องอาจ จี้ บิ๊กตู่ กวดขันคนข้างกาย เพราะถูกสังคมนินทาอาจเกี่ยวข้องทุจริต ชี้ ผลสอบนาฬิกาหรู ของบิ๊กป้อม พิสูจน์ ป.ป.ช.ชี้หากสุดท้ายคนเกิดเคลือบแคลงจะไม่เป็นผลดีต่อการทำงานขององค์กรอิสระอื่นๆ ด้วย
วันที่ 10 ธ.ค. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการตรวจสอบ นาฬิกาหรู และแหวนเพชร ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ว่า ตนคิดว่า การที่รัฐมนตรี หรือข้าราชการท่านใด จะใช้สิ่งของแบรนด์เนมหรือไม่อย่างไร ขึ้นอยู่กับฐานะ เป็นสิทธิส่วนบุคคลแต่ละคน แต่แน่นอนที่สุด ในกรณีที่ใครใช้ของแพง แล้วสังคมเกิดความสงสัย ว่า สิ่งเหล่านั้นได้มาโดยชอบธรรมหรือไม่ เป็นเรื่องที่บุคคลนั้น ต้องชี้แจงข้อเท็จจริง บ้านเรามี ป.ป.ช. ในฐานะที่ตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง บุคคลนั้น ต้องแสดงที่มาที่ไปต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน
ตนว่า คนใน ป.ป.ช.ถูกตั้งข้อสังเกตจากสังคมอยู่แล้วว่า มีความสัมพันธ์กับคนในรัฐบาล แต่การมีความสัมพันธ์เป็นเรื่องปกติ เรื่องนี้จะมีผลต่อการตรวจสอบหรือไม่ เนื้องานของ ป.ป.ช.ที่ออกมา จะเป็นเครื่องพิสูจน์ ว่า ความสัมพันธ์ส่วนตัวจะมีผลเหนือความรับผิดชอบของ ป.ป.ช.ในฐานะองค์กรอิสระ ว่าจะทำงานอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่ แต่ถ้าไม่โปร่งใส ผู้คนจะเคลือบแคลงในตัวองค์กรอิสระ ไม่เกิดผลดีต่อการทำงานขององค์กรอิสระอื่นๆ ในอนาคต
นายองอาจ กล่าวถึงการแสดงเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต เนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากลของนายกฯ ให้คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต และอย่าร่วมมือกับการโกงว่า นับเป็นเรื่องดีที่ผู้นำรัฐบาลประกาศเอาจริงเอาจังกับการทุจริต แต่การเอาจริงเอาจังเฉพาะตัวนายกฯ เพียงคนเดียว คงไม่เพียงพอ นายกฯ ควรต้องกวดขันคนในรัฐบาลทุกระดับ เพราะตลอดสามปีกว่าที่ผ่านมาของรัฐบาลชุดนี้ ถึงแม้เราไม่ค่อยได้ยินว่า นายกฯ เกี่ยวข้องกับการทุจริต แต่มักได้ยินคำครหานินทา ว่า คนในรัฐบาลบางคนเกี่ยวข้องกับการทุจริตอย่างต่อเนื่อง ระยะหลังๆ ความไว้วางใจต่อรัฐบาลในเรื่องทุจริต ลดลงเรื่อยๆ เมื่อเทียบกับในช่วงปีแรกที่เข้ามาทำงานใหม่ๆ
...
"คนในรัฐบาลที่นายกฯ ควรจะกวดขันเป็นพิเศษ คือ กลุ่มที่มีสถานะเปรียบเสมือนเพื่อนพ้อง น้องพี่ของนายกฯ ที่มักเข้าไปพัวพันกับโครงการที่ไม่ชอบมาพากลอยู่บ่อยๆ ถ้านายกฯ แสดงออกถึงการกวดขันคนในรัฐบาลอย่างจริงจัง ไม่ให้เกี่ยวข้องกับการทุจริตก็จะช่วยทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลและดัชนีความโปร่งใสของไทยปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ด้วยการเริ่มต้นเอาจริงเอาจังกับคนในรัฐบาลไม่ให้เกี่ยวข้องกับการทุจริตจะเป็นก้าวย่างที่สำคัญ ที่จะช่วยทำให้การแสดงเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริตของนายกฯ ปรากฏเป็นจริงได้ในที่สุด" นายองอาจ กล่าว