วอร์มอัพนำร่องก่อนชี้ชะตาคดีจำนำข้าวอดีตนายกฯปู

วันนี้ (2 ส.ค.) เวลา 09.30 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาการเมืองจะอ่านคำพิพากษาคดี สลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนฯ

ถือเป็นคดีบิ๊กเบ้งที่คอการเมืองต้องล้างหูรอฟังคำตัดสินด้วยความคันคะเยอ

เพราะมีอดีตนายกรัฐมนตรีถูกฟ้องเป็นจำเลยพร้อมกันถึง 2 คน

นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯอันดับที่ 26 และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ อันดับ 22 ของประเทศไทย

แถมมี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. น้องชายสุดที่รักของรองนายกฯบิ๊กป้อม ผู้ยิ่งใหญ่แห่งรัฐบาล คสช. ถูกฟ้องเป็นจำเลยร่วมชะตาเดียวกันอีก 1 คน

โอย...แค่เห็นชื่อจำเลยก็ครางฮือเป็นนกทึดทือแล้วท่านพระครู

“แม่ลูกจันทร์” ไม่บังอาจคาดเดาล่วงหน้าว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการ เมืองจะตัดสินคดีนี้ออกมาอย่างไร

อดใจรออีกนิดเดียว...เดี๋ยวก็รู้แน่นอน

แต่เนื่องจากเหตุการณ์ผ่านไปเกือบ 9 ปี หลายท่านอาจลืมไปแล้วว่าเรื่องมันเป็นอย่างไร

“แม่ลูกจันทร์” จึงขอสรุปย่อๆพอแก้ปร่าว่า หลังจากอดีตนายกฯสมัคร สุนทรเวช ถูกศาลรัฐธรรมนูญเช็กบิลฐานเป็นพิธีกรทีวีรายการชิมไปบ่นไป ก็ถึงคิว นายสมชาย น้องเขยอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ต้องรับหน้าเสื่อเป็นนายกรัฐมนตรีรัฐบาลพลังประชาชน

เช้าวันที่ 7 ตุลาคม 2551 กลุ่มพันธมิตรฯชุมนุมปิดล้อมรัฐสภา ขัดขวางไม่ให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าแถลงนโยบายรัฐบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาเพื่อเปิดเส้นทางให้ ครม. และ ส.ส.รัฐบาล 320 คน สามารถเข้าไปในที่ประชุมสภา

ทำให้เกิดความวุ่นวายบานปลายถึงขั้นจลาจล

(ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นฝ่ายค้านประกาศคว่ำบาตรไม่เข้าร่วมการแถลงนโยบายตามฟอร์ม) ความชุลมุนวุ่นวายยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เช้ายันเย็น

...

เมื่อการแถลงนโยบายรัฐบาลเสร็จสิ้น ลง ตำรวจยังต้องยิงแก๊สนํ้าตาเพื่อเปิดทางให้บรรดารัฐมนตรี และ ส.ส.พรรครัฐบาลแหกวงล้อมม็อบหลายหมื่นคนออกจากรัฐสภา จนทำให้ผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ บาดเจ็บไป 380 คน และเสียชีวิต 2 ราย

เป็นการแถลงนโยบายรัฐบาลที่ยุ่งเป็นฝอยขัดหม้อที่สุดในรอบ 80 ปี

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าคดีนี้ ป.ป.ช.ลงมติให้เช็กบิลความผิดอาญามาตรา 157 กับผู้เกี่ยวข้อง 4 คน

1, อดีตนายกฯสมชาย ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล

2, อดีตนายกฯบิ๊กจิ๋ว ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงในฐานะผู้รับผิดชอบเหตุการณ์

3, พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร.ในฐานะผู้สั่งใช้กำลังตำรวจสลายการชุมนุม

4, พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น.ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้แลแฮ

อดีตนายกฯสมชาย ได้แถลงปิดคดี ต่อองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกา ยืนยันว่าไม่เคยสั่งให้เจ้าหน้าที่สลายการชุมนุม

ไม่เคยสั่งให้ตำรวจยิงแก๊สนํ้าตา

มีแต่สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ใช้ความละมุน-ละม่อม ห้ามใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม

แม้แต่ตัวเองซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรียังต้องปีนกำแพงสภาหลบหนีม็อบออกมาอย่างทุลักทุเล

ข้อสำคัญระหว่างเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ และไม่ได้สั่งการใดๆอย่างที่ ป.ป.ช.ชี้มูล

แค่ปีนกำแพงสภาออกไปขึ้น ฮ.ได้ ก็บุญตายชักแล้วโยม.


"แม่ลูกจันทร์"