ผู้การฯปัตตานี สนธิกำลังตำรวจ ทหารกว่า 50 นาย เข้าปิดล้อมตรวจ ค้นบ้านใน อ.หนองจิก หลัง 1 ในผู้ต้องสงสัยซึ่งถูกควบคุมตัวไว้ก่อนหน้านี้ ยอมเปิดปากสารภาพว่าใช้เป็นจุดวางแผน และนำรถกระบะไปประกอบระเบิด “คาร์บอมบ์” ก่อนจะส่งมอบให้มือระเบิดนำไปถล่มห้างบิ๊กซี ปัตตานี พบวัยรุ่น 4 คน มั่วสุมกันอยู่ในบ้านนำตัวไปสอบสวนขยายผล แม่ทัพภาคที่ 4 เผยเตรียมออกหมายจับแก๊งคาร์บอมบ์ 15 คน ยืนยันยังเดินหน้าโครงการพาคนกลับบ้าน
กรณีกลุ่มคนร้ายลวงนายนุสน ขจรดำ อายุ 45 ปี พ่อค้าขายผ้าใบชาว จ.ยะลา ไปฆ่าอำมหิตแล้ว นำศพไปทิ้งในร่องน้ำกลางทุ่งนาพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ก่อนจะชิงเอารถกระบะนำไปก่อเหตุ “คาร์บอมบ์” ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาปัตตานี อ.เมืองปัตตานี มีผู้บาดเจ็บ 61 คน เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองสนธิกำลังออกติดตามไล่ล่าจนสามารถลากคอคนร้ายมาดำเนินคดีได้บางส่วนแล้วนั้น ความคืบหน้า เมื่อตอนสายวันที่ 13 พ.ค. ที่ห้องประชุม ภ.จ.ปัตตานี พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางไปร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิด “คาร์บอมบ์” ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาปัตตานี อ.เมืองปัตตานี
พล.ท. ปิยวัฒน์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ขณะนี้รู้ตัวผู้ร่วมก่อเหตุ 15 คน และพิสูจน์ทราบแล้ว 12 คน ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจะออกหมายจับ คาดว่าไม่เกิน 4-5 วัน ขอชี้แจงว่าคดีมีความคืบหน้าไปมาก จากการสอบสวนขยายผลผู้ต้องสงสัย ทำให้เราทราบถึงแผนการก่อเหตุ เส้นทางการนำรถไปก่อเหตุ ตั้งแต่จุดประกอบระเบิดไปจนถึงห้างบิ๊กซี และเส้นทางหลบหนี รวมทั้งสถานที่หลบซ่อนตัว นำไปสู่การทราบชื่อบุคคลร่วมก่อเหตุ หลัง จากนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจว่าจะดำเนินการอย่างไร ทหารเองจะสอบสวนผู้ต้องสงสัยที่ถูกคุมตัวต่อไป เพราะเชื่อว่ายังมีข้อมูลอีกมากยังไม่เปิดเผย ส่วนคนร้ายทั้ง 4 คน ที่ขับรถคาร์บอมบ์ ออกหมายจับแล้ว 1 คน อีก 3 คน รู้ตัวหมดแล้ว เป็นกลุ่มเก่ามีหมายจับ ส่วนกรณีมีผู้ต้องสงสัยบางคนเคยเข้าสู่โครงการพาคนกลับบ้านมาก่อน ยอมรับว่ามี ต่อไปต้องกำชับให้ดูแลมากกว่านี้ และติดตามพฤติกรรมอย่างเข้มงวด ยืนยันโครงการพาคนกลับบ้านยังคงมีต่อไป
...
พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนคลี่คลายคดีคาร์บอมบ์ห้างบิ๊กซีปัตตานี เผยว่า คดีคาร์บอมบ์มีความคืบหน้าไปมาก เนื่องจากผู้ต้องสงสัย 2 คน รับสารภาพเพราะจำนนด้วยหลักฐาน ทำให้คดีแคบลง โดยเฉพาะข้อมูล เชิงลึกที่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในตอนนี้ แต่จะมีการออกหมายจับเร็วๆนี้ และเป็นการออกหมายจับกว่า 10 คน ส่วนการติดตามคนร้ายนั้นได้ไปตรวจค้นบ้านพัก แต่ไม่พบตัว เชื่อว่าไหวตัวหลบหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว จากเบาะแสพบว่ากลุ่มคนร้ายได้แยกย้ายกันหลบหนีตามพื้นที่เขตรอยต่อ จ.ยะลา และ จ.สงขลา ขณะนี้มีการเฝ้าติดตามกลุ่มเป้าหมาย เพราะเชื่อว่าอาจจะให้ความช่วยเหลือคนร้ายในการหลบซ่อนตัว ขอฝากให้ประชาชนช่วยตรวจสอบพื้นที่ตนเองด้วย หากพบคนแปลกหน้าให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที และหากว่าใครช่วยเหลือให้ที่หลบซ่อนตัว ก็จะถูกดำเนินคดีไปด้วย
ต่อมาวันเดียวกัน พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.ฉก.ทพ. 43 สนธิกำลังกว่า 50 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้าน 2 ชั้น ไม่มีเลขที่กลางทุ่งนา หมู่ 1 ต.ดอนรัก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หลังได้รับข้อมูลจากคำรับสารภาพของผู้ต้องสงสัย 1 ใน 2 คน ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ศูนย์ซักถามค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานีว่า เป็นจุดนำรถกระบะไปประกอบระเบิดแสวงเครื่อง ก่อนจะนำไปก่อเหตุถล่มห้างบิ๊กซีปัตตานี ในการเข้าตรวจค้นพบกลุ่มวัยรุ่น 4 คน อยู่ภายในบ้าน 1 ใน 4 เป็นเจ้าของบ้านให้การว่า วันเกิดเหตุไม่อยู่บ้าน ทราบเพียงว่ามีรถกระบะเข้ามาจอด แต่ไม่รู้ว่าทำอะไร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำตัวทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการซักถามเพื่อขยายผลต่อไป ตรวจสอบภายในบ้านพบรถ จยย. 1 คัน อุปกรณ์หุงต้ม กระเป๋าเสื้อผ้า และเบาะนอนจึงยึดทั้งหมดไว้ตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อหาดีเอ็นเอและสารตั้งต้นระเบิดว่ามีความเชื่อมโยงกับเหตุรุนแรงใดบ้าง
ในการเข้าปิดล้อมตรวจค้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัว 1 ในผู้ต้องสงสัยซึ่งรับสารภาพว่าเป็นผู้วางแผนและสั่งการมาชี้จุดบ้านหลังดังกล่าวด้วยว่าเป็นสถานที่นำรถกระบะมาประกอบระเบิดแสวงเครื่อง ก่อนจะส่งมอบให้มือระเบิดทั้ง 4 คน ซึ่งปรากฏในภาพวงจรปิดไปก่อเหตุถล่มห้างบิ๊กซีปัตตานี การนำตัวมาชี้จุดครั้งนี้เพื่อเป็นหลักฐานในการขออนุมัติออกหมายจับต่อไป ด้าน พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ผู้ต้องสงสัยให้การเป็นประโยชน์ จึงนำตัวมาชี้จุดวางแผนและประกอบระเบิดนำไปก่อเหตุ ผู้ต้องสงสัยให้การว่ายังมีอีกหลายจุดที่ร่วมกันก่อเหตุ ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนขยายผล