หากจะจับความการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ประเด็นโรดแม็ป คสช. ที่ยืนยันว่าทุกอย่างยังเดินหน้าไปตามโรดแม็ปเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนใครจะตั้งพรรคทหารหรือดีลการเมือง หรือจะประกาศวันเลือกตั้งอะไรเมื่อไหร่นั้น ไม่รู้เพราะไม่รู้จริงๆ กับอีกบริบทของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้า คสช. ที่ออกมาดักคอว่า หากการเมืองไม่สงบสองขั้วขัดแย้งการเมือง ยังจับมือกันไม่ได้ ก็ยังไม่มีสัญญาณการเลือกตั้ง นอกจากนี้ยังแขวะนักการเมือง กลัวทำไมกับนายกฯคนนอก เคาะระฆังยกที่หนึ่ง ระหว่าง การเมืองกับ คสช. ที่มีแม่น้ำ 5 สาย เป็นกำลังหลัก ยกแรกต้องถือว่า คสช. ได้เปรียบเพราะไม่มีเสียงตอบรับจากสังคมไม่จำเป็นจะต้องเร่งรีบเลือกตั้งถ้าบ้านเมืองยังไม่สงบเรียบร้อย

ณ จุดนี้ คงไม่ต้องเสียเวลาตั้งคำถามว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเล่นการเมืองต่อหรือไม่ หลักฐานออกทนโท่ ขึ้นอยู่กับว่าจะนึกสนุกลงสนามเลือกตั้งหรือไม่เท่านั้น แต่ในเบื้องต้น ยึดโมเดลสามัคคีธรรมบวกกับพลังแผ่นดินเอาไว้ก่อน

แต่ครั้งนี้รอบคอบเป็นพิเศษ ชนักที่ติดหลังนักการเมือง บวกกับการเดินสายของ ผช.ผบ.ทบ. พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ย่องไปเคลียร์พื้นที่และกระชับพื้นที่ไปในตัว ในขณะที่ กอ.รมน. เกาะติดหนึบในพื้นที่ คอยปรับทัศนคติ บรรดาหัวคะแนนแบบวันสต็อปเซอร์วิสด้วยแล้ว พิมพ์เขียว คงไม่เสียเปล่า

บรรดานักการเมืองเสือซุ่มทั้งหลายที่กำลังดูทิศทางลม คงได้กลิ่นอะไรบางอย่าง เพราะฉะนั้นกลุ่มการเมืองและพรรคการเมืองขนาดกลางขนาดย่อม เช่น กลุ่มเพชรบุรี กลุ่มชลบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี สระแก้ว กรุงเทพฯ ปริมณฑล ภาคเหนือตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน เลยคึกคักเป็นพิเศษ

เรื่องนายทุนไม่ต้องไปพูดถึง ใช้คำว่ายกแผง บวกกับงบประมาณท้องถิ่น ต้องถือว่า สีเขียว วางนโยบายเอาไว้แยบยลตั้งแต่วันแรกของการยึดอำนาจมาจนถึงวันนี้ เป็นไปตามสเต็ปทุกอย่าง

...

แต่จะว่าไปแล้ว เหนือฟ้ายังมีฟ้า งานเลี้ยงยังมีวันเลิกรา อำนาจวาสนาแข่งกันไม่ได้ มีอำนาจแต่ไม่มีวาสนาก็ถมไป ปัจจัยเสี่ยง ของ คสช.วันนี้ก็คือ ความขัดแย้งในกองทัพและความสามัคคีของขั้วขัดแย้งทางการเมือง

จะทำให้ คสช.ล่มปากอ่าว

สมมติการแต่งตั้งโยกย้ายในกองทัพทั้งกลางปีและประจำปี ไม่ราบรื่น สมมติการเมืองบีบจน ประชาธิปัตย์กับเพื่อไทยจับมือกัน ต้านพรรคทหาร และเกิดเหตุการณ์ พฤษภาทมิฬ หรือเมษาฮาวาย ทิศทางการเมืองของประเทศก็ต้องเปลี่ยนไปตาม การหักเหของอำนาจอีกกระทอก

ปี 2561 เป็นปีที่จะมีการกระชับพื้นที่ กระบวนการยุติธรรม เคลื่อนโรดแม็ปเข้าสู่การเลือกตั้ง เป็นปีที่ต้องจับตาผู้นำ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ไปประกาศเป็นประชาคมโลกว่า ปีนี้จะมีการประกาศความชัดเจนในการเลือกตั้ง เข้าใจง่ายๆคือจะกำหนดวันเลือกตั้งว่าเป็นปีไหนวันไหน จึงถือว่าเป็นปีหัวเลี้ยวหัวต่อ

เป็นปีที่การเมืองมีความเสี่ยงสูง.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th