"มีชัย" บอกสายไปแล้ว เสียงท้วงระบบคำนวณคะแนน เพราะมีบัญญัติใน รธน.แล้ว โชว์อิทธิฤทธิ์คะแนน "โนโหวต" พรรคการเมืองต้องแคร์ประชาชน เชื่อไร้ปัญหาพรรคการเมืองส่งผู้สมัครไม่ทัน

เมื่อวันที่ 19 พ.ย.60 นายมีชัย ฤชุพันธ์ุ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวก่อนประชุม กรธ.เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. ถึงกรณีที่หลายพรรคการเมืองแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับระบบการคำนวณส.ส.แบบใหม่ว่า จะทำให้ไม่มีพรรคการเมืองใดได้คะแนนเสียงเด็ดขาด ส่งผลให้รัฐบาลหลังเลือกตั้งไม่มีเสถียรภาพนั้นว่า ไม่จริง เพราะถ้าประชาชนลงคะแนนให้พรรคใดมาก พรรคนั้นก็ได้คะแนนมาคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อมาก เว้นแต่ได้คะแนนถล่มทลายก็ไม่มีสิทธิได้ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่ม และที่วิเคราะห์ว่าจะไม่มีพรรคการเมืองใดได้คะแนนเสียงเกินครึ่งหนึ่งของส.ส.ทั้งหมดนั้น เป็นเพียงเรื่องคาดเดาเท่านั้น โดยวิธีการที่ออกแบบจะทำให้บัตรทุกบัตรมีความหมายนำมาใช้คำนวณ อย่างไรก็ตามข้อห่วงใยนี้ก็ช้าเกินไปแล้ว เนื่องจากระบบการคำนวณนี้เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญแล้ว

ส่วนการร่างกฎหมายเลือกตั้งส.ส.ในขณะนี้เพียงแต่เป็นการอธิบายวิธีการคำนวณ และการคำนวณก็ไม่ยาก โดยเจ้าหน้าที่ กกต.เป็นผู้คิด ใช้สูตรคำนวณแบบบัญญัติไตรยางศ์ชั้นเดียว ขณะที่ประชาชนแค่เข้าใจว่าคำนวณพื้นฐานอย่างไรก็พอ เพราะไม่ต้องช่วยกกต.คำนวณ

นายมีชัย กล่าวต่อว่า รู้สึกแปลกใจว่า เขาไม่สนใจเรื่องการลงคะแนนไม่เลือกใครเลยหรือ เพราะการลงคะแนนไม่เลือกใครเลยในคราวนี้มีอิทธิฤทธิ์สูง หากในเขตเลือกตั้งใด มีคะแนนไม่เลือกมากกว่า ก็จะไปหมดทั้งพวง ต้องเลือกตั้งใหม่และคนเก่าก็ลงสมัครไม่ได้ ทำให้เสียงของประชาชนเป็นเสียงที่เด็ดขาดจริง พรรคการเมืองจึงต้องเลือกคนที่ถูกใจประชาชน ไม่ใช่ถูกใจเจ้าของพรรค ขณะที่ประชาชนจะดูทั้งพรรคและคน ถ้าไม่ชอบใจก็ไม่ลงคะแนนให้ใครเลย ทางเลือกของประชาชนจะมีมากกว่าในอดีต

...

ส่วนปัญหาการปฏิบัติของพรรคการเมืองให้เป็นไปตามกรอบเวลาที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนดนั้น นายมีชัย กล่าวว่า กรธ.ไม่มีสิทธิที่จะเสนอแก้กฎหมาย หากเห็นว่าเป็นปัญหาและจำเป็นต้องแก้ มีสองช่องทางคือ กกต.เสนอไปยัง ครม.หรือ สนช.เข้าชื่อกัน และไม่คิดว่า กรธ.จะต้องรับผิดชอบกับปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากไม่ได้เกิดจากการเขียนกฎหมาย แต่ปัญหาอยู่ที่คำสั่ง คสช.ยังไม่ได้ปลดล็อก ถ้าทำไม่ทันตามกรอบเวลาก็ขอขยายได้ โดย กกต.พิจารณาได้ตามบททั่วไปที่ระบุว่าเพื่อประโยชน์ในความยุติธรรม แต่ถ้า กกต.ไม่ยอมใช้ก็ไปแก้กฎหมาย

ทั้งนี้ ยังเชื่อว่าทุกอย่างมีทางออก โดย คสช.ก็เคยหารือกันแต่ฝ่ายความมั่นคงต้องดูหลายด้าน และคงไม่ปล่อยให้เกิดปัญหาพรรคการเมืองส่งผู้สมัครไม่ทัน เพราะหากทำเช่นนั้น การเลือกตั้งก็เกิดไม่ได้