"อภิสิทธิ์" ชี้ กรณี "ยิ่งลักษณ์" เข้าข่ายเพิกถอนพาสปอร์ต แนะ รบ.คสช.เร่งแจงความจริงสังคมโลก ก่อนถูกใช้ดิสเครดิตศาลไทย

เมื่อวันที่ 4 ก.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกสงสัยที่หน่วยงานรัฐยังไม่มีการเพิกถอนหนังสือเดินทาง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เนื่องจากเข้าหลักเกณฑ์การเพิกถอนหนังสือเดินทางแล้ว เนื่องจากระเบียบมีอยู่ 2 ข้อ คือ 1. มีหมายจับ 2. ศาลห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ล้วนอยู่ใน 2 เงื่อนไขนี้ ฉะนั้นจึงสงสัยว่า เหตุใดรัฐบาล คสช.และกระทรวงการต่างประเทศ จึงไม่ตอบประชาชนอย่างตรงไปตรงมา ว่า มีหลักเกณฑ์ดังกล่าว หากท่านมีดุลยพินิจจะไม่เพิกถอนก็ควรอธิบายให้สังคมทราบว่า มีเหตุผลอย่างไร แต่กลับมาทำให้คนในสังคมเกิดความสับสน ว่า จะต้องรอคำพิพากษาของศาล อีกทั้งกรณีนี้ ไม่ต้องรอคำยืนยัน ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้อยู่ในประเทศไทยแล้ว ทั้งนี้ การติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ดูเหมือนไม่ค่อยคืบหน้าเท่าที่ควร

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่รัฐบาลจะต้องรับมือต่อไปคือ หากเดินทางออกไปนอกประเทศจริง คงมีการทำเรื่องขอลี้ภัยทางการเมือง เมื่อมีการขอลี้ภัย รัฐบาลไทยจะกลายเป็นจำเลยแทน เพราะจะทำให้เกิดความข้องใจในสังคมโลก ว่า สรุปแล้วรัฐบาลไทยมีปัญหา ใช่หรือไม่ ถึงทำให้คนต้องบอกว่า อยู่ในประเทศของตัวเองแล้วไม่ปลอดภัย และจะถูกกลั่นแกล้งจนต้องไปขอลี้ภัยไปต่างประเทศ ซึ่งน่าเป็นห่วง เพราะสิ่งนี้จะเป็นตัวสะท้อนกลับมาถึงวิธีที่ประชาคมโลกเขามองประเทศเรา เรื่องรัฐประหารและการใช้อำนาจต่างๆ ดังนั้น ก่อนถึงวันที่ 27 ก.ย. ที่ศาลนัดอ่านคำพิพากษา รัฐบาลต้องติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างจริงจัง และเตรียมข้อมูล ข้อเท็จจริงสำหรับชี้แจงประชาคมโลกว่า สรุปแล้วคดีโครงการรับจำนำข้าวนี้เป็นคดีการเมืองหรือไม่ อย่างไร เพราะหากรัฐบาลไม่ช่วยชี้แจงข้อเท็จจริงในคดี ที่มาที่ไปต่างๆ ที่สุดก็จะเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกระบวนการยุติธรรมไทยต่อไป

...

เมื่อถามว่า หลายฝ่ายสงสัยตำรวจอารักขา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า จะทราบเรื่องการหลบหนีด้วยหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่า น่าจะรู้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ กำลังจะเดินทาง แต่จะไปที่ไหน อย่างไรนั้น อยู่ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะบอกหรือไม่ ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องค้นหาข้อเท็จจริงตรงนี้ต่อไป.