"สมเจตน์" ปฏิเสธเห็นแย้ง กรธ.โต้ข่าวลือล้มโต๊ะคว่ำร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมือง ยอมถอยแก้หลักเกณฑ์ไพรมารีโหวต ให้พรรคการเมืองคุมคัดเลือกผู้สมัครเลือกตั้งกันเอง เล็งออกบทเฉพาะกาลผ่อนปรนพรรคเล็ก เรื่องการส่งผู้สมัครในการเลือกตั้งสมัยหน้า

เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 60 ที่รัฐสภา พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง กล่าวถึงข้อเสนอของ กรธ.ในการปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมืองเรื่องไพรมารีโหวตว่า ขณะนี้ยังไม่มีการประชุมร่วมกับ กรธ.และ กกต. เพียงแค่ได้รับหนังสือจาก กรธ.ที่ระบุว่าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวไม่ตรงเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ 4-5 ข้อ แต่ กรธ.ไม่ได้คัดค้าน การให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมคัดเลือกตัวผู้สมัคร โดยเห็นว่ากระบวนการให้สาขาพรรคคัดเลือกผู้สมัครอาจทำให้เกิดขั้นตอนคัดเลือกที่ไม่สุจริตได้ ซึ่ง กมธ.ไม่ขัดข้องที่จะแก้ไขกระบวนการต่างๆ ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น จึงพร้อมปรับปรุงขั้นตอนการคัดเลือกผู้สมัครให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยให้ขั้นตอนการคัดเลือกผู้สมัครเป็นกิจการภายในพรรคการเมือง ที่หัวหน้าพรรคต้องดูแลรับผิดชอบกระบวนการคัดเลือกให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ กกต.ไม่มีอำนาจแจกใบเหลืองใบแดงขั้นตอนไพรมารีโหวตได้ หากมีความไม่ถูกต้องเกิดขึ้นในการคัดเลือกผู้สมัครให้ผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมใช้ช่องทางฟ้องร้องดำเนินคดีทางกฎหมายได้ โดยหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคต้องเป็นผู้ร่วมรับผิดชอบด้วย

พล.อ.สมเจตน์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันจะทบทวนประเด็นการแก้ไขให้หัวหน้าพรรคไม่จำเป็นต้องเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับ 1 ตามร่างที่ กมธ.แก้ไข เพราะอาจเป็นการจำกัดสิทธิหัวหน้าพรรคที่อยากไปลง ส.ส.เขตจึงพร้อมแก้ไขเปิดช่องให้หัวหน้าพรรคสามารถไปลง ส.ส.เขตได้ นอกจากนี้ จะออกบทเฉพาะกาลในการเลือกตั้งสมัยหน้า ผ่อนปรนให้พรรคการเมืองที่มีตัวแทนพรรคประจำจังหวัด 100 คน เพียงเขตเดียว สามารถส่งผู้สมัครเลือกตั้งได้ทั่วทุกเขตในจังหวัด จากเดิมที่กำหนดให้มีตัวแทนพรรคประจำเขตเลือกตั้งเขตละ 100 คน ครบทุกเขตเลือกตั้งในแต่ละจังหวัด จึงจะมีสิทธิส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ ข้อบัญญัติเช่นนี้ทำให้กรณีที่ระบุว่าพรรคใหญ่ได้เปรียบพรรคเล็กไม่เป็นความจริง

...

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวเรื่องการคว่ำร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมือง ภายหลังจากที่ กมธ.ร่วมได้ปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้แล้ว พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งกับ กรธ.จึงไม่มีเหตุผลที่จะทำให้การทบทวนร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมือง นำไปสู่การคว่ำร่างเพราะไม่มีประเด็นใดที่ กมธ.จะรับไม่ได้ที่จะแก้ไขตามที่ กรธ.ให้คำแนะนำมา เพราะมีเจตนารมณ์ตรงกันคือ อยากให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง แต่วิธีคิดการทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็งย่อมมีความคิดแตกต่างกัน ถือเป็นความงดงามในระบอบประชาธิปไตย