ศาลไม่ให้ประกัน ชี้โหด-เข้าข่ายผู้มีอิทธิพล ผัวเมียฆ่าเณรฝังดิน ที่นครศรีธรรมราช ต้องนอนคุก เจ้าหน้าที่ได้แยกนำตัวไปคุมขังไว้ รอส่งฟ้องศาลในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ ต่อไป
ภายหลัง จากกรณีที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เบิกตัว 3 ผู้ต้องหา คดีฆ่า และอำพรางศพ สามเณรปลื้ม หรือ นายศุภโชค เอกเกียรติกุล อายุ 17 ปี ที่วัดวังตะวันตก ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้แก่ น.ส. ปิยฉัตร อรุณสกุล อายุ 40 ปี หรือบิว, นายเด่นชัย ภูมินิยม อายุ 36 ปี หรืออดีตพระเด่น สองสามีภรรยา และนายสุริยา กุศลสุข อายุ 18 ปี จาก สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ไปยื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผัดแรก โดยคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ทั้งนี้ ตำรวจในเครื่องแบบและชุดสืบสวนได้ประกบ 3 ผู้ต้องหา ขึ้นรถบรรทุกผู้ต้องขัง โดยทั้ง 3 ผู้ต้องหา มีสีหน้าซีด และวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด
ล่าสุด ศาลได้พิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตตามคำร้องของพนักงานสอบสวน ให้ฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน และเห็นด้วย โดยไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เพราะเห็นว่า เป็นการก่อเหตุที่อุกอาจสะเทือนขวัญ มีพฤติกรรมเข้าข่ายผู้มีอิทธิพล อาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ไม่สมควรให้ออกมาอยู่ข้างนอก ซึ่งภายหลังศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เจ้าหน้าที่ได้แยกนำตัวไปคุมขังไว้ รอส่งฟ้องศาลในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ ต่อไป
...
สำหรับคดีดังกล่าว เป็นคดีสะเทือนขวัญ หลังจากสามเณรปลื้ม อายุ 17 ปี สามเณรลูกวัดวังตะวันตก ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม 2560 ซึ่งหลังจากพบความผิดปกติ ทางญาติของสามเณรปลื้ม จึงร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ให้ช่วยติดตามหาตัว จนกระทั่งทราบเบาะแสว่า สามเณรปลื้มถูกฆาตกรรมทำให้ชุดสืบสวนเร่งติดตามผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ สองในสามของผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าร่วมกันฆาตกรรมสามเณรปลื้มภายในกุฏิที่พักก่อนนำศพฝังโบกปูนไว้ภายในวัด และนำไปสู่การขุดหาร่างจนพบในเวลาต่อมา.