อ 7 เรื่องการรับโดยไม่สามารถปฎิเสธได้ เพื่อมิตรภาพไมตรีจิต หรือถ้าได้แสดงความไม่อยากรับของแล้ว แต่ยังจำเป็นต้องรับไม่ให้เสียน้ำใจ สามารถทำเรื่องแจ้งต่อผู้บังคับบัญชาหรือส่งคืน โดยรัฐมนตรีทั้งสองทำเรื่องแจ้งหน่วยงานในการส่งคืน เมื่อไม่สมควรก็สามารถส่งคืนได้เลย และดูถึงระยะเวลาครอบครองว่านานหรือไม่นาน ทั้งนี้จะส่งฝ่ายสอบสวนไปดูที่บ้าน ยังมีสุนัขหรือไม่ แม้ว่าออกมาบอกส่งคืนแล้วก็ตาม ซี่งเราต้องทำตามกฎหมายมาตรา 103 กับประกาศหลักเกณฑ์การรับทรัพย์สิน ผลประโยชน์ ไม่ให้เกิน 3,000 บาท ตนเห็นว่ากรณีนี้เป็นเรื่องดีส่งผลกระตุ้นให้กับสังคมไทยตื่นตัวและเคารพกฎหมาย.