"พิชัย" ชี้ ปรับ ครม.เศรษฐกิจ ไม่ใช่แค่เปลี่ยนแค่ตัวบุคคล แต่ต้องปรับนโยบายเศรษฐกิจด้วย แนะ เปลี่ยนหัวหน้าทีมเศรษฐกิจหลังเสียฟอร์มซ้ำซ้อน

เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 60 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า ตามที่กระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีโดยเป้าใหญ่อยู่ที่ ครม.เศรษฐกิจ เนื่องจากการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาล น่าจะประสบความล้มเหลว ประชาชนเดือดร้อนกันอย่างมาก ทุกผลโพลบอกตรงกันหมดที่ระบุความล้มเหลว และอยากให้ปรับเปลี่ยน ครม.เศรษฐกิจ แต่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ที่ไม่แน่ใจว่าจะถูกปรับเปลี่ยนด้วยหรือไม่ เพราะเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงกับความล้มเหลวนี้ กลับบอกว่านโยบายเศรษฐกิจยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ก็น่าเป็นห่วงว่าจะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ การปรับ ครม.เพื่อให้ผู้มีความรู้ความสามารถเข้ามาแก้ไข เป็นเรื่องที่ควรทำ และต้องทำ แต่หากนโยบายไม่ปรับเปลี่ยนก็ไม่มีประโยชน์ เพราะจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ โดยที่ผ่านมาประชาชนแทบนึกไม่ออกเลยว่า ทีมเศรษฐกิจของนายสมคิดได้ทำอะไร นอกจากจะท่องว่าเศรษฐกิจฟื้นจากตัวเลขการขยายตัวที่ต่ำมาก ต่ำที่สุดในอาเซียน แม้แต่ในเอเชีย รวมทั้ง อาเซียน จีน และ อินเดีย การเติบโตในปีนี้จะสูงถึง 6.4% แต่ นายสมคิด กลับดีใจและภูมิใจกับ 3-4% อีกทั้งรายได้กระจุกตัวอยู่กับคนบางกลุ่มเท่านั้น คนส่วนใหญ่ยังลำบากกันมาก พอมีคนออกมาท้วงติงเพื่อสะท้อนความเดือดร้อนของประชาชนก็หาว่าออกมาขย่ม

นอกจากนี้ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจย่ำแย่โดยการเรียกคุมตัวคนวิจารณ์เศรษฐกิจ และ แก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำโดยการคุมตัวแกนนำสวนยาง ไม่น่าจะเป็นนโยบายแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ถูกทาง ล่าสุด นายสมคิด ยังทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องเสียหน้า และเสียเครดิตซ้ำซ้อนติดกันถึงสองครั้ง จากที่ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศเองว่า นายมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ร่วมก่อตั้งเฟซบุ๊กจะมา แล้วไม่ได้มา และพยายามแก้ตัวโดยการนำเรื่องอันดับความสะดวกในการทำธุรกิจที่ดีขึ้น มาให้พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศว่า อันดับ 26 ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทั้งที่ก่อนปฏิวัติอยู่ที่อันดับ 18 และมาตกต่ำหลังการปฏิวัติ ซึ่งหากเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรีที่ประกาศผิดซ้ำซ้อนแบบนี้ คงจะไม่เหลือความน่าเชื่อถืออีกแล้ว และคงต้องจัดการกับคนที่รับผิดชอบ ยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ หวังจะตั้งพรรคการเมืองเพื่อสนับสนุนตนเองกลับมาเป็นนายกฯ ต่อ ก็ยิ่งน่าจะศึกษาแนวทางปกติที่รัฐบาลจากการเลือกตั้งประพฤติปฏิบัติ จะมาเรียกคุมตัวผู้ที่เห็นต่าง ไม่น่าจะทำได้แล้ว และจะพูดผิดซ้ำซ้อนเสียฟอร์มแบบนี้ จะทำให้ความนิยมที่ตกต่ำอยู่แล้ว ยิ่งตกต่ำลงไปอีก แถมยังมาซ้ำเติมกับคำถาม 6 ข้อที่ไม่ได้เป็นประโยชน์กับเครดิตของ พล.อ.ประยุทธ์ เลย

...

"ดังนั้น หาก พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการตั้งพรรคเพื่อสนับสนุนตัวเองจริง ก็ต้องเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ได้ และหากจะเปลี่ยนแต่ตัวบุคคล แต่ไม่เปลี่ยนแนวทางนโยบายก็ไม่น่าจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ ดังนั้น ควรหรือไม่ที่ พลเอกประยุทธ์ จะต้องปรับเปลี่ยนหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ที่มักจะพูดสภาวะเศรษฐกิจสวนทางกับความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ของประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาความนิยมไม่ให้ตกต่ำลงไปกว่านี้ ซึ่งจะทำให้หมดโอกาสที่จะกลับมาเป็นนายกฯ ได้อีก" นายพิชัย กล่าว.