"ชวน" เผยกรมวิชาการเกษตรรับรองพันธุ์สะตอ ตรัง 1 ดีที่สุดในโลก หลังศึกษาสายพันธุ์มายาวนานกว่า 10 ปี แนะคนตรังปลูกสะตอเป็นพืชเสริมแทนยางพารา อนาคตผลักดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ...
ที่บ้านถนนวิเศษกุล เลขที่ 183 ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี เผยว่า ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนตรัง ม.2 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง อยู่ในการดูแลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้ขอให้หน่วยงานนี้ศึกษาสายพันธุ์สะตอกว่า 10 ปีมาแล้ว ตอนบุกเบิกสร้างศูนย์ฯ ตนเองกับนายประกิจ รัตตมณี อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ บุกเบิกไปดูพื้นที่ด้วยตัวเอง เดินด้วยตัวเองเพื่อให้ชาวบ้านให้ความร่วมมืออย่าคัดค้านให้คนที่อยู่ในพื้นที่รุกพื้นที่ออกไป และกราบเรียน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ให้ท่านมาเป็นประธานเปิด จากนั้นได้มอบนโยบายให้กับกรมวิชาการเกษตรฯ และศูนย์หรือสถานีพืชสวนแต่ละจังหวัด เขาจะมีเอกลักษณ์ของเขา อย่างชุมพร เขาผลิตมะพร้าว ส่วนจังหวัดตรังเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเพาะพันธุ์สะตอที่ดีที่สุดในโลก ลูกเนียงที่ดีที่สุดในโลก และพืชอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องเกษตรกร ซึ่งต้องชื่นชมหัวหน้าแต่ละรุ่นที่ทำมาและอยากจะให้ศูนย์วิจัยพืชสวนตรัง "เป็นศูนย์วิจัยสะตอหนึ่งเดียวในโลก" และยังกล่าวอีกว่าอยากจะให้สถาบันวิจัยพืชสวนตรังทำงานวิจัยต่อเนื่องในเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวกับสะตออีกด้วย
นายชวน กล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า ในที่สุดเราเพิ่งสำเร็จชิ้นแรกคือ สะตอ หลังจากใช้เวลาศึกษาอยู่ 10 กว่าปี รวบรวมพันธุ์สะตอจากภาคใต้หลายจังหวัดมาคัดพันธุ์แล้วก็ผลิตมาเป็น “สะตอพันธุ์ตรัง 1” ซึ่งกรมวิชาการเกษตรฯ รับรองแล้ว คุณสมบัติและลักษณะพิเศษของสะตอคือ สามารถออกผลนอกฤดู ลำต้นไม่ใหญ่ ไม่สูง สามารถเก็บสะตอได้ไม่ยาก ฝักแน่น ฝักตรง อายุในการปลูกออกผลผลิตไม่นาน ประมาณ 3-4 ปี ซึ่งตรงนี้สามารถช่วยพี่น้องเกษตรกรได้ขยายนำไปปลูกเพื่อเป็นรายได้เสริมจากรายได้เดิมที่ตนมีอยู่ อย่าหวังให้ราคายางขึ้นอย่างเดียว ราคายางขยับขึ้นลงมันไม่แน่นอน เพราะผลผลิตมันมาก และตนได้คุยกับศูนย์ฯ ว่าจะทำให้ศูนย์ฯ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น ปลูกสวนสะตอให้สวยงาม ดอกไม้ทั่วไปแต่เป็นดอกสะตอ อย่างฤดูกาลผลิดอกออกโมงสะตอก็สามารถประชาสัมพันธ์เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้
...
นายชวน กล่าวอีกว่า ขณะนี้เพิ่งขุดสระงบประมาณพร้อมทั้งสำรวจติดตามการก่อสร้าง "แก้มลิงพืชสวนตรัง" ซึ่งนายชวนได้ประสานของบประมาณจากกรมชลประทาน จำนวน 16 ล้านบาท โดยขุดสระพื้นที่ 56 ไร่ สามารถจุน้ำได้ 360,000 ลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้เพื่อเป็นแหล่งเก็บน้ำสำหรับศูนย์วิจัยพืชสวนตรัง หลังจากขุดเสร็จก็จะปลูกสะตอให้รอบสระ ตรงนี้ก็จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไปในอนาคต ทำให้จังหวัดเรามีศูนย์แหล่งท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืนด้านการเกษตร ทั้งนี้ก็จะคอยดูว่าจะช่วยส่งเสริมพัฒนาต่อยอดไปอย่างไรบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะนี้หลังจากมีข่าวประชาสัมพันธ์ "สะตอพันธุ์ตรัง 1" ออกไป มีคนสนใจจะนำไปปลูก ตนเองได้สั่งให้เตรียมความพร้อมพันธุ์สะตอเหล่านี้ไม่ใช่เก็บข้างถนนแล้วปลูกได้ และทางศูนย์ฯ ได้ผลิตต้นกล้าจากเมล็ดและการติดตาเพื่อจำหน่ายให้เกษตรกรได้ไปปลูกเพื่อเสริมรายได้ให้กับครอบครัว สำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับสะตอพันธุ์ตรัง 1 สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิจัยพืชสวนตรัง สั่งจองคนละไม่เกิน 25 ต้น ราคาต้นละ 40 บาท (แบบติดตา) ออเดอร์สั่งจองยาวไปจนถึงเดือน มี.ค.61 โทรสอบถามได้ที่ 0-7520-3394 ในวันเวลาราชการ.