"ประมวล" บี้ "ประยุทธ์" ปรับใหญ่ ครม.สมยุคปฏิรูป ยกโบดำทีมเศรษฐกิจเหลวแก้พืชผลเกษตรตกต่ำ หวั่นประชาชนขับไล่
เมื่อวันที่ 4 พ.ย.60 นายประมวล เอมเปีย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.พูดเองว่า ยุคนี้เป็นยุคปฏิรูปทุกองคาพยพควรต้องปรับเปลี่ยน ปรับตัวเพื่อรองรับสถานการณ์ในอนาคต ครม.ก็เช่นเดียวกันที่ต้องมีการปฏิรูปปรับใช้คนให้เหมาะสมกับงาน ประเภทพวกใช้ปากทำงานมากกว่าลงมือทำ หรือพวกที่ใช้อำนาจหมิ่นเหม่ในการหาผลประโยชน์ให้พวกพ้อง ใช้งบประมาณแผ่นดินผิดวินัยการเงินการคลัง รวมถึง รมต.โลกลืมที่ไม่มีผลงาน สมควรปรับออกให้หมดตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ย้ำว่าจะลด ครม.ที่เป็นทหารให้น้อยลง เพราะคงรู้ซึ้งแล้วว่างานบริหารประเทศบางอย่าง บางครั้งก็ไม่เหมาะสมกับทหารทั้งหมด เนื่องจากทหารไม่ได้ร่ำเรียนมาเพื่อบริหารประเทศ
นายประมวล กล่าวต่อว่า ถึงเวลาที่นายกฯต้องกล้าใช้อำนาจใจการปรับ ครม.พวงใหญ่ โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ ที่นายกฯเปิดโอกาสให้แสดงฝีมือแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจชาติ ก็ยังล้มเหลวเหมือนเดิม คุยโวว่าแก้ได้ในมหภาค คือดูแค่ตัวเลขการส่งออกสินค้าและยอดการซื้อขายหุ้น ซึ่งเป็นรายได้เทียมที่ไม่ใช่ของจริง เพราะเราได้แต่ค่าแรงงานและค่าวัตถุดิบที่นำมาผลิตราว 20% เท่านั้น แต่ปัญหาค่าครองชีพในระดับจุลภาค คือ ปากท้องชาวบ้านในระดับครัวเรือน พบว่า ทุกครอบครัวมีหนี้สินเพิ่มขึ้น ทั้งหนี้ในระบบและนอกระบบ ซึ่งสะท้อนผ่านปัญหาอาชญากรรมที่เพิ่มสูงขึ้นในสังคมไทยปัจจุบัน
ซ้ำสินค้าหมวดเกษตรยังตกต่ำต่อเนื่องเป็นประวัติการณ์ อาทิ สับปะรด ขายส่งโรงงานเพื่อผลิตสับปะรดกระป๋องในช่วงปลายปีปกติจะมีราคาดี 2-3 ปีก่อน เคยขายที่ กก.ละ 10-14 บาท แต่ปีนี้ตกต่ำเหลือกก.ละ 3.40 บาท ชาวไร่สับปะรดน้ำตาร่วง ไม่คุ้มทุน ไม่ต้องพูดถึงพืชไร่อื่น ทั้งข้าวโพด มันสำปะหลัง ข้าวและปาล์มน้ำมันรวมถึงสัตว์เลี้ยงน้ำจืด ที่ราคาตกจนโงหัวไม่ขึ้นมา 3 ปีแล้ว เวลานี้ทั้งคอลัมนิสต์ นักวิชาการต่างเห็นเป็นโอกาสดีที่นายกฯจะปรับใหญ่ ครม. อย่าต้องให้ชาวไร่ ชาวสวนต้องเดินเท้าเรียกร้องให้ช่วยเหลือโดยเท่าเทียมและทั่วถึงด้วยการกระทำ ไม่ใช่แค่คำพูด เพราะตนไม่อยากเห็นเหตุการณ์ซ้ำรอยที่ประชาชนชาวชลบุรีบางส่วนออกมารวมตัวไล่ผู้ว่าฯชลบุรีเกิดขึ้นกับรัฐบาลชุดนี้
...