พิศาล มาณวพัฒน์
เมื่อวันเสาร์เอ่ยถึงท่านทูต 2 ราย ที่สร้างคุณูปการไว้ในวงการและประเทศชาติ รวมทั้งความเข้มแข็งอดทนเมื่อยามเจอมรสุมรุมเร้า
ยังมี เอกอัครราชทูต อีกหลายคน ที่ทำงานโชว์ฝีมือทางการทูตไว้อย่างสวยงามและถึงคราวเกษียณอายุราชการ ในปีนี้จึงขอทำบันทึกไว้รวมกันไป
รายแรก นายพิศาล มาณวพัฒน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ที่เริ่มต้นตำแหน่งหน้าที่บริหารระดับสูงด้วยการเป็นเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง ที่ทุ่มเททำงานด้านเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ จึงได้เป็นอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และ 2 ปีต่อมาขึ้นเป็นรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ก่อนออกไปเป็นเอกอัครราชทูตเต็มตัวคือปี 2550 เป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำราชอาณาจักรเบลเยียม (กรุงบรัสเซลส์) อยู่ราว 4 ปี ย้ายไปเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสาธารณรัฐอินเดีย (กรุงนิวเดลี) 2 ปี แล้วไปเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำแคนาดา (กรุงออตตาวา) อีก 2 ปี ก่อนก้าวขึ้นสู่จุดสำคัญของการเป็นทูตคือ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสหรัฐอเมริกา (กรุงวอชิงตัน) 3 กุมภาพันธ์ 2558 และกำลังจะเกษียณอายุราชการอย่างสง่างามตอนสิ้นปีงบประมาณนี้
อดีตรองปลัดกระทรวงอีก 2 คน คือ นายนภดล เทพพิทักษ์ ที่เริ่มแรกในตำแหน่งบริหารระดับสูง เป็นอธิบดีกรมเอเชียใต้ ตะวันออกและแอฟริกา แล้วออกไปเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ (กรุงไคโร) จนถึงปี 2553 เป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำนิวซีแลนด์ (กรุงเวลลิงตัน) แล้วเข้ามาเป็นรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศอยู่ระยะหนึ่งก่อนออกต่างประเทศครั้งสุดท้ายเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (เวียงจันทน์) ประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสำคัญยิ่ง
...
อีกราย นายสุวัฒน์ จิราพันธุ์ เคยเป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงเม็กซิโกซิตี้ สหรัฐเม็กซิโก จากนั้นย้ายมาเป็นเอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรไทยประจำอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย แล้วเป็นรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศที่มีบทบาทสูง พร้อมกับเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ตำแหน่งสุดท้ายคือเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา สาธารณรัฐตุรกี
ขอทำบันทึกถึง ท่านทูตหญิง ที่เกษียณอายุราชการในปีนี้สักคน นั่นคือ นางนงนุช เพ็ชรรัตน์ ที่เริ่มต้นตำแหน่งบริหารระดับสูงที่เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง และลงเอยมาเกษียณที่เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง ตำแหน่งเดิม ทั้งๆที่ชีวิตการทำงานและผลงานของท่านมีมากมาย
จากปริญญาตรี (เกียรตินิยมอันดับ 2) สาขารัฐศาสตร์ (ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ), ปริญญาโท สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอินเดียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา, หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 18 หลักสูตรผู้นำในการพัฒนาการบริหารการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและเศรษฐกิจ (Leaders in Development Managing Political and Economic change program) มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พ.ศ.2551
เคยเป็นอัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน และเป็นอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ปี 2543 เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกาใต้ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสาธารณรัฐออสเตรีย (เวียนนา) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี แล้วกลับมาเป็นเอกอัครราชทูตประจำกระทรวงอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งๆที่การคาดหมายในตอนแรกว่าจะกลับมาเป็นปลัดกระทรวงการต่างประเทศด้วยซ้ำไป.
“ซี.12”