ทุจริตเลือกตั้ง อบจ.เมืองคอน ศาลสั่งคุก 3 ส.ท.เมืองคอน-ปธ.สาขาพรรคดัง คนละ 1 ปี 4 เดือน ปรับคนละ 20,000 บาท ตัดขาดการเมือง 10 ปี

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 12 มิ.ย. ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้นัดฟังคำพิพากษาทุจริตการเลือกตั้ง นายก อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี พ.ศ. 2557 ซึ่งพนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช ยื่นฟ้องอาญาต่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยศาลได้อ่านคำพิพากษา ว่า จำเลยทั้ง 4 คน คือ นายสรพงศ์ คงสำราญ อายุ 38 ปี นายธีระวัฒน์ คงสำราญ อายุ 55 ปี นายอาวุธ สุขันทอง อายุ 49 ปี ทั้ง 3 รายเป็นสมาชิกสภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ 4 และรายที่ 4 คือนายปิยะวัฒน์ เกตุแก้ว อายุ 50 ปี ประธานสาขาพรรคประชาธิปัตย์นครศรีธรรมราช กระทำความผิดจริงตามฟ้อง จึงพิพากษาตัดสินจำคุกคนละ 4 ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี จึงลดโทษให้เหลือจำคุกคนละ 1 ปี 4 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ปรับคนละ 20,000 บาท ตัดสิทธิ์ทางการเมืองคนละ 10 ปี

หลังทราบคำพิพากษา ญาติของจำเลยทั้ง 4 คน ได้ยื่นหลักทรัพย์คนละ 200,000 บาท ประกันตัวเพื่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป ซึ่งต่อมาศาลได้มีคำสั่งอนุญาต

สำหรับคดีนี้อัยการได้สรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย โดยพนักงานอัยการนครศรีธรรมราช เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสรพงศ์ คงสำราญ กับพวกรวม 4 ราย ตามรายชื่อข้างต้น กับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ตามคดีดำที่ 3542/2559 ลงวันที่ 2 พ.ย.59 โดยมีใจความสำคัญบรรยายฟ้องตามคำฟ้องในข้อ 2.ความว่า เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2557 เวลากลางวัน จำเลยทั้ง 4 เป็นผู้สนับสนุน (หัวคะแนน) ของนายมาโนช เสนพงศ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้บังอาจร่วมกันมอบเงินให้แก่คณะกรรมการและประชาชนในเขตชุมชนการเคหะเอื้ออาทร เทศบาลนครนครศรีธรรมราช เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนโดยทั่วไป ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งอันเป็นการจัดให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินให้แก่ผู้ใดเพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งแก่ นายมาโนช เสนพงศ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ชั้นสอบสวนจำเลยทั้ง 4 ให้การปฏิเสธ

...

พนักอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นโจทก์ได้ยื่นคำขอท้ายคำฟ้องอาญาความว่า การที่จำเลยได้กระทำตามข้อความที่กล่าวมาในคำฟ้องนั้น ข้าพเจ้าถือว่าเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายและบทมาตราดังนี้คือ พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสภาส่วนท้องถิ่นและผู้บริหารส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2545 มาตรา 4, 5, 8, 57, 118 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 โดยขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมาย และขอให้ศาลได้สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยทั้ง 4 มีกำหนด 10 ปี ซึ่งต่อมามีรายงานว่าจำเลยทั้ง 4 ได้รับความปรานีจากศาล อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว และนัดฟังคำพากษาในวันนี้ (12 มิ.ย.)

นอกจากนี้ กกต.นครศรีธรรมราช ได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายเทพไท เสนพงศ์ และนายมาโนช เสนพงศ์ ในกรณีทุจริตการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช คราวเดียวกัน โดยนายเทพไท นั้นได้ถูกดำเนินคดีฐานจัดเลี้ยงเพื่อจูงใจ เหตุเกิดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านถนนเทิดพระเกียรติ ตำบลปากนคร อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ส่วนนายมาโนช เสนพงศ์ ที่ถูกศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิจารณาให้ใบแดงตามคำร้องของ กกต.ได้ถูกดำเนินคดีอาญา ในประเด็นจัดเลี้ยง และแอบอ้างพรรคการเมือง ซึ่งทั้งสองรายหลังนี้ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนแล้ว อยู่ในระหว่างสรุปสำนวนเพื่อส่งอัยการพิจารณาคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องต่อไป โดยที่ กกต.นครศรีธรรมราช ผู้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ได้นำเอาสำนวนการพิจารณาและคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 8 ซึ่งถือเป็นที่สุดแล้ว เป็นหลักฐานประกอบการร้องทุกข์ด้วย

ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการการเลือกตั้งนครศรีธรรมราช กำลังเตรียมดำเนินการในขั้นตอนต่อไปคือ การฟ้องบังคับทางแพ่งให้นายมาโนช เสนพงศ์ ชดใช้ค่าเสียหายซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่คณะกรรมการเลือกตั้งนครศรีธรรมราช ใช้จ่ายไปในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อปี 2557 วงเงิน 61 ล้านบาท ซึ่งนายมาโนช และพวกจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบตามกฎหมาย.