กระทรวงแรงงานเปิดเผยตัวเลข แรงงานต่างด้าว ที่มาจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายกับ ศูนย์เฉพาะกิจเพื่ออำนวยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ทั่วประเทศ 100 ศูนย์ โดยเป็นศูนย์รับแจ้งใน กทม.11 ศูนย์ และส่วนภูมิภาค 89 ศูนย์ พบว่า ตัวเลขล่าสุดจนถึงวันที่ 28 ก.ค. มีนายจ้างมาแจ้งข้อมูลการใช้แรงงานต่างด้าวแล้ว 58,066 ราย ลูกจ้างต่างด้าว 190,926 คน
แรงงานต่างด้าวจาก เมียนมา มากที่สุด รองลงมาเป็น กัมพูชา และ ลาว ตามลำดับ กิจการที่แรงงานต่างด้าวเหล่านี้มาทำงาน 5 อันดับแรกได้แก่ การเกษตรและปศุสัตว์ ก่อสร้าง จำหน่ายอาหารเครื่องดื่ม การให้บริการและกิจการต่อเนื่องจากการเกษตร ตามลำดับ
จังหวัดที่มีการใช้แรงงานต่างด้าวมากที่สุด ได้แก่ กทม. สมุทรปราการ ระยอง ปทุมธานี และนนทบุรี โดยการรับจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวจะมีไปจนถึงวันที่ 7 ส.ค.นี้
หากแรงงานต่างด้าวยังไม่ได้จดทะเบียนให้ถูกต้อง สามารถที่จะเดินทางไปจดทะเบียน ที่ศูนย์ฯได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการโดยสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ 1694 หรือ 0-2232-1471
การตั้งศูนย์รับแจ้งดังกล่าว เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า สำหรับปัญหาแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันน่าจะมีจำนวนเป็นล้านคนด้วยซ้ำไป
การที่มีนายจ้างและลูกจ้างมาจดทะเบียนจำนวนแสนสองแสนคน ชี้ให้เห็นว่า มีแรงงานที่เข้ามาโดยไม่ถูกต้องอยู่เป็นจำนวนมาก และแรงงานเหล่านี้ตกเป็นเหยื่อของคนมีสีที่เรียกรับผลประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
สะท้อนไปถึงความล้มเหลวของนโยบายการแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าว
ภาพรวมแล้ว ประเทศในกลุ่ม เวียดนาม ลาว กัมพูชา เมียนมา สมัครใจและมีความสุขที่จะมาทำงานในประเทศไทย แต่ด้วยระเบียบและความไม่สะดวกในการเปิดให้คนต่างด้าวเข้ามาทำงานของทางราชการเอง ทำให้คนงานเหล่านี้สมัครใจที่จะเข้ามาทำงานอย่างผิดกฎหมายมากกว่า เพราะคิดว่าเสียเงินน้อยกว่าการไปขึ้นทะเบียนกับทางราชการและเป็นความต้องการของนายจ้างที่ไม่ต้องรับผิดชอบกับคนงานต่างด้าวในทุกกรณี
...
คำว่าแรงงานต่างด้าวต้องแยกให้ชัดเจน ได้แก่ แรงงานต่างด้าวที่มีถิ่นฐานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านและแรงงานต่างด้าวที่มีถิ่นฐานอยู่ในประเทศไทย โดยเฉพาะภาคเหนือของประเทศที่อพยพมาจากประเทศเมียนมา เขตการปกครองของไทยใหญ่ ว้าและชนเผ่าต่างๆ ซึ่งบางคนก็มีบัตรประชาชน บางคนก็ไม่มีบัตรประชาชน โดยพฤตินัยเป็นคนไทยเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่การจะออกไปทำงานนอกเขตหรือไม่ท่องเที่ยวไปหาญาติ จะต้องทำหนังสือขออนุญาตจากทางการทุกครั้ง คล้ายกับการทำวีซ่า ซึ่งไม่สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายแรงงาน ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากทันทีทั้งๆที่คนเหล่านี้มีที่ถิ่นอยู่ในประเทศไทยชัดเจน
ปัจจัยที่เหมาะสมที่ไทยจะเป็นศูนย์กลางแรงงานในอาเซียนมากที่สุด เพราะแรงงานต่างด้าวเหล่านี้พูดภาษาไทย ใช้เงินสกุลบาทรู้จักประเพณีวัฒนธรรมไทยเป็นอย่างดีและสามารถอยู่ร่วมกับคนไทยได้นโยบายแรงงานต่างด้าวของรัฐบาลในเวลานี้กำลังทำให้ประเทศไทยสูญเสียโอกาสที่สำคัญไปหรือไม่.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th