ด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง เข้มตรวจสอบประวัติบุคคลและรถเข้าออก หลังมีกระแสข่าวสมาชิกไอซิส นำอาวุธ หลบหนีจากมาเลเซีย เข้าชายแดนใต้ของไทย

เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 60 ที่ด่านพรมแดน อ.เบตง จ.ยะลา ตรงข้ามกับด่านเปิงกาลันฮูลู รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย พ.ต.ต.สุกรี ปลัดสามะ สารวัตรด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง จ.ยะลา กำชับให้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบประวัติบุคคลเข้าออกด่านพรมแดน ภายหลังจากสำนักข่าวแชนแนล นิวส์ เอเชีย รายงานว่า ทางการมาเลเซีย แถลงว่าได้จับกุมผู้ต้องสงสัยว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมของกองกำลังรัฐอิสลาม หรือ “ไอซิส” ได้ 6 คน ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค. - 25 เม.ย. ที่ผ่านมา ทั้งหมดเป็นชาวมาเลเซีย โดยเป็นชาย 4 คน และหญิง 2 คน ชาย 2 คนแรก อายุ 26 ปี และ 41 ปี ถูกจับที่รัฐกลันตัน ข้อหาลักลอบค้าอาวุธจากชายแดนไทยเข้าไปยังมาเลเซีย และหนึ่งในผู้ถูกจับกุมเป็นผู้พยายามวางแผนก่อวินาศกรรมมัสยิดของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ในปีนัง นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องสงสัยไอเอส อีก 1 คน ในกลุ่มเดียวกับ 6 คนนี้ หลบหนีการจับกุมไปได้โดยการหนีเข้าชายแดนภาคใต้ของไทย พร้อมกับอาวุธปืน 3 กระบอก ทราบชื่อ นายมูฮัมหมัด มูซัฟฟา อารีฟ บิน จูไนดี อายุ 27 ปี

ด้าน นายดำรงค์ ดีสกุล นายอำเภอเบตง กล่าวว่า หลังได้รับรายงานข่าวเรื่องดังกล่าวจากฝ่ายความมั่นคง จึงได้กำชับให้หน่วยความมั่นคงตามแนวชายแดนติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด พร้อมเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบรายชื่อจากหนังสือเดินทางอย่างละเอียดผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีการออนไลน์กลุ่มบุคคลที่ถูกขึ้นบัญชีดำ โดยเจ้าหน้าที่เกรงว่า นายมูฮัมหมัด มูซัฟฟา อารีฟ บิน จูไนดี ผู้ต้องสงสัยไอเอสคนดังกล่าว จะแฝงตัวมากับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้า-ออกตามด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย จึงต้องนำหนังสือเดินทางของบุคคลที่มีความประสงค์นำยานพาหนะเข้าออกประเทศมาเลเซียและประเทศไทยมาตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมทั้งดูแลเส้นทางธรรมชาติตามแนวชายแดน ตั้งจุดตรวจจุดสกัด จับตาบุคคลต้องสงสัย บุคคลตามหมายจับคดีความมั่นคง ตรวจสอบยานพาหนะทุกชนิด ป้องกันหลบหนีเข้ามาซ่อนตัวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้.

...