"นพดล" ข้องใจ 3 ปม ก.ม.บี้ผิดนักการเมือง ยกกติการะหว่างประเทศข่ม ไต่สวนลับหลังผิดหลักสากล คาใจออกกฎหมายให้มีผลเล่นงานย้อนหลังขัดหลักนิติธรรม ขวางเส้นทาง

เมื่อวันที่ 16 ก.ค.60 นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ขอตั้งคำถามเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบจาก สนช.ว่า 1.การเปลี่ยนแปลงหลักพิจารณาคดีอาญาที่ต้องทำต่อหน้าจำเลยเป็นพิจารณาโดยไม่ต้องทำต่อหน้าจำเลย จะขัดหลักสากลหรือไม่ เพราะกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองกำหนดว่า การพิจารณาคดีอาญาผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดมีสิทธิได้รับการพิจารณาต่อหน้าบุคคลนั้น และสิทธิที่จะต่อสู้คดีด้วยตนเอง หลักการนี้มีไว้เพื่อคุ้มครองสิทธิจำเลยที่จะต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ ถือเป็นหลักที่สากลยอมรับ จนเขียนขึ้นเป็นกติการะหว่างประเทศ

2.กรณีจำเลยหนีระหว่างการดำเนินคดี มิให้นับระยะเวลาระหว่างที่หนีไปรวมเป็นอายุความ ทั้งที่การนับอายุความในคดีอาญาที่คนทั่วไปกระทำผิดยังเป็นไปตามกฎหมายอาญาทั่วไปนั้น ถือว่าลักลั่น ขัดหลักที่ว่าทุกคนมีความเสมอภาคกันตามกฎหมาย มีสิทธิได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายเท่าเทียมกันหรือไม่ หลักการนี้มีอยู่ในรัฐธรรมนูญและปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนข้อ 7

3.การแก้ไขบทเฉพาะกาลมาตรา 67 ให้มีผลแตกต่างจากเนื้อหาของร่างแรกที่เสนอเข้า  สนช. ต่อมามีคำอธิบายว่า มาตรา 67 ที่แก้ไขจะทำให้กฎหมายมีผลใช้บังคับกับคดีที่เกิดขึ้นก่อนกฎหมายฉบับนี้ ถามว่าการแก้ไขดังกล่าวเป็นการเขียนกฎหมายให้มีผลย้อนหลังใช่หรือไม่ และมีความเหมาะสมหรือไม่ การอธิบายว่าไม่ได้แก้กฎหมายเพื่อใช้บังคับกับบุคคลใดเป็นการเฉพาะนั้น ลองถามคนทั่วไปว่า เชื่อคำอธิบายหรือไม่ ทุกคนต้องการความยุติธรรม นิติธรรมและเมตตาธรรม เชื่อว่าการดำเนินการของฝ่ายต่างๆ  ถ้ายึดมั่นในหลักนิติรัฐและนิติธรรมจะนำไปสู่ความปรองดองและสมานฉันท์ได้ เพราะความปรองดองคือสิ่งที่ประชาชนต้องการ.

...