"วัชระ" เปรียบ "ท็อปบูตเหยียบหัวใจชาวสวนยาง" เหน็บเจ็บทีให้เจ้าสัวเข้าพบง่าย แต่ชาวสวนยางคนทุกข์ยากให้ทหารจับ
เมื่อวันที่ 20 พ.ย.60 นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีทหารเชิญตัวแกนนำชาวสวนยาง 2 คน ที่จะไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. เข้าค่ายทหารที่ จ.ชุมพร และปล่อยตัวไปแล้วนั้น ว่า เข้าใจว่าทหารทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ต่างคนต่างทำหน้าที่เพราะถ้านายไม่สั่ง ทหารไม่กล้าทำเด็ดขาด จึงต้องถาม คสช.และนายกฯตรงไปตรงมาว่า ท่านสั่งให้ทหารเชิญตัวแกนนำชาวสวนยางเข้าค่ายทหารจริงหรือไม่ เพราะเหตุใด ส่วนตัวตนไม่เชื่อว่าเป็นคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะกำลังอยู่ในช่วงการรณรงค์หาเสียงที่จะเป็นนายกฯสมัยหน้า แต่การเชิญแกนนำสวนยางเข้าค่ายทหาร เปรียบเสมือนใช้ท็อปบูตเหยียบย่ำลงบนหัวใจของชาวสวนยางทั้งประเทศ ตนเป็นลูกชาวสวนยางจะนิ่งดูดายอยู่ได้อย่างไร ซึ่งทหารต้องเข้าใจโดยบริบททั้งปวงว่า การทำเช่นนี้ ยิ่งสร้างภาพเผด็จการให้กับผู้นำรัฐบาลว่าละเมิดสิทธิเสรีภาพใดๆ ที่กฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 บัญญัติรับรองไว้จะกระทำมิได้ และการกระทำทั้งปวงของข้าราชการต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญเสมอกัน
"ผมเพิ่งจะพูดถึงกรณีนายสำรอง เพ็ชรทอง แกนนำชาวสวนยาง จ.พัทลุง ที่ถูกกักตัวที่ค่ายทหาร หากดำเนินการตามกฎหมายเรื่องมันจะยุ่งอีรุงตุงนัง ทหารที่ปฏิบัติก็จะเดือดร้อน เพราะไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย เจ้านายคนสั่งก็ช่วยอะไรไม่ได้ ถ้าหากเรื่องถึงศาลยุติธรรม พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรีบส่งสัญญาณให้รู้ว่า เมื่อประชาชนจะมายื่นหนังสือถึงนายกฯสามารถทำได้อย่างเสรี เพราะรัฐบาลก็จัดที่รับเรื่องของประชาชนไว้ที่สำนักงาน ก.พ. ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาลแล้ว ชาวสวนยางมียางอาย ถ้าไม่เดือดร้อนจริงคงไม่ดิ้นรนบากหน้ามาขอพบนายกฯที่ กทม.แน่ ทีท่านให้พวกเจ้าสัว ลูกเจ้าสัวเข้าพบได้ แล้วทำไมจะให้ชาวสวนยางเข้าพบไม่ได้ อย่าไปเชื่อที่ปรึกษา หรือโหรให้มากเกินไป ชาวสวนยางนี่แหละขบวนคนทุกข์ยากของจริง และกำลังต้องการพึ่งนายกฯในวันนี้ ขอให้มองชาวสวนยางด้วยสายตาแห่งกัลยาณมิตร" นายวัชระ กล่าว
...