นายกฯ ชมนวัตกรรมแปรรูปยางพารา สั่ง ก.เกษตรฯ ทำบัญชีความต้องการยาง ชงของบฯ เร่งเพิ่มปริมาณแปรรูปใช้ในประเทศ แก้วิกฤติราคายางตกต่ำ ด้าน ปธ.กก.ยางดักคอไม่เชื่อม็อบยางออกเคลื่อนกดดัน รบ.

เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 60 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุม สื่อมวลชนได้สอบถามถึงรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง แต่นายกรัฐมนตรีได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม ขณะที่ นางสายสม วงศาสุลักษณ์ ประธานมูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำคณะเข้าพบนายกฯ เพื่อประชาสัมพันธ์ และจำหน่ายดอกบานชื่นสัญลักษณ์ "วันเมตตาปัญญาอ่อน"

ต่อมา พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อม นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย และคณะเข้าพบเพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงาน "ROT on the Move นวัตกรรมการแปรรูป จุดเปลี่ยนยางพารา" จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 ก.ค. ณ ศูนย์การค้าโชว์ ดีซี พระราม 9 โดยนายกฯ ได้เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากยางพารา ที่นำมาแสดง อาทิ หน้ากากป้องกันสารเคมี กระเป๋ายางพาราที่ป้องกันการกรีดได้ โดยนายกฯ ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

นายกฯ กล่าวว่า ขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดทำบัญชีรวบรวมความต้องการใช้ยางพาราของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อสรุปเสนอขออนุมัติงบประมาณนำไปสนับสนุนการผลิตใช้ภายในประเทศ เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้ยางมากขึ้น ต้องแก้ปัญหาราคายางพาราในประเทศก่อน และต้องประสานความร่วมมือระหว่างประเทศด้วย ซึ่งเวลานี้กระทรวงพาณิชย์กำลังเร่งขยายตลาดกำลังซื้อจากสาธารณรัฐประชาชนจีน นี่เป็นเหตุผลที่ไทยต้องคบค้าสมาคมกับทุกประเทศ อย่างจีนเป็นประเทศที่สั่งซื้อยางพาราจากไทยเป็นจำนวนมาก โดยทุกอย่างถือเป็นผลประโยชน์ต่างตอบแทน ที่ไทยต้องได้ผลประโยชน์ด้วย ขณะที่ กระทรวงทรัพย์พยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องแก้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ เพื่อลดการแก้ปัญหาปลูกยางพาราลงมา ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องสนับสนุนให้ประชาชนปลูกพืชชนิดอื่นร่วมด้วย

...

ด้าน นายธีธัช กล่าวว่า ได้รายงานสถานการณ์ราคายางพารา ให้นายกฯ ได้รับทราบ วันนี้ราคาน้ำยางสดอยู่ที่กิโลกรัมละ 41 บาท ซึ่งได้พูดคุยกับนายกสมาคมน้ำยางสดแล้วว่า จะพยุงราคาไม่ไห้ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 40 บาท

ส่วน พล.อ.ฉัตรเฉลิม กล่าวว่า ปัจจุบันราคายางพาราปรับตัวสูงขึ้นกว่าในอดีต จากปี 58 ราคายางอยู่ที่ 45 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งวันนี้อยู่ที่ 53 บาท เชื่อว่าชาวสวนยางอยู่ได้ ได้พยายามหารือกับผู้ประกอบการให้มีการยกราคา เชื่อชาวสวนยางเข้าใจถึงปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร แต่ก็ขอให้ฝ่ายการเมืองจะทำอะไรให้อยู่ในกรอบด้วย เพราะผู้ที่จะมาชุมนุมต่างมีความเข้าใจและการกดดันรัฐบาลมากๆ ผู้ที่ได้ประโยชน์คือผู้กดดัน แต่ชาวสวนได้ไม่มาก เชื่อว่าจะไม่มีการออกมารวมตัวเพื่อกดดันรัฐบาล เพราะมาตรการต่างๆ เริ่มเห็นผลแล้ว