วัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ แกนนำพรรคเพื่อไทย อัดกฎหมายวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (ก.ม.ปราบโกง) มีผลย้อนหลัง ยกตัวอย่างกระทบทักษิณ จวก ป่าเถื่อน อ้าง ทำลายหลักนิติธรรม
เมื่อวันที่ 19 ก.ค. นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า "หลักการที่ถูกปล้น" การพิจารณาคดีอาญาต้องทำต่อหน้าจำเลย เป็นหลักการที่ทั่วโลกยอมรับ ตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองของบุคคล (ICCPR) ข้อ 14 (d) นอกจากนี้ ยังมีหลักการสำคัญที่ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้บัญญัติรับรองไว้อีก เช่น หลักความเสมอภาคของบุคคลที่มีสิทธิจะได้รับการปฏิบัติ และได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน รวมทั้งกฎหมายไม่มีผลย้อนหลังในทางที่เป็นโทษแก่ผู้กระทำผิด ทั้งหมดถูกเรียกรวมกันว่า หลักนิติธรรม
นายวัฒนา ระบุว่า บทบัญญัติของร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ทำลายหลักการดังกล่าวโดยสิ้นเชิง ข้ออ้างคือ เพื่อป้องกันไม่ให้นักการเมืองที่กระทำความผิดหลบหนีไปต่างประเทศ เช่น กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไม่อาจนำตัวมาดำเนินคดีในศาลไทยได้ อันเป็นความเท็จ เพราะประเทศไทยมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับต่างประเทศ แต่ที่ทุกประเทศปฏิเสธที่จะส่งตัวนายทักษิณ กลับมาดำเนินคดีตามที่รัฐบาลไทยร้องขอ เพราะเป็นคดีการเมืองที่เกิดจากการยึดอำนาจ ถูกดำเนินคดีโดย คตส. อันเป็นองค์กรที่จัดตั้งโดยคณะรัฐประหาร อีกทั้งบทบัญญัติของกฎหมายยังขัดกับกฎหมายระหว่างประเทศ ทางแก้ คือ ต้องทำกฎหมายและกระบวนพิจารณาเป็นไปหลักนิติธรรมที่สากลยอมรับ ต่างประเทศ ก็จะให้ความร่วมมือในการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดี เช่น กรณีของเณรคำ หรือกรณีของนายทักษิณ ก็เช่นกัน แต่แทนที่จะแก้ไขกฎหมายให้ประเทศมีความเป็นอารยะ เผด็จการกลับทำลายหลักการสำคัญของกฎหมายให้ป่าเถื่อนมากขึ้น การยึดอำนาจครั้งนี้นอกจากจะทำให้เศรษฐกิจเสียหายอย่างยับเยินแล้ว ความเสียหายที่มากกว่า คือ การทำลายหลักนิติธรรมอันเป็นหลักประกันความยุติธรรม และความน่าเชื่อถือของประเทศซึ่งประเมินค่ามิได้.
...