นายกฯ รอส่งชื่อครบแต่งตั้งโยกย้าย ขรก.ระดับสูง พิจารณาดูภายใน 2 สัปดาห์นี้ ยันตรวจสอบเพื่อให้คนดีได้เติบโต พร้อมระบุไม่มีแต่งตั้งข้ามห้วย ยึดตาม ก.ม.กำหนดช่วงแต่งตั้ง ไม่ยื้อเลื่อนออกไป พร้อมย้ำการเลือกตั้งท้องถิ่นมีแน่ อยู่ที่ความเหมาะสม
เมื่อวันที่ 11 ก.ค.60 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง 14 หน่วยงานว่า วันนี้ตนจำเป็นต้องดูภาพรวมทั้งหมด ไม่ใช่แค่แต่งตั้งปลัดกระทรวงแล้วทุกคนจะสบายใจ ทุกหน่วยงานต้องเสนอขึ้นมาเพื่อพิจารณาทั้งหมดว่า ถ้าจะปรับหมุนเวียนกันแล้วจะหมุนเวียนกันอย่างไร ใครจะไปทดแทนตำแหน่งใดบ้าง ซึ่งหลักการของทหารเป็นแบบนี้ จะได้รู้ว่าเส้นทางการเจริญเติบโตเป็นมาอย่างไร จะได้ดูถึงความเหมาะสม ดูทั้งเรื่องอาวุโส ความรู้ความสามารถควบคู่กันไป โดยจะพิจารณาดูภายใน 2 สัปดาห์นี้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ตนกำลังให้แต่ละหน่วยงานส่งมาให้ครบ อย่างไรก็ตามการแต่งตั้งทั้งหมดก็เป็นกลไกของแต่ละหน่วยงานที่จะแต่งตั้งขึ้นมา โดยมีคณะกรรมการพิจารณาแต่ตนก็จะต้องไปเช็กและตรวจสอบเรื่องหน้าบ้านหลังบ้าน รวมทั้งความประพฤติที่ผ่านมาด้วย ก็เป็นส่ิงที่ทำให้คนดีได้มีการเจริญเติบโต รวมทั้งการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นโดยเฉพาะ กทม.ก็เช่นเดียวกัน ต้องดูเวลาที่เหมาะสม ทั้งหมดก็ต้องมีการเลือกตั้งอยู่แล้ว ส่วนจะก่อนหรือหลังเลือกตั้งใหญ่ก็ต้องดูสถานการณ์ที่ต้องว่ากันอีกที
เมื่อถามว่า ในการพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการระดับปลัดกระทรวง ถ้ามีการพิจารณาข้ามห้วยจะใช้หลักการและเหตุผลอะไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ยืนยันว่ายังไม่มีการข้ามห้วยอะไรทั้งสิ้น นโยบายผมไม่ได้ให้มีการข้ามห้วยเป็นหลัก ถ้าจะมีการข้ามห้วยก็ต้องมีเหตุผลและความจำเป็น ความเหมาะสมอย่างยิ่งยวด ไม่ใช่วันนี้ไปวิพากษ์วิจารณ์ว่าคนนั้นคนนี้จะข้ามห้วยไปกระทรวงนั้นกระทรวงนี้ โดยวิจารณ์กันไปเอง ไอ้คนที่มีชื่อจะได้ข้ามห้วยก็ดีใจ แต่พอถึงเวลาไม่ได้ขึ้นมาก็ไปรับผิดชอบกันด้วยก็แล้วกัน หลักการของผมคือทุกคนจะต้องโตภายในแท่งของหน่วยงานตัวเองไปก่อน เว้นแต่มีปัญหาก็ค่อยแก้ไขกัน ต้องยึดหลักการตรงนี้ ถ้ามัวแต่ไปคิดว่าจะสามารถข้ามห้วยได้ อีกหน่อยก็ไม่มีคนอยากทำงาน คิดแต่จะข้ามห้วยกันไปหมด คนในห้วยก็ไม่ต้องไปไหนกัน จมน้ำตายกันอยู่ตรงนั้นหรือ ต้องนึกถึงตรงนี้บ้าง"
...
เมื่อถามว่า เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายมีข้าราชการระดับล่าง กลุ่มหนึ่งอยากให้การแต่งตั้งโยกย้ายเกิดขึ้นในวันที่ 1 พ.ย.หลังจากผ่านพ้นงานพระราชพิธีไปแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนถามว่า กฎหมายกำหนดไว้อย่างชัดเจนให้แต่ละปีมีการปรับย้ายได้ 2 ครั้ง ดังนั้นเมื่อข้าราชการเกษียณไปแล้วในวันที่ 30 ก.ย. ถ้าไม่มีการแต่งตั้งแล้วใครจะทำงาน เพราะฉะนั้นก็ต้องยึดตามกฎหมายเป็นหลัก คือ เมื่อมีการเกษียณอายุของข้าราชการก็ต้องมีการแต่งตั้งคนใหม่เข้ามาทำงานทันที ซึ่งไม่ใช่เป็นการตั้งใหม่ทั้งหมด คนที่ยังมีอายุราชการอยู่ก็ทำงานต่อ คนที่เกษียณก็ต้องตั้งคนใหม่เข้ามาแทนที่
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ตนไม่มีได้รู้จักทุกคน แต่ไม่ว่าจะเสนอแต่งตั้งใครขึ้นมาต้องตรวจสอบทั้งหมด ซึ่งตนมีคนคอยตรวจสอบว่าที่ผ่านมามีพฤติกรรมอย่างไร บางทีก็มีผิดพลาดมากบ้าง น้อยบ้าง บางอย่างให้อภัยได้ก็ไม่ได้ว่าอะไร ไม่ใช่ว่าจะต้องได้คนดี 100% แม้มันจะมีแต่อยู่ในจุดที่เราจะเลือกหรือเปล่า ส่วนใหญ่คนดีๆ ไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ วันนี้ตนถือว่าทุกคนดี 100% เพราะตนยังไม่ได้ตรวจสอบใคร
"วันนี้ทุกหน่วยงานทำงานด้วยระบบและแผนงาน ผู้ว่าฯ ทำงานอยู่นาน ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องย้าย อยู่แล้วทำงานไม่ได้ก็ต้องย้าย ส่วนที่มีเสียงเรียกร้องอยากให้ผู้ว่าฯ ที่จะถูกปรับย้ายเดินทางออกจากพื้นที่ในวันที่ 1 พ.ย.นั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะการปรับย้ายก็ต้องเริ่มในวันที่ 1 ต.ค. มีวงรอบการปรับย้ายอย่างชัดเจนตามกติกา เป็นการปรับด้วยความเหมาะสม ปรับเลื่อนจากชั้น 2 สู่ชั้น 1 ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ต้องเอาคนที่ทำงานได้ไปทำงานในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความสอดคล้อง จะให้อยู่ในพื้นที่เดิมจนตายหรืออย่างไร" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า แต่ข้าราชการในพื้นที่เกรงว่า เมื่อมีนายใหม่เข้ามาแล้วงานจะขาดความต่อเนื่อง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "แสดงว่ามันห่วย เขาทำงานกันด้วยระบบ ไม่ได้ทำงานด้วยตัวคน ทุกอย่างยืนยันทำตามระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน ผมไม่ได้ตั้งกฎ ตั้งระเบียบขึ้นมาใหม่ ทุกอย่างมีกติกาอยู่แล้ว".