บรรยากาศชวนขนลุกสุดๆ นายกเทศมนตรีคลองเต็ง พร้อมญาตินิมนต์พระ เทพเจ้านาจา ทำพิธีเชิญวิญญาณอาสากู้ชีพฯ 4 ศพกลางดึก เชื่อบางคนยังวนเวียนอยู่ที่เดิม ไม่สามารถเดินทางไปยังสัมปรายภพได้ พบ 3 คนเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่มีใจอาสา น่าเสียดายมาก... 

เมื่อช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา 12 พ.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ต.ชวน พลเดช นายกเทศมนตรีตำบลคลองเต็ง อ.เมืองตรัง และ น.ส.สุกัญญา จำปา อายุ 42 ปี มารดาและญาติๆ ของ นายภานุเดช หรือบิว แก้วอินทร์ อายุ 19 ปี กู้ภัย 1 ใน 4 ที่เสียชีวิต ได้นิมนต์พระภิกษุ 1 รูป และร่างทรงของเทพนาจา พร้อมดอกไม้ ธูป เทียน เดินทางไปยังบริเวณถนนเพชรเกษม ขาออกตัวเมืองตรัง บริเวณหัวสะพานบ้านปลายหมัน ม.9 ต.นาท่ามเหนือ อ.เมือง จ.ตรัง จุดที่เกิดอุบัติเหตุรถกระบะชนเจ้าหน้าที่อาสากู้ชีพฯ เทศบาลคลองเต็งเสียชีวิต 4 ศพ และบาดเจ็บอีก 6 ราย เมื่อคืนวันที่ 6 พ.ค.60 ที่ผ่านมา เพื่อทำพิธีเชิญดวงวิญญาณอาสากู้ชีพฯ ที่ยังหลงวนเวียนอยู่ที่เดิม ไม่สามารถเดินทางไปสัมปรายภพได้ โดยเชื่อว่ายังหลงทางอยู่อีก 2 ราย หลังจากมีชาวบ้านและญาติพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ายังมีผู้เสียชีวิตวนเวียนอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยขณะทำพิธีฝนตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย

...

น.ส.สุกัญญา มารดาของ นายภานุเดช หรือบิว หนึ่งในผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนมีลูกทั้งหมด 3 คน มีลูกสาว 2 คน น้องบิว เป็นลูกชายคนเดียว เป็นคนง่ายๆ ไม่เรื่องมาก ชอบทำงานอาสา และอาศัยหลับนอนอยู่ที่หน่วยกู้ชีพแพทย์ฉุกเฉินเทศบาลคลองเต็ง เหมือนเป็นบ้านหลังที่ 2 ทุกวันลูกชายออกหน่วยไปช่วยเหลือผู้ที่ประสบเหตุอยู่เป็นประจำ เพราะเขาชอบเป็นส่วนตัว ตนก็ไม่ได้ห้ามปราม วันเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังหลับพักผ่อนอยู่ กลางดึกก็มีคนมาเรียกว่าลูกชายตนถูกรถชน ทำให้ตกใจมาก และไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงเช่นนี้ขึ้น ซึ่งคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากการเมาแล้วขับ มีซ้ำอยู่บ่อยๆ ยังไม่มีใครแก้ไขได้ การทำพิธีเชิญวิญญาณในครั้งนี้เชื่อว่าจะทำให้น้องบิว ลูกชาย ไม่ต้องวนเวียนอยู่ที่เดิม สามารถไปสู่ภพภูมิที่ดีของตัวเองได้

ด้าน ร.ต.ต.ชวน กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุสะเทือนขวัญทำให้หน่วยกู้ชีพแพทย์ฉุกเฉินต้องสังเวยชีวิตถึง 4 ศพ ก่อนหน้านั้นมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนเคารพนับถือมาส่งสัญญาณเตือนผ่านร่างทรงให้ทราบ แต่ปกติตนมักก็ไม่ค่อยเชื่ออะไรง่ายๆ อาจจะมีความเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งก็เลยไม่ได้คิดกังวลอะไรมากนัก แต่ในใจคิดว่าสักวันหนึ่งจะต้องมีการทำบุญเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับวิญญาณล่วงลับ ร่วมถึงสัมภเวสีที่บอกเล่ากันว่ามีเด็กเสียชีวิตจากรถสามล้อ วิ่งไปมาอยู่ และคนที่ขับรถผ่านเห็นมีคนนั่งบนราวสะพาน จึงต้องทำพิธีอัญเชิญส่งวิญญาณที่อาจจะมีหลงเหลืออยู่ได้ไปผุดไปเกิดในภพของตนเอง โดยตั้งใจจะเชิญชวนชาวบ้านช่วยกันนำอาหารปิ่นโตมาทำบุญ นิมนต์พระมาสวดเพื่อปัดรังควานและเสริมความเป็นสิริมงคล

"ส่วนตัวตนเชื่อว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยๆ และครั้งล่าสุดที่เกิดกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ เป็นเพราะจุดที่เกิดอุบัติเหตุนี้เป็นที่อาถรรพณ์ เนื่องจากเมื่อหลายปีที่ผ่านมาเคยมีคนตายบริเวณหัวสะพานคลองเต็งมาแล้วนับร้อยศพ หลังจากนั้นได้ทำพิธีปัดรังควานเชิญดวงวิญญาณ ทำบุญเลี้ยงพระ จากนั้นไม่เคยมีผู้เสียชีวิตอีก กระทั่งย้ายมาเกิดเหตุที่หัวสะพานปลายหมันตรงจุดที่อาสากู้ชีพเสียชีวิตแทน โดยตายมาก่อนหน้านี้หลายศพแล้ว ซึ่งบางเรื่องไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ อย่างน้อยที่สุดจะทำให้ผู้ที่ใช้เส้นทางนี้ มีขวัญกำลังใจมากขึ้น แต่ไม่ทันได้ดำเนินการใดๆ กลับมาเกิดอุบัติเหตุทำให้สูญเสียชีวิตของคนดีๆ ผู้เสียสละ กำลังสำคัญของหน่วยแพทย์ฉุกเฉินเทศบาลคลองเต็งไปถึง 4 รายและล้วนเป็นเด็กรุ่นใหม่ ที่มีใจเพื่อส่วนรวม ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง"

นายกเทศมนตรีตำบลคลองเต็ง กล่าวอีกว่า หลังพิธีฌาปนกิจ เจ้าหน้าที่กู้ภัยรายสุดท้ายในวันที่ 20 พ.ค.นี้ จะจัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระครั้งใหญ่ บริเวณถนนโดยเฉพาะจุดที่เกิดอุบัติเหตุครั้งล่าสุดนี้ ให้เร็วที่สุด เชื่อว่าจะผ่อนหนักเป็นเบา อุบัติเหตุจะลดน้อยลง แต่ที่สำคัญคือผู้ที่ใช้รถใช้ถนนผ่านเส้นทางนี้ โปรดขับรถด้วยความระมัดระวัง และขอความกรุณาว่า "เมาอย่าขับ" ต้องสำนึกและตระหนักเรื่องนี้ให้มาก เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นทำให้เกิดความสูญเสียอย่างมหาศาล ซึ่งไม่คุ้มกัน

สำหรับศพนายภานุเดช หรือบิว แก้วอินทร์ อายุ 19 ปี กำหนดฌาปนกิจพร้อมกับ นายตะวัน จันทร์ด้วง อายุ 17 ปี วันจันทร์ที่ 15 พ.ค.60 ส่วนศพนายประเทือง หรือช่างเอียด สังข์เมือง อายุ 38 ปี กำหนดฌาปนกิจวันที่ 20 พ.ค.เป็นศพสุดท้าย ขณะที่ศพนายธนากร หรือน้องมด คงตุ้ง นักศึกษา ปวช.3 วิทยาลัยเกษตรกรรมเทคโนโลยีตรัง ญาติทำพิธีฌาปนกิจที่วัดสิทธิชัยรังสรรค์ หรือวัดคลองเต็ง ต.นาท่ามเหนือ อ.เมืองตรัง ไปแล้วเมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา. 

...