"สมชัย" โพสต์เฟซบุ๊กบี้ต่อกรรมการสรรหา กกต.สเปกมหาเทพ แฉ พ.ร.ป.กกต.กำหนดคุณสมบัติ กกต.เกิน รธน.แล้วใครจะรับผิดชอบ 

เมื่อวันที่ 10 ต.ค.60 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารกลาง โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า สเปกมหาเทพออกฤทธิ์ ฤาจะเหินเกินลงกา สเปกหลายอย่าง ทำให้หลายคนที่คิดว่าคุณสมบัติพร้อมเป็นกรรมการสรรหาต้องตกม้าตาย ถูกหน่วยงานเสนอชื่อมาเป็นกรรมการสรรหา แต่ต้องพ้นด้วยคุณสมบัติ หรือลักษณะต้องห้ามอันมากมายนี้ เหตุผลของ กรธ.คือ หากองค์กรอิสระเป็นสเปกเทพ ผู้สรรหาองค์กรอิสระต้องมีสเปกที่สูงกว่า หรือเรียกว่า สเปกมหาเทพนั่นเอง กรธ.คงลืมนึกไปว่าคนที่สมัครมาเป็นองค์กรอิสระ หลายประเด็นที่เป็นลักษณะต้องห้ามสามารถไปลาออกได้หลังจากได้รับการสรรหา เช่น ทำธุรกิจ เป็นลูกจ้าง เป็นที่ปรึกษา เป็นข้าราชการ ประกอบวิชาชีพอิสระ ขณะสมัครยังเป็นได้ แต่หากได้ค่อยไปลาออกจากทุกอย่างใน 15 วัน แต่กรรมการสรรหาต้องเป็นไม่ได้เลยขณะปฏิบัติหน้าที่

นายสมชัย ระบุต่อว่า อีกประการหนึ่งที่น่าตื่นเต้นกว่า คือ ในรัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดคุณสมบัติของกรรมการสรรหาเพียงแค่ 2 มาตรา คือ ต้องมีคุณสมบัติทั่วไป เช่น อายุ การศึกษา และลักษณะต้องห้าม เช่น ห้ามเป็นโน่นห้ามเป็นนี่ แต่ใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. กำหนดคุณสมบัติกรรมการสรรหา ถึง 3 มาตรา เกินกว่าที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ คือ ดันไปเอาคุณสมบัติเฉพาะของคนที่จะมาเป็น กกต.มาใส่เพิ่ม เช่น ต้องเป็นอธิบดี เป็นผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ เป็นศาสตราจารย์ ไม่น้อยกว่า 5 ปี มาใส่ ทำให้หาคนมาเป็นกรรมการสรรหาได้ยากขึ้น รัฐธรรมนูญ ไม่เขียน แต่กฎหมายลูก เขียนเกินรัฐธรรมนูญ วันหน้าหากมีผู้ได้รับการเสนอชื่อจากหน่วยงาน คุณสมบัติตรงตามรัฐธรรมนูญ แต่ขัดคุณสมบัติตามกฎหมายลูก เขาโต้แย้งว่าเขามีสิทธิ์เป็นกรรมการไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องมิวุ่นวายเข้าไปใหญ่หรือ งานนี้ กรธ.ผิดหลง กรรมาธิการดูพลาด และ สนช.ทั้งสภาก็ลงมติผ่านโดยมิได้เอะใจใครจะรับผิดชอบ เพราะเหินเกินกรุงลงกาไปแล้ว.

...