ป.ป.ช.จ่อสอบนาฬิกาอีกเรือน
“บิ๊กป้อม” อ่วมเพจดังกัดไม่ปล่อย นักสืบโซเชียลขุดรูปโชว์หรานาฬิกาหรูโผล่อีกเรือน “ริชาร์ด มิลล์” รุ่นอาร์เอ็ม 30 แพงระยับ 4 ล้าน ขณะแจกทุนนักเรียนที่ จ.จันทบุรี ป.ป.ช.พร้อมขยายผลสอบเพิ่มเติม เผยยื่นบัญชี 4 ครั้ง ไม่พบแจงในรายการทรัพย์สิน นายกฯ ลงพื้นที่แก้จนเอาใจคนกาฬสินธุ์ อ้อนชาวบ้านให้อยู่ต่อก็อยู่ได้ ย้ำปลดล็อกการเมืองเมื่อถึงเวลาอันควร สนช.รับลูก “สุเทพ-ไพบูลย์” ชงรื้อ ก.ม.พรรคการเมือง อ้างไม่กระทบโรดแม็ป “วิษณุ” แบไต๋ คสช.นกรู้คิดไว้นานแล้วแก้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญขยายเวลา กรธ.ชี้คนตั้งแท่นจ้องรีเซ็ตสมาชิกพรรคใหญ่ “นิพิฏฐ์” แฉเกมคว่ำ ก.ม.ลูก-แก้ รธน.วางยายื้อวันเลือกตั้ง พท.ซัดรัฐบาลปั่นกระแสเกินเหตุ จี้คืนคูหากาบัตรฟื้นสัมพันธ์อียู ศาลสั่งจำคุก 11 กปปส.พัทลุง ขัดขวางเลือกตั้งปี 56
จากกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ถูกยื่นเรื่องให้ตรวจสอบกรณีครอบครองนาฬิกาหรูและแหวนเพชร โดยไม่ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กชื่อดังในโลกโซเชียลยังคงติดตามขุดคุ้ยอย่างต่อเนื่อง โดยได้เผยภาพ พล.อ.ประวิตรสวมนาฬิกา “ริชาร์ด มิลล์” อีกเรือนหนึ่ง ที่มีราคาสูงกว่าเรือนแรกที่ตกเป็นข่าว ขณะที่ ป.ป.ช.ระบุพร้อมตรวจสอบเพิ่มเติม
“บิ๊กป้อม” ไปนครพนมงดจ้อสื่อ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ธ.ค. ที่อาคารศรีโคตรบูรณ์ มหาวิทยาลัยนครพนม จ.นครพนม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม เฝ้ารับเสด็จฯสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2559 โอกาสนี้ พล.อ.ประวิตรได้เข้ารับมอบปริญญารัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ ทั้งนี้ ก่อนเข้ารับปริญญา พล.อ.ประวิตรไปยังมณฑลทหารบกที่ 210 จ.นครพนม สักการะอนุสาวรีย์พระยอดเมืองขวาง และฟังสรุปการพัฒนาจังหวัดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยตลอดทั้งวัน พล.อ.ประวิตรไม่ได้สัมภาษณ์แต่อย่างใด
...
เพจดังปูดนาฬิกาหรูโผล่อีกเรือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. หลังจากเพจเฟซบุ๊ก CSI LA เคยโพสต์ภาพ พล.อ.ประวิตร สวมนาฬิกายี่ห้อริชาร์ด มิลล์ ในวันประชุม ครม.ประยุทธ์ 5 นัดแรก จนถูกวิพากษ์วิจารณ์และมีการยื่นให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ตรวจสอบ ล่าสุดเพจดังกล่าวได้โพสต์ภาพ พล.อ.ประวิตรสวมนาฬิกาหรูที่ข้อมือขวาอีกเรือนขณะกำลังลูบศีรษะเด็กนักเรียน เป็นยี่ห้อเดียวกัน พร้อมโพสต์ข้อความว่า เจออีกแล้ว นักสืบโซเชียลทำงานกันหนักแล้วเจอริชาร์ด มิลล์ รุ่นอาร์เอ็ม 30 มูลค่า 4 ล้านบาท อีกเรือนที่ใส่ไปจันทบุรี วันที่ 11 ก.ย.2560 ในฐานะประธานมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด นำคณะมอบเงินสินไหมทดแทนเยียวยาผู้ประสบภัยพิบัติช้างป่า และทุนการศึกษาแก่บุตร-ธิดาเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ
ป.ป.ช.จ่อสอบ ”ริชาร์ด มิลล์“ ตัวใหม่
ด้านนายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการ ป.ป.ช.รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีเพจเฟซบุ๊ก CSI LA โพสต์รูป พล.อ.ประวิตร ใส่นาฬิกา “ริชาร์ด มิลล์“ อีกเรือน ซึ่งเป็นคนละเรือนกับที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ว่า ถ้ามีประเด็นเพิ่มขึ้นมาก็อยู่ในข่ายที่ ป.ป.ช.จะตรวจสอบเพิ่มเติมได้อยู่แล้ว เพราะเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.ในการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน สำหรับนาฬิกาหรูเรือนใหม่นั้นยังไม่ทราบว่ามีการแจ้งในบัญชีทรัพย์สินหรือไม่ คงต้องไปตรวจสอบดูบัญชีทรัพย์สินที่ พล.อ.ประวิตรยื่นมาว่า มีการแจ้งมาหรือไม่
เผย 4 ครั้งไม่พบยื่นทรัพย์สินมีค่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบการยื่นบัญชีทรัพย์สินของ พล.อ.ประวิตร ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช.ทั้ง 4 ครั้ง ได้แก่ 1.กรณีเข้ารับตำแหน่งรมว.กลาโหม เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.51 2.กรณีพ้นจากตำแหน่ง รมว.กลาโหม เมื่อวันที่ 10 ส.ค.54 3.กรณีพ้นจาก รมว.กลาโหมครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 9 ส.ค.55 และ 4.กรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายกฯและ รมว.กลาโหม เมื่อวันที่ 4 ก.ย.57 ไม่พบว่าเคยแจ้งรายการทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ ที่มูลค่าเกิน 2 แสนบาทต่อ ป.ป.ช.
โหร ส.ว. แนะ “บิ๊กตู่” ตัดใจเฉือนไส้ติ่ง
ช่วงบ่าย นายบุญเลิศ ไพรินทร์ อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคประชาธิปัตย์ หรือฉายาโหร ส.ว. โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “บิ๊กป้อมมีบุญคุณต่อบิ๊กป๊อกและบิ๊กตู่” ใจความว่า “บิ๊กป๊อกอาจไม่มีโอกาสตอบแทนบุญคุณบิ๊กป้อมเรื่องตำแหน่งหน้าที่ทางการเมืองเหมือนกับบิ๊กตู่ บิ๊กตู่มีโอกาสตอบแทนบุญคุณบิ๊กป้อมและบิ๊กป๊อกในตำแหน่งรองนายกฯและ รมว.กลาโหม และตอบแทนบุญคุณบิ๊กป๊อกด้วยตำแหน่งรมว.มหาดไทย บิ๊กตู่มีบุญวาสนาบารมีมากกว่า “นาย” ทั้งสอง เมื่อปลดเกษียณแล้วได้เป็นหัวหน้าคสช. และนายกฯจึงตอบแทนบุญคุณนายทั้งสองได้ ถ้าบิ๊กตู่อยากจะเดินหน้าช่วยชาติราชบัลลังก์และประชาชนต่อไป บิ๊กตู่ต้องตัดใจที่จะตัดไส้ติ่งออกไป เพื่อจะได้คล่องตัวและไม่เป็นเหยื่อทางการเมืองให้ฝ่ายตรงข้ามหยิบยกมาโจมตี หรือบิดเบือนทำให้สังคมเสื่อมศรัทธา นักการเมืองต้องระลึกเสมอว่าอำนาจต้องมีไว้เพื่อสร้างความดีงามของสามสิ่งดังกล่าวแล้วเท่านั้น อำนาจไม่ได้มีไว้เพื่อสร้างความร่ำรวยให้ตนเอง ไม่ได้มีไว้เพื่อกลั่นแกล้งใครๆและไม่ได้มีไว้เพื่อตอบแทนบุญคุณใครทั้งนั้น ผมอดนึกถึงคำคมที่ผู้นำจีนคนหนึ่งกล่าวโดยสรุปว่า ต้องไม่เอาผลประโยชน์ของชาติไปตอบแทนบุญคุณส่วนบุคคลโดยเด็ดขาด”
นายกฯบินแก้จนมัดใจคนกาฬสินธุ์
เมื่อเวลา 07.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.และคณะ อาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ลงพื้นที่ติดตามนโยบายรัฐบาลที่ จ.กาฬสินธุ์ จุดแรก พล.อ. ประยุทธ์ ไปยังหมู่บ้านโพน ต.โพน อ.คำม่วง สวมเสื้อพื้นเมืองภูไท ขึ้นรถอีแต๊ก เยี่ยมชมวิถีชีวิต ตลอด 2 ข้างทางมีชาวบ้านมารอต้อนรับพร้อมตะโกนบอกขอให้เป็นนายกฯต่อไปอีก 10 ปี ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้โบกมือทักทายพร้อมกล่าวว่า “ผมมาด้วยใจ เพราะคิดถึง มาไม่ได้หวังอะไร มานำร่องแก้ความยากจน” จากนั้นได้ไปยังศูนย์วัฒนธรรมภูไท เยี่ยมชมการทอผ้าไหมแพรวากาฬสินธุ์ โดยมีแม่คำสอน สาทอง ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประณีตศิลป์-ทอผ้า) บรรยายการทอผ้าไหมแพรวา
ออเซาะให้อยู่ต่อพร้อมอยู่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้ร่วมฟ้อนภูไทกับชาวบ้าน สร้างบรรยากาศคึกคัก และถ่ายภาพร่วมกับชาวบ้าน ชิมดักแด้ไหมพร้อมชมว่า “แซ่บหลาย” ก่อนกล่าวกับประชาชนตอนหนึ่งว่า วันนี้รัฐบาลมาต้องการทำให้ดีกว่าเดิม แต่ต้องร่วมมือกัน ไม่ใช่รอแต่รัฐ และต้องรักสามัคคีกัน ไม่ทิ้งกัน ไม่ใช่คนนี้รวย คนนี้จน วันหน้าต้องไปด้วยกันให้ได้ ตนทำปัจจัยพื้นฐานให้ก่อน ได้ยินฝั่งหนึ่งบอกเลือกตั้งเร็วๆ อีกฝั่งบอกให้เป็นนายกฯต่ออีก 10 ปี บอกให้เป็นนายกฯต่อไปนานๆ เดี๋ยวค่อยว่ากัน อยู่ที่พวกเราด้วยจะให้อยู่ต่อหรือไม่ ถ้าบอกให้อยู่ต่อก็อยู่ได้ จากนั้นนายกฯไปเป็นประธานมอบโค-กระบือ และเครื่องจักรกลการเกษตรให้กับตัวแทนชาวบ้าน โดยนายกฯกล่าวว่า ปีนี้ต่างประเทศมาเที่ยวประเทศไทยถึง 34 ล้านคน สูงที่สุดตั้งแต่ที่ตนเข้ามา คงเพราะเห็นบ้านเมืองสงบ ไม่มีข้อขัดแย้ง ทั้งนี้ ระหว่างที่พูดนายกฯเสียงแหบ ไอเป็นระยะๆ โดยได้บอกกับชาวบ้านว่า “ช่วงนี้เป็นหวัดนิดหน่อย ก่อนเดินทางมา 3 วัน ฉีดยามา 3 เข็ม เพราะกลัวไม่ได้มาเจอกับพี่น้อง แต่ผมสู้ตายอยู่แล้ว”
ทุ่ม 2 พันล้านพัฒนาเมืองน้ำดำ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า จ.กาฬสินธุ์ ถือเป็นจังหวัดนำร่องในการพัฒนาหลุดพ้นจากความยากจน รัฐบาลทำงานแบบข้ามกระทรวงไม่มีพรรค ถ้าทำไม่ดีก็กลับบ้านพักผ่อน วันนี้ไม่มีการเมือง มีแต่การบ้าน ได้อนุมัติงบประมาณโครงการต่างๆ ทั้งอุโมงค์ผันน้ำลำพะยังภูมิพัฒต์ 305 ล้านบาท ก่อสร้างเส้นทางคมนาคม 4 ช่องการจราจร 3 โครงการ 1,400 ล้านบาท อนุมัติงบฯจัดซื้อเครื่องสาวไหม 5 เครื่อง เครื่องละ 5 ล้านบาท งบฯปรับปรุงต่อเติมศูนย์การเรียนรู้ และสานต่อเส้นทางสายไหมในประเทศไทย จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ถามชาวบ้านว่า ในการเลือกตั้งจะเลือกใคร ชาวบ้านตะโกน “ เลือกพล.อ.ประยุทธ์” นายกฯจึงตอบกลับว่า “จะไปเลือกผมได้ยังไง ผมลงเลือกตั้งไม่ได้ แต่วันหน้าเลือกให้ดีก็แล้วกัน ต้องเลือกคนที่พูดแบบนี้” ส่วนปัญหาการถือครองที่ดิน ใครบ้านอยู่ไกลจากชุมชน ย้ายมาร่วมในชุมชนได้ไหม เพื่อเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ง่าย แต่ยังไปทำกินที่เดิมได้
ย้ำปลดล็อกเมื่อถึงเวลาอันควร
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า วันนี้ต้องตรวจสอบว่าวิทยุชุมชน หอกระจายข่าว ได้กระจายสาระที่เป็นประโยชน์หรือไม่ พูดเรื่องอะไรตนไม่เคยไปปิดกั้น ใครจะว่าใครจะด่าหรือใครจะเขียนถึงตนอย่างไรรับได้ แต่ไปพูดให้ต่างชาติเข้าใจว่าตนเผด็จการ มันไม่ใช่ ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายที่เท่าเทียม ต้องขอความเป็นธรรมให้ได้ชี้แจงบ้าง ในช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ถามขึ้นว่า มีใครในที่นี้อยากปลดล็อกบ้าง เห็นร้องขอให้ปลดล็อกการเมืองกันมามาก การปลดล็อกตนจะทำตามเวลาที่เห็นว่าสมควร ดังนั้น วันหน้าอย่ามาถามอีก หลังจากนั้นนายกฯได้ไปรับประทานอาหารกลางวัน เสร็จแล้วให้ผู้ติดตามเรียกพยาบาลมาตรวจดูอาการหวัดและวัดความดัน เนื่องจากมีอาการไอมากขึ้น พร้อมให้นำยาที่เตรียมมาให้กิน ระหว่างลงพื้นที่นายกฯ กินทั้งน้ำมะพร้าว ข้าวเหนียวมะม่วงและดักแด้ไหม
สอนคนอีสานรักให้ถูกคน
ต่อมาเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ไปเยี่ยมชมอุโมงค์ผันน้ำลำพะยังภูมิพัฒน์ รับฟังการบรรยายสรุปโครงการลุ่มน้ำลำพะยังตอนบน และโครงการฝายลำพะยังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และได้กล่าวกับประชาชนว่า เราจะร่วมมือกันปลดล็อกปัญหาเกษตรกร คนอีสานเป็นคนซื่อสัตย์อดทนอยู่แล้ว รักใครรักจริง แต่ขอให้รักคนให้ถูก เพราะรู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ อยากเห็นลืมตาอ้าปากได้ ทำอะไรให้คำนึงถึงตลาด เช่น ราคาข้าวราคาตกก็ตกหมด จะไปขายใคร รัฐบาลก็ซื้อไม่ได้ ซื้อไปคราวที่แล้วก็เน่าอยู่ในคลัง เอาข้าวผิดชนิดมาปน ไม่ได้ว่าใครผิดหรือถูก หรือโจมตีใครเพราะรู้อยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นตนคงไม่ได้มาอยู่ตรงนี้และขอให้เชื่อใจ จากนั้นนายกฯ ได้ปล่อยพันธุ์ปลา 200,110 ตัว ลงอ่างเก็บน้ำลำพะยังตอนบน ปลูกต้นพะยอม ต้นไม้ประจำ จ.กาฬสินธุ์ และร่วมประชุมสรุปยุทธศาสตร์การพัฒนา จ.กาฬสินธุ์ ที่วิทยาลัยเทคนิคเขาวง เสร็จแล้วจึงเดินทางกลับกรุงเทพฯ
สนช.รับลูก “ไพบูลย์-สุเทพ” ชงรื้อ ก.ม.ลูก
เมื่อเวลา 15.00 น. ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ เลขานุการวิป สนช.แถลงผลการประชุมวิป สนช.ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาข้อเสนอแนะจากพรรคการเมืองและกลุ่มการเมือง แบ่งเป็น 2 กลุ่ม 1.เกรงจะดำเนินการเรื่องฐานข้อมูลทะเบียนสมาชิกพรรค เลือกกรรมการบริการพรรคไม่ทันตามกรอบเวลา ที่ประชุมเห็นว่า กฎหมายพรรคการเมือง เปิดช่องให้พรรคการเมืองยื่นต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองเพื่อขอขยายระยะเวลาการดำเนินการตามความจำเป็นได้อยู่แล้ว และยังเปิดช่องให้พรรคการเมือง ร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้อีก การยื่นขอขยายเวลาจากนายทะเบียนพรรคการเมือง จะง่ายและใช้เวลาน้อยกว่าการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายพรรคการเมือง ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นข้อเสนอจากนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรูป และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เสนอให้แก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง วิป สนช.บางส่วนเห็นว่า เป็นเรื่องรายละเอียด อาจไม่จำเป็นต้องแก้กฎหมาย อาจเชิญทั้ง 2 ท่านมาพูดคุย หรือแก้ไขจากแนวทางปฏิบัติของ กกต.ก็ได้ โดยวิป สนช.ได้รับไว้พิจารณา ส่งเรื่องต่อให้ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษา เสนอแนะ และรวบความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญพิจารณา
ยันไม่กระทบโรดแม็ปเลือกตั้ง
นายสมชายกล่าวอีกว่า สำหรับกรอบเวลาการพิจารณาข้อเสนอแนะของนายไพบูลย์และนายสุเทพยังไม่ได้กำหนด แต่จะทำให้เร็วที่สุด อาจไม่ต้องแก้ไขกฎหมายพรรคการเมืองก็ได้ แต่ใช้การออกประกาศและข้อบังคับของ กกต.แทน เพราะหากแก้ไขกฎหมายลูกพรรคการเมือง จะมีขั้นตอนที่ต้องใช้เวลารับฟังความคิดเห็นตามมาตรา 77 วรรคสองของรัฐธรรมนูญด้วย เมื่อถามว่า หากแก้ไขกฎหมายพรรคการเมือง โรดแม็ปเลือกตั้งในเดือน พ.ย.61 ต้องเลื่อนไปหรือไม่ นายสมชายตอบว่า ยังไม่ถึงขั้นนั้น ตอนนี้ทุกอย่างยังเป็นไปตามโรดแม็ป พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ว.จะเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2-3 ของ สนช.ในวันที่ 21-22 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ข้อเสนอแนะของนายสุเทพ ที่ขอให้ สนช.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรค การเมืองนั้น ส่งมาที่ สนช.ตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค.ก่อนนายไพบูลย์ยื่นเรื่องถึง สนช.ในวันที่ 13 ธ.ค.
“วิษณุ” แบไต๋ คสช.คิดไว้นานแล้ว
ที่โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ผู้ริเริ่มก่อตั้งพรรคประชาชนปฏิรูป เสนอให้แก้ไข พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง เพื่อความเป็นธรรมระหว่างพรรคการเมืองเดิมกับพรรคการเมืองใหม่เรื่องสมาชิกและทุนว่า ขณะนี้ยังไม่มีการตกลงอะไร แต่รู้กันโดยทั่วไปว่าแก้ไขได้ 2 ทางคือ การ แก้กฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมือง หรือปลดล็อกประกาศและคำสั่ง คสช. ที่ห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง แต่หากปลดล็อกวันนี้ยังกระชั้นกับกรอบเวลาในกฎหมายลูกอยู่ดี จึงเหลือทางแก้กฎหมาย ซึ่งมีการคิดกันมานานแล้ว คสช.รู้ตั้งแต่ต้นว่าหากเกิดอะไรขึ้นมาต้องแก้กฎหมายลูกพรรคการเมือง เพื่อผ่อนปรนขยายเวลา จะทำให้พรรคการเมืองไม่เสียสิทธิกรณีปฏิบัติไม่ทันตามกรอบเวลา ถึงอย่างไรพรรคการเมืองก็ส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งได้ ยังไม่ต้องรีบร้อนอะไร ตอนนี้กฎหมายเลือกตั้งยังไปไม่ถึงไหน ยังไม่รู้ว่าจะเลือกตั้งเมื่อไหร่ แต่จำเป็นต้องแก้ไขหรือไม่ ขอไม่ตอบตรงนี้ ที่พูดมาทั้งหมดคือทางแก้หากเกิดปัญหาขึ้นมา ส่วนที่มีข้อท้วงติงว่ากฎหมายยังไม่มีการปฏิบัติจริงแต่มีแนวคิดจะแก้ไขแล้วนั้น หลายมาตราได้ปฏิบัติไปแล้ว ยกเว้นที่เขียนไว้ในบทเฉพาะกาล
กรธ.แฉจ้องรีเซ็ตสมาชิกพรรค
นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า หากทำตามข้อเสนอของ นายไพบูลย์เข้าใจว่า จะส่งผลให้เกิดการรีเซ็ตสมาชิกพรรคทันที เช่น พรรคประชาธิปัตย์ มีฐานสมาชิก 3 ล้านคน หากแก้ไขต้องโละฐานสมาชิกเดิมแล้วหาใหม่ แต่นับจาก คสช.เข้ามากว่า 3 ปี ไม่เคยมีแนวคิดเช่นนี้ เพราะไม่ได้ยุบพรรค ยังให้มีพรรค การเมืองอยู่ต่อไป กรธ.ได้จัดทำกฎหมายอย่างรอบคอบ เปิดช่องไว้หากพรรคการเมืองดำเนินการเรื่องสมาชิกและทุนไม่ทัน ยังยื่นขอขยายเวลาต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองได้ ส่วนจะมีการแก้ไขตามที่นายไพบูลย์เสนอหรือไม่ ขึ้นกับการพิจารณาของ คสช.
ส่วนที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ระบุว่า พรรคการเมืองเหลือเวลา 24 วัน จัดการงานทะเบียน หากไม่ทันอาจถูกยุบพรรค หรืออาจส่งผลต่อเวลาหาเสียงและทำไพรมารีโหวตจะน้อยลง เมื่อกฎหมายลูกทั้ง 4 ฉบับแล้วเสร็จ ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 150 วันนั้น งานเอกสาร งานทะเบียนสมาชิก เก็บเงินทุนค่าบำรุง ขอขยายเวลากับนายทะเบียนพรรคการเมืองได้ ส่วนกำหนดการเลือกตั้งภายใน 150 วัน เป็นหน้าที่ของ กกต.ออกประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้ง มีกรอบเวลาอยู่อย่างไร พรรคการเมืองก็หาเสียงทัน ไม่ต้องเป็นห่วง เชื่อว่า พรรคการเมืองเป็นมืออาชีพ เหมือนนักมวยพร้อมขึ้นชกทุกเมื่อ
“นิพิฏฐ์” แฉเกมคว่ำ ก.ม.ลูก–แก้ รธน.
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการยื่นขอให้ สนช.แก้ไขกฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 140 และ 141 ว่า หากไล่ตามโรดแม็ปที่กำหนดในรัฐธรรมนูญปี 60 คือ กรธ.ต้องร่างกฎหมายลูก 10 ฉบับ ให้แล้วเสร็จใน 240 วัน โดยเฉพาะกฎหมายหมวดเลือกตั้ง 4 ฉบับคือ กฎหมาย กกต. กฎหมายพรรคการเมือง และอีก 2 ฉบับคือ กฎหมายการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. ที่ สนช.ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จใน 60 วัน ตามรัฐธรรมนูญกำหนด หากมีการรับลูก แก้ไขประเด็นตามนั้น โดยอาจจะใช้มาตรา 44 เพื่อเร่งให้เสร็จโดยเร็ว กฎหมายพรรคการเมืองจะไม่สอดคล้องกับกฎหมายการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. เชื่อว่าในที่สุดจะมีการคว่ำร่างกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. จะทำให้เกิดผลกระทบต่อรัฐธรรมนูญปี 60 คือ ต้องมีการขอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมในรายละเอียดว่า ถ้ากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายลูกฉบับใดถูกคว่ำลง จะต้องมีวิธีการยกร่างใหม่ขึ้นมาอย่างไร เพราะในรัฐธรรมนูญปี 60 ไม่ได้บัญญัติไว้แต่เดิม
เป้าหมายวางยายื้อวันเลือกตั้ง
นายนิพิฏฐ์กล่าวอีกว่า ไม่มีใครรับประกันได้ว่าจะใช้เวลาแก้ไขรัฐธรรมนูญและยกร่างกฎหมายลูกที่ถูกคว่ำนานเท่าใด แน่นอนที่สุดต้องกระทบต่อโรดแม็ปการจัดเลือกตั้ง ที่รัฐบาลระบุจะให้มีในเดือน พ.ย.61 อาจต้องเลื่อนออกไปอีกโดยปริยาย ทั้งนี้วิเคราะห์จากสมมติฐานว่ามีการรับลูกแก้ไขกฎหมายพรรคการเมืองตามที่มีคนยื่นประเด็นให้แก้จะกระทบต่อโรดแม็ปเลือกตั้งแน่นอน
ฉะรู้กันขยิบตา สนช.ลากยาว
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ประเด็นของนายไพบูลย์ตรงกับประเด็นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.ให้สัมภาษณ์ในวันเดียวกัน คือการรีเซ็ตสมาชิกพรรคการเมืองนับหนึ่งใหม่ นายไพบูลย์อ้างว่าไม่เป็นธรรมกรณีสมาชิกชำระค่า ธรรมเนียม บางคนไม่ได้ชำระ และ พล.อ.ประยุทธ์ก็พูดถึงความเป็นธรรมของพรรคเล็กพรรคใหญ่ ควรเป็นธรรมเท่าๆกัน ส่วนนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ยังสำทับอีกดอก จึงเชื่อว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องรู้กัน ประกอบกับนายพรเพชร วิชิตชลชัยให้สัมภาษณ์ว่า หาก สนช.รับเรื่องนี้จะเลื่อนโรดแม็ปการเลือกตั้งออกไป แปลกมากเสมือนคนในรัฐบาลเสนอแก้ไขกฎหมาย ทั้งที่ผ่านการพิจารณาจาก สนช.และคณะกรรมาธิการแล้ว เชื่อว่าเป็นความตั้งใจของรัฐบาลและ สนช.ที่จะเลื่อนโรดแม็ปออกไป นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์แล้วว่ารัฐบาลและ คสช.ต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ความน่าเชื่อถือของประชาคมโลก หาก สนช.กลืนน้ำลายตัวเองก็ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าการเลือกตั้งจะเลื่อนออกไปอีกนานเท่าใด นับเดือนหรือนับปี
ชทพ. สำทับสังคมรู้ทันเกมเตะถ่วง
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ว่า นายไพบูลย์ต้องคำนึงว่าจะส่งผลต่อการขยายเวลา หรือส่งผลต่อความเชื่อถือของรัฐบาล หรือต้องการจะเป็นพนักพิงให้รัฐบาลขยายโรดแม็ป ส่วนกรณีปลดล็อกพรรค การเมืองที่ คสช.ยังไม่มีท่าทีจนกว่าจะหลังเทศกาลปีใหม่นั้น ต้องขอยกคำของนายชวน หลีกภัย อดีตนายกฯ ที่ให้ข้อคิดไว้ดีมาก ทุกอย่างใครเป็นคนทำคนนั้นต้องเป็นคนรับผิดชอบ พรรคการเมืองสนับสนุนให้รัฐบาลให้ คสช.ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญทำสิ่งที่ถูกกฎหมาย แต่เมื่อรัฐบาลและ คสช.ยังไม่ทำ เมื่อทุกอย่างล่วงผ่านพ้นไป คนที่รับผิดชอบเต็มๆหนีไม่พ้น คสช.กับรัฐบาลเมื่อถามว่ารองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าปลายทางเรื่องนี้คือยื้อการเลือกตั้ง นายสมศักดิ์กล่าวว่า ทุกคนก็มองเช่นนั้น ถึงได้บอกว่านายไพบูลย์ว่า ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ว่าเจตนาเบื้องหลังเรื่องนี้จริงๆคืออะไร
พท.ซัด รบ.ฉกฉวยไอโอเกินเหตุ
วันเดียวกัน พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ระบุว่า จากกรณีที่มติของที่ประชุมคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปหรืออียู เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหภาพยุโรปนั้น 1.มติดังกล่าวยังยืนยันท่าทีของสหภาพยุโรปที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทยอย่างหนักแน่น จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลปัจจุบันที่จะต้องดำเนินการและผลักดันให้เกิดสภาวะการกลับมาซึ่งประชาธิปไตย และยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยเร็ว 2.ไทยมีพันธกรณีที่ต้องปฏิบัติตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและพันธกรณีระหว่างประเทศอื่นๆ 3.การเลือกตั้งที่น่าเชื่อถือ สุจริตและเที่ยงธรรมจะทำให้ประเทศได้รับความเชื่อถือจากนานาชาติ สร้างโอกาสด้านเศรษฐกิจ 4. รัฐบาลควรเข้าใจให้ถ่องแท้ถึงถ้อยคำว่าอียูจะเริ่มมีปฏิสัมพันธ์ทางการเมืองอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะมีการเข้าใจไปในทำนองว่าจะฟื้นความสัมพันธ์ด้านการเมือง ซึ่งอาจไม่ตรงกับ ความหมายของฉบับภาษาอังกฤษ ซึ่งหมายความเพียงแค่ว่าจะติดต่อทางการเมืองกับไทย ดังนั้น ไม่ควรมีการใช้ปฏิบัติการไอโอ หรือข้อมูลข่าวสารจนเกินเหตุ
จี้เร่งจัดเลือกตั้งฟื้นฟูสัมพันธ์
แถลงการณ์ระบุด้วยว่า 5. เรียกร้องให้รัฐบาลและนายกฯได้ตระหนักถึงข้อ 12 ของมติดังกล่าวว่าจะยังพิจารณาทบทวนความสัมพันธ์ โดยให้ความสำคัญกับการยกเลิกข้อจำกัดเสรีภาพ การยกเลิกข้อจำกัดเกี่ยวกับกิจกรรมทางการเมืองของพรรคการเมือง การจัดการเลือกตั้งที่น่าเชื่อถือ การมีรัฐบาลพลเรือนจากการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้ดำเนินการโดยเร่งด่วนและจริงจังเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง ที่น่าเชื่อถือ บริสุทธิ์ ยุติธรรมตามวิถีทางประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เพื่อให้มีรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง เร่งสานความสัมพันธ์กับอียูให้แน่นแฟ้นดังที่เคยเป็นมาในอดีต และจะสามารถเร่งเปิดการเจรจาและลงนามข้อตกลงเขตการค้าเสรีและข้อตกลงอื่นๆ บนพื้นฐานของความเป็นธรรม
ชุดปฏิรูปการเมืองเปิดเวทีรับฟัง
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่สถาบันพระปกเกล้า คณะกรรมการปฏิรูปการเมืองได้จัดรับฟังความคิดเห็นร่างแผนการปฏิรูปประเทศด้านการเมืองแบบโฟกัสกรุ๊ป โดยนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานคณะกรรมการ เสนอแผน 5 ด้าน ประกอบด้วย 1.การเสริมสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข 2.กลไกการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธีและการรู้จักรักสามัคคีของสังคมไทย เพื่อสร้างบรรยากาศทางการเมืองไม่ให้นำไปสู่ความขัดแย้งในอนาคต 3.การกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่นและการจัดสรรทรัพยากรที่เป็นธรรม 4.การเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรมเพื่อการปฏิรูปประเทศ 5.การสร้างรัฐธรรมาธิปไตย โดยเชิญฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเมืองมาให้ความเห็น
“สมชัย” ชี้ คสช.ไม่ต่อท่อเลือกตั้งจะดี
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลปัจจุบันไม่ยุ่งกับพรรคการเมืองไหนเลย ไม่เอาตัวเข้าไปสนับสนุนพรรคการเมือง เพื่อวางแผนสืบทอดอำนาจ การเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นการเลือกตั้งที่ดี แต่ถ้าคิดว่าจะต้องเข้าไปมีโอกาสมีตำแหน่งในรัฐบาลหน้า อำนาจนี้จะน่ากลัวมาก จะถูกถ่ายทอดเข้าไปสู่ข้าราชการที่เป็นกลไกของการเลือกตั้ง ยังไม่รวมถึงผู้จัดการเลือกตั้งว่าจะเกรงใจรัฐบาลเพราะได้รับการส่งเสริมเข้ามาหรือไม่ ถ้าต้องการสังคมที่ไม่มีความขัดแย้ง ต้องทำให้การเลือกตั้งเป็นธรรม แต่กติกาก็ไม่เป็นธรรม ผู้เล่นได้เปรียบเสียเปรียบ อย่าหวังว่าหลังเลือกตั้งสังคมสงบสุขได้ วันนี้ยังทันที่จะปรับปรุงในเรื่องที่ไม่แฟร์เกม อย่าคิดมุ่งเอาชนะมากเกินไป การปฏิรูปที่จะเกิดขึ้นไม่ควรคิดไกลว่าจะคิดแผนอย่างไร แต่ควรคิดและทำให้เกิดขึ้นในวันนี้ ต้องกล้าบอกกับสังคม อาทิ ต้องกล้าที่จะบอกให้มีการปลดล็อกพรรคการเมืองไม่ใช่ไปปลดล็อกช่วงใกล้ 150 วันที่ต้องจัดการเลือกตั้งให้เสร็จอะไรไม่ถูกต้องในหลักปฏิบัติของบ้านเมืองต้องชี้ให้สังคมเห็น เช่น การลงคะแนนลับเลือกบุคคลที่สมควรเป็น กกต.ในที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา และหากประชาชนสงสัยในพฤติกรรม จริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องให้บุคคลนั้นชี้แจงประชาชน ไม่ใช่เพิกเฉยอ้างแต่ว่าจะไปชี้แจง ป.ป.ช.
กมธ.ชงสกัด จนท.ป.ป.ช.ดองคดี
บ่ายวันเดียวกัน ที่รัฐสภา พล.ร.อ.ธราธร ขจิตสุวรรณ โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปราบปรามการทุจริต กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมจะเคาะเนื้อหาให้แล้วเสร็จสัปดาห์นี้ เพื่อบรรจุเข้าวาระ 2-3 ของ สนช.ต่อไป โดยประเด็นที่ถูกจับตาคือบทเฉพาะกาลเรื่องการต่อ หรือไม่ต่ออายุคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดเก่า จะคุยกันประเด็นสุดท้าย ส่วนประเด็นการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินของนักการเมือง จากร่างเดิมที่ กรธ.เสนอกำหนดนั้น มีแนวโน้มความเป็นไปได้ เนื้อหามาตรฐานการยื่นบัญชีทรัพย์สิน จะไม่หนีจากกฎหมาย ป.ป.ช.ปี 42 และ กมธ.ได้คุยเพิ่มเรื่องหลักการ การไต่สวนคดี การวางกรอบให้เจ้าหน้าที่ ห้ามดองคดี ต้องทำงานรวดเร็ว ถ้าตรวจสอบพบจงใจทำให้คดีล่าช้า มีบทลงโทษทางวินัยถึงขั้นไล่ออก และเรื่องคุณธรรม จริยธรรม กมธ.จะบรรจุคำว่า “ระบบอุปถัมภ์” เอาไว้ในเนื้อหากฎหมายด้วย ทั้งหมดจะสรุปวันที่ 15 ธ.ค.
แฉทฤษฎีสมคบคิดต่อวีซ่า ป.ป.ช.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประเด็นเรื่อง ต่อหรือไม่ต่ออายุคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดเก่านั้น ใน กมธ.พูดคุยกันว่า จะให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดเก่าอยู่ต่อไปตามยุทธศาสตร์ของ คสช.ที่ใช้ “ทฤษฎีสมคบคิด” โดยให้ สนช.เสียงข้างน้อย 36 คน ไปยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความคุณสมบัติของผู้ตรวจการแผ่นดินก่อนหน้านี้ และศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาว่า เป็นอำนาจของ สนช.ที่กำหนดว่าจะให้องค์กรอิสระใดอยู่ต่อหรือไม่อยู่ต่อ จึงมีความเป็นไปได้ว่า เป็นการปูทางให้การพิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ที่เกี่ยวข้องกับการอยู่ในตำแหน่งต่อไป ขององค์กรอิสระ อาทิ ที่ปรากฏในกฎหมายลูกว่าด้วยศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนหน้านี้
คสช.แจ้งจับ “หมวดเจี๊ยบ” เพิ่มอีก
รายงานข่าวเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดทางเทคโนโลยี (ปอท.) คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มอบอำนาจให้ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารปฏิบัติการ ประจำกองทัพบก เข้าพบพนักงานสอบสวน ปอท.ให้แจ้งความร้องทุกข์กับผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก ชื่อ “สุนิสา เลิศภควัต” และชื่อ “หมวดเจี๊ยบ 1” ที่ได้เสนอบทความหรือโพสต์ข้อความเป็นความเท็จและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และเผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก โดยเมื่อวันที่ 30 ก.ย.60 เวลา 22.21 น. มีการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “สุนิสา เลิศภควัต” ข้อความว่าจริงหรือไม่ ที่สื่อนอกประโคม ข่าวว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เตรียมไปเจรจาซื้ออาวุธเพิ่มและส่งปิดดีลส่งมอบแบล็กฮอว์ก 4 ลำ ที่เคยดีลค้างไว้ก่อนยึดอำนาจปี 2557 และจริงไหมที่สหรัฐฯเตรียมบีบให้ไทยเป็นแกนนำคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ เมื่อวันที่ 8 ต.ค.60 เวลา 18.25 น. เฟซบุ๊ก “สุนิสา เลิศภควัต” และเวลา 18.30 น. เฟซบุ๊ก “หมวดเจี๊ยบ 1” ได้โพสต์ข้อความว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยากให้คนไทยตกงานเพิ่มหรือไง จึงจะเปิดตลาดนำเข้าเครื่องในหมู แย่งตลาดพ่อค้าไทย ผู้แจ้งพิจารณาแล้วว่าเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปี 2550 มาตรา 14 (2)
คู่กรณีโร่มอบตัวปฏิเสธทุกข้อหา
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ บก.ปอท. ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมนายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความ เข้าพบ ร.ต.อ.สมบัติ สมบัติโยธา รอง สว. (สอบสวน)กก.3 บก.ปอท.เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หลังฝ่ายกฎหมายคสช.เข้าแจ้งความดำเนินคดีฐานความผิดนำเข้าข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ และข้อหายุยงปลุกปั่น กรณีโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก พาดพิง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.เปิดทำเนียบรัฐบาล ต้อนรับตูน บอดี้สแลม ในโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ กับการดำเนินการกับผู้ชุมนุมคัดค้านสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา เป็นการเลือกปฏิบัติ โดยพนักงานสอบสวนใช้เวลาสอบสวนกว่า 3 ชั่วโมง เบื้องต้นได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวกลับ ทั้งนี้ มีผู้แทนสถานทูตหลายประเทศเดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย
ศาลสั่งจำคุก กปปส.พัทลุง
เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ศาลจังหวัดพัทลุง ได้อ่านคำพิพากษาในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทวี ภูมิสิงหราช อายุ 72 ปี อดีต ส.ว.พัทลุง และแกนนำ กปปส.พัทลุงกับพวกรวม 11 คน ฐานร่วมขัดขวางการรับสมัคร ส.ส.พัทลุง เหตุเกิดระหว่างวันที่ 28-31 ธ.ค.56 ณ หน่วยเลือกตั้งล่วงหน้า กองร้อย ตชด.434 พัทลุง และร่วมกันขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ กกต.พัทลุง ณ เทศบาลตำบลท่ามิหรำ อ.เมืองพัทลุง ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าผู้ต้องหากระทำผิดจริง จึงพิพากษาจำคุกจำเลยทั้ง 11 คน โดยไม่รอลงอาญา ได้แก่ นายทวี ภูมิวิงหาราช จำคุก 5 ปี นายจรูญ พรรณราย จำคุก 4 ปี นายประหยัด อินทร์ทองปาน จำคุก 4 ปี นายปิติพันธ์ จุรุพันธุ์ จำคุก 4 ปี นางวิมล พงศ์จันทร์เผือก จำคุก 4 ปี นายปราโมทย์ เพชรดวง จำคุก 2 ปี นางโฉมพิไล บุญผลึก จำคุก 1 ปี นายดอน พุ่มมาลี จำคุก 2 ปี นายเฉลียว เกื้อสุข (เสียชีวิต) นายสันติชัย ชายเกตุ จำคุก 2 ปี นายสุพลชัย คงเขียว จำคุก 5 ปี