"วิษณุ" ชี้ปฏิรูปกฎหมายต้องเน้นทัศนคติ เผยจ่อแก้ ก.ม.ยึดทรัพย์คนล้มละลาย ยักยอกเงินเผ่นนอกประเทศ ให้ตามยึดทรัพย์ถึง ตปท.ได้
เมื่อวันที่ 10 ส.ค.60 ที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงแนวทางการปฏิรูปกฎหมาย ว่า ประเทศไทยมีกฎหมายที่ต้องเปลี่ยนแปลงจำนวนมาก จึงตั้งคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายขึ้นมารองรับ ซึ่งไม่สามารถทำม้วนเดียวจบได้ ต้องส่งต่อรับช่วงกัน จึงต้องจัดลำดับความสำคัญ ก่อนหน้านี้เราให้ความสำคัญกฎหมายสิทธิเสรีภาพมีการปฏิรูปไปเยอะ แต่มาวันนี้เราต้องให้ความสำคัญกฎหมายการประกอบธุรกิจ เพราะที่ผ่านมาการประกอบธุรกิจมีความยุ่งยาก กระบวนการขออนุมัติซับซ้อน แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะต้องปรับแก้กี่ฉบับ เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อกำกับการปฏิรูปกฎหมาย ใน ป.ย.ป.ที่มี นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน จะดำเนินการควบคู่ไปกับคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ที่จะมีการจัดตั้งขึ้นในสัปดาห์หน้า สำหรับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับด้านเศรษฐกิจที่ต้องแก้ไข อาทิ กฎหมายแรงงานคนต่างด้าว กฎหมายเกี่ยวกับภาษีอากร บางเรื่องประเทศไทยไม่เคยมีมาก่อน แต่ต่างประเทศมีทำให้เกิดช่องว่างทางด้านกฎหมาย เช่น กฎหมายที่เกี่ยวกับบัตรเครดิต และกฎหมายที่เกี่ยวกับที่ยึดทรัพย์บุคคลที่ถูกฟ้องล้มละลาย แล้วยักยอกเงินออกนอกประเทศ ที่ขณะนี้ประเทศไม่สามารถดำเนินคดียึดทรัพย์บุคคลเหล่านั้นได้ มันถึงเวลาที่จะต้องแก้ไขกฎหมายให้ดำเนินการได้ ให้สามารถตามไปยึดทรัพย์ต่างประเทศได้ แต่ก็ต้องยอมรับในกรณีที่คนต่างชาติถูกฟ้องล้มละลาย แล้วหนีมาตั้งถิ่นฐานในไทย ต่างชาติก็ต้องตามมายึดทรัพย์ในประเทศได้เช่นกัน
จากนั้น นายวิษณุ ได้กล่าวปาฐกถาแนวทางการปฏิรูปกฎหมาย ในงานสัมมนาแนวทางการปรับปรุงหรือยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อผู้ประกอบการไทยเพื่อรองรับ Thailand 4.0 ว่า เมื่อต้องการจะปฏิรูปต้องมีความชัดเจนว่าวัตถุประสงค์คืออะไร ซึ่งก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ นโยบาย Thailand 4.0 ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ที่นายกฯ พูด แต่การปฏิรูปจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติไม่ได้ มันต้องมีกระบวนการ ต้องได้รับความร่วมมือจากหลายๆ ฝ่าย และต้องจัดลำดับความสำคัญ เมื่อดำเนินการเรื่องสิทธิเสรีประชาชนและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ ก็จะคิดถึงเรื่องอื่นต่อไป ที่สำคัญต้องตั้งหลักเกณฑ์ว่าอะไรจะต้องแก้ไข อะไรต้องยกเลิก และอะไรต้องทำเพิ่มขึ้นมา และสิ่งสุดท้ายต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพราะการปฏิรูปจะไม่สำเร็จหากขาดการยอมรับจาก 3 ฝ่าย ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูป คือ เจ้าหน้าที่ที่ดูแลรักษากฎหมาย หน่วยงานของรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกฎหมายและประชาชน ดังนั้นต้องหาวิธีการสร้างการรับรู้ความเข้าใจและทำอย่างมีแผนการ สิ่งสำคัญต้องไปดูทัศนคติของประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพราะจะทำอย่างเดิมไม่ได้ นอกจากนี้ยังอยากให้พิจารณาเกี่ยวกับการตีความกฎหมาย เพราะบางเรื่องกฎหมายไม่ผิดแต่เมื่อเข้าใจไม่ตรงกันก็จะเกิดปัญหา กฎหมายอะไรที่จะทำให้เกิดปัญหาได้ก็แก้ไขให้ชัดเจน เพื่อคุ้มครองผู้สุจริต
...