"วิรัตน์" แนะ "บิ๊กตู่-บิ๊กป๊อก" สกัด ก.ม.ที่ดินอัลไพน์ ส่งผล ยงยุทธ พ้นผิด ชี้ถอนพาสปอร์ต "ยิ่งลักษณ์" ต้องทำทันที แนะ "บุญทรง" ปริปาก ซัดผู้บงการ
เมื่อวันที่ 3 ก.ย.60 ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการร่าง พ.ร.บ.โอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์วัดธรรมิการามวรวิหาร จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีลักษณะคล้ายกับการนิรโทษกรรมสุดซอย ว่า ทันทีที่ นางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา เสียชีวิต ที่ดินก็ต้องตกเป็นของวัด และเมื่อมีคำพิพากษาออกมาต้องดูว่าจะช่วยผู้บริสุทธิ์ได้อย่างไร ทางออกคือสำรวจว่ามีใครบ้างที่ซื้อที่ดินโดยสุจริต และออกกฎหมายโดยผ่านสภา โดยบอกรายละเอียดว่าวัดให้เอกชนเช่าเท่าไหร่ แต่ถ้ายกร่างกฎหมายโดยให้วัดโอนที่ดินให้กับมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย สิ่งที่ตามมาคือที่ดินที่มูลนิธิโอนไปแล้วกลายเป็นความชอบ คนที่สมคบกันโกงที่วัดก็ไม่ผิด ผลพลอยได้ที่ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย จะได้รับคือไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะกฎหมายเขียนว่า หากกฎหมายออกมาภายหลังเป็นคุณ
"ถ้ารัฐบาลยอมรับเรื่องนี้แปลว่ารัฐบาลสมรู้ร่วมคิดกับกระบวนการโกงที่ดินวัด ซึ่งจะคล้ายกับการออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ ทำให้คนที่ซื้อที่ดิน หรือเจ้าของสนามกอล์ฟในที่ดินอัลไพน์ยิ้มเลย และหากเป็นอย่างนี้ก็จะกระทบกับศรัทธาของ คสช.แน่นอน ดังนั้นสิ่งที่ คสช.จะต้องแก้คือทำตามเจตนารมณ์ของนางเนื่อมเท่านั้น ทั้ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ซึ่งมีภาพลักษณ์ดีอยู่แล้ว ต้องออกมาสกัดเรื่องนี้ และทำในสิ่งที่ถูกต้อง ช่วยเหลือเฉพาะผู้สุจริต แต่อย่าไปคุ้มครองคนคิดร้ายกับวัด" นายวิรัตน์ กล่าว
...
นอกจากนี้ นายวิรัตน์ ยังกล่าวถึงการติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนีคดีจำนำข้าวกลับมาดำเนินคดี ว่า คำอธิบายของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ที่บอกว่าผู้ที่ถูกออกหมายจับไม่ได้แปลว่าจะต้องถูกยกเลิกหนังสือเดินทางทุกคน แล้วรัฐบาลมีความจริงใจต่อการติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับมาดำเนินคดีหรือไม่นั้น ตอบเลยว่าไม่จริงใจ เพราะการเอานักโทษหลบหนีเข้ามานั้น ใช้หมายจับของศาล ซึ่งออกตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค. แล้วมาเพิกถอนหนังสือเดินทางทั้ง 2 ฉบับได้ ถ้ารัฐบาลจริงใจก็ต้องรีบดำเนิน แต่คงรอผลการตัดสินคดีในวันที่ 27 ก.ย.นี้ ซึ่งจะมีผลในเรื่องการลี้ภัยด้วย แต่กระบวนการตั้งเรื่องเพิกถอนหนังสือเดินทางต้องทำทันที เพราะการทุจริตงบประมาณแผ่นดินเป็นล้านล้านบาท หากรัฐบาลไม่ดำเนินการเพิกถอนหนังสือเดินทาง จะเป็นการเปิดช่องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างสะดวกทุกประเทศบนโลก เสมือนว่ารัฐบาลรู้เห็นยินยอมให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปที่ไหนก็ได้
นายวิรัตน์ กล่าวต่อว่า สำหรับ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นั้น มีทางเดียวที่จะรอดคือ ตอบศาลให้ได้ว่าใครเป็นคนสั่ง สั่งโดยวิธีใด แล้วถ้าไม่ทำมีผลกระทบอย่างไร ซึ่งเชื่อว่าศาลจะรับฟัง ทั้งนี้หาก นายบุญทรง พาดพิงไปถึงบุคคลอื่นก็เชื่อว่าจะต้องดำเนินคดีใหม่ โดย ป.ป.ช.สามารถตั้งเรื่องและโยงไปยังประเทศอื่นว่ามีเงินอยู่เท่าไหร่ ดังนั้นถ้า นายบุญทรง เปิดปาก ป.ป.ช.เดินหน้าได้ ก็เท่ากับเป็นการเปิดช่องให้สามารถดึงเงินกลับเข้ามาในประเทศได้มากที่สุด ส่วนกรณีที่ นายบุญทรง พูดกับ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ แกนนำพรรคเพื่อไทยว่า จะปล่อยให้เรื่องนี้ตายไปกับนายบุญทรงนั้น นายบุญทรงก็ตายจริง เพราะโดนไปแล้ว 4 ข้อหา ยังเหลืออีก 8 ข้อหาในการทุจริตการระบายข้าวลอตที่ 2 ซึ่งพฤติกรรมเหมือนกัน ดังนั้นหากไม่ยอมพูดความจริงก็เหนื่อย.