เปิดเทอมใหม่หัวใจว้าวุ่น ผู้ปกครองวิ่งวุ่นหาเงินซื้อหนังสือ เครื่องแต่งกาย ที่พึ่งสุดท้ายคือโรงรับจำนำ หลายแห่งลดดอกเบี้ยเพื่อเป็นการช่วยเหลือ ฝ่ายผู้ปกครองวอนรัฐเพิ่มเงินอุดหนุนโครงการเรียนฟรี เพราะค่าครองชีพที่สูงขึ้น...
วันที่ 3 พ.ค. 60 ที่สถานธนานุบาล หรือโรงรับจำนำ เทศบาลเมืองกระบี่ ได้มีประชาชนจำนวนมากทยอยเดินทางมาใช้บริการ นำทรัพย์สินมาจำนำ เพื่อนำไปใช้จ่ายในช่วงก่อนเปิดเทอมของนักเรียนที่กำลังจะเปิดเทอมในไม่ช้านี้ ซึ่งแต่ละวันพบว่ามีผู้มาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 100 คน ทางสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองกระบี่ ได้มีโปรโมชั่นช่วงเปิดเทอม ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยลง โดยเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 0.25 ต่อเดือน เงินต้นเกินกว่า 5,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 0.75 ต่อเดือน ต้อนรับช่วงเปิดภาคเรียนตั้งแต่เดือนเมษายน-31 พฤษภาคมนี้
นางสุวรรณี คงสอน ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองกระบี่ กล่าวว่า ทางโรงรับจำนำ ได้ลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อช่วยเหลือผู้ปกครอง ที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินสำหรับซื้ออุปกรณ์การเรียนให้กับบุตรหลาน นอกจากนั้น พบว่าการนำสิ่งของมาจำนำยังคงเป็นทองรูปพรรณเป็นส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 90 แต่ก็มีผู้ปกครองบางรายไม่มีทองรูปพรรณ ก็นำอุปกรณ์การทำมาหากิน เช่น เครื่องมือช่าง บางรายนำกีตาร์ หรือบางรายนำนาฬิกามาจำนำ ซึ่งทางโรงรับจำนำก็ให้การช่วยเหลือรับจำนำไว้ แม้จะมียอดไม่มากประมาณ 300-500 บาท แต่ก็ช่วยเหลือชาวบ้านที่ขาดเงินใช้จ่ายในช่วงนี้
...
ส่วนที่ย่านการค้าเทศบาลเมืองกระบี่ มีพ่อแม่ผู้ปกครองนักเรียนนำบุตรหลาน มาเลือกซื้อเสื้อผ้า ชุดนักเรียน ชุดลูกเสือ กระเป๋า รองเท้า ก่อนเปิดเทอม โดยทางร้านมีปรับกลยุทธ์การขาย ทั้งลด ทั้งแถม เพื่อดึงดูดลูกค้า แข่งขันกับห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่
เจ้าของร้านจำหน่ายชุดนักเรียนติ๋มบูติก เปิดเผยว่า ปีนี้ราคาสินค้าชุดนักเรียนทุกระดับชั้น ไม่ได้ปรับขึ้นราคา โดยเริ่มตั้งแต่ราคาตัวละ 100-300 กว่าบาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและขนาด แต่กำลังซื้อของประชาชนลดลง เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะซื้อในราคาถูกถึงปานกลาง และเลือกซื้อเพิ่มเฉพาะที่จำเป็น ยกเว้นบุตรหลานที่ต้องเลื่อนชั้นจากอนุบาล ขึ้น ป.1 หรือจาก ป.6 ขึ้นชั้นมัธยม ที่ต้องซื้อชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียนใหม่ทั้งหมด
ด้านผู้ปกครองนักเรียน เปิดเผยว่า แม้จะมีเงินอุดหนุนในโครงการเรียนฟรีของรัฐบาล แต่ก็ไม่เพียงพอต่อภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มเงินอุดหนุนในโครงการเรียนจากระดับชั้น ป.1-3 จำนวน 360 บาท และค่าอุปกรณ์การเรียน 390 บาท ให้เพิ่มเป็นอย่างละ 500 บาท เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง.