นายกฯ ยันไม่ได้ชี้นำศาลตัดสินคดีจำนำข้าว ปัดตอบสถานการณ์หลัง 25 ส.ค.นี้ เป็นอย่างไร โยนประชาชนอยากกลับไปสู่จุดเดิมที่มีปัญหาหรือไม่

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 60 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีมวลชน 1,200 คน ไปให้กำลังใจ น.ส.ย่ิงลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการแถลงปิดคดีด้วยวาจาคดีโครงการรับจำนำข้าวว่า เป็นขั้นตอนตามกฎหมาย ขอร้องว่าอย่าไปวิพากษ์วิจารณ์กันมากนัก เป็นเรื่องที่ศาลจะรับไว้พิจารณาต่อไป ส่วนที่ถามว่าหลังศาลมีคำตัดสินในวันที่ 25 ส.ค. สถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไรนั้น เรื่องนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตนเอง แต่ขึ้นอยู่กับกลุ่มประชาชน กลุ่มนักการเมือง ส่วนตัวคิดแต่เพียงว่าเราต้องเดินหน้าประเทศไปด้วยกระบวนการยุติธรรม และให้กระบวนการยุติธรรมได้ทำงาน

"ผมไม่เคยต้องไปสั่งอะไรกับกระบวนการยุติธรรม เพียงแต่ให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเท่านั้น โดยไม่ไปก้าวล่วง ถือเป็นหลักการของรัฐบาลที่ต้องเป็นเช่นนี้ ผมไม่เคยต้องไปสั่ง และมันก็สั่งไม่ได้อยู่แล้ว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่า จะให้คำแนะนำประชาชนอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนปี 57 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับพวกเราทุกคน อยู่ที่ประชาชนว่าจะกลับไปสู่หนทางเดิมหรือไม่ ถ้าไม่อยากให้กลับไปอยู่ที่เดิมซึ่งมีปัญหามาก ก็ต้องดูว่าประเด็นปัญหาประเทศนั้นอยู่ที่ไหน และอยู่ที่ใคร และวันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่ รัฐบาลกำลังเดินหน้าประเทศ ส่วนคดีความต่างๆ ก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเขาก็ทำงานอย่างเป็นอิสระอยู่แล้ว อย่าเอามาพันกัน

เมื่อถามถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ร้องขอต่อศาลให้ความยุติธรรม ไม่รับฟังการชี้นำจากฝ่ายใด แม้แต่หัวหน้า คสช. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ผมไปชี้นำตรงไหน ผมยังไม่ได้ชี้นำเลย ผมเพียงแต่ชี้แจงว่าผลการตรวจสอบมันเป็นอย่างไร เป็นขั้นตอนของพยานฝ่ายโจทก์อยู่แล้ว เพราะว่าผมก็ต้องร่วมมือกับหน่วยงานที่จะนำคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก็มีการตรวจสอบแค่นั้นเอง เป็นการตรวจสอบตามข้อเท็จจริงว่าข้าวเป็นอย่างไร ข้าวเสียหรือไม่ มันจำเป็นต้องตรวจสอบ ซึ่งทุกอย่างมีการตรวจสอบไปแล้ว มีการลงนามโดยเจ้าของโกดังทุกโกดัง การตรวจสอบมากกว่าการไปยืนตรวจ เอาดีเอ็นเอไปตรวจว่าเป็นข้าวไทย หรือต่างประเทศ หรือข้าวปลอมปน มีทั้งหมด เรื่องนี้ผมชี้แจงมาหลายรอบแล้ว"

...