รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แจงความคืบหน้าจับสมาชิกแนวร่วมผู้ก่อเหตุระเบิด เผาเสาไฟฟ้า และสายส่งสัญญาณโทรศัพท์หลายจุด ในพื้นที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี พร้อมเตรียมออกหมายจับอีกหลายราย หลัง DNA เชื่อมโยงถึงบุคคลผู้ประกอบระเบิด...

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 25 เม.ย. 60 ที่ค่ายสิรินธร จ.ปัตตานี พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงข่าว ถึงความคืบหน้าทางคดีคนร้ายก่อเหตุลอบวางระเบิด เผาเสาไฟฟ้า และสายส่งสัญญาณโทรศัพท์จำนวนหลายจุด เมื่อวันที่ 6-7 เม.ย. 60 ที่ผ่านมา จากกรณีดังกล่าว พ.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ได้สั่งการให้ กอ.รมน.ภาค 4 ร่วมกับกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวบรวมพยานหลักฐาน ตลอดจนสถานการณ์ด้านการข่าว เพื่อปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล ด้านความคืบหน้าของคดี มีดังนี้ จุดเกิดเหตุในพื้นที่อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี การรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พบสารพันธุกรรม (DNA) ที่แผงวงจรจุดระเบิดตรงกับ นายมัฮหมูด หาแว ซึ่ง นายมัฮหมูด หาแว ถูกจับกุมตัวในคดีอนาจาร เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 60 ก่อนเกิดเหตุหนึ่งวัน ปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส

จากการสอบสวนเชื่อว่า นายมัฮหมูด หาแว มีส่วนเกี่ยวข้องในการประกอบชุดวงจรระเบิด สำหรับใช้ในการประกอบระเบิด ก่อนที่จะถูกจับกุมตัว จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้นำวงจรระเบิดไปประกอบระเบิด และนำมาก่อเหตุ พนักงานสอบสวนจึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ ป.วิอาญา บุคคลดังกล่าวไว้แล้ว จุดเกิดเหตุในพื้นที่ ตำบลจะกว๊ะ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ตรวจพบสารพันธุกรรม (DNA) บริเวณแผงวงจรระเบิดตรงกับ นายอัสรีย์ โต๊ะเย๊ะ เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย จึงได้ทำการควบคุมตัวตามกฎอัยการศึก เพื่อซักถามที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 60

...

ผลการซักถาม นายอัสรีย์ ให้การว่าถูกชักชวนให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกแนวร่วม โดยเมื่อวันที่ 3 เม.ย. 60 มีชายสองคนซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้มาพบที่บ้าน และสั่งให้ทำแผงวงจรระเบิดจำนวน 3 ชุด หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ในวันที่ 6-7 เม.ย. 60 ซึ่งดีเอ็นเอของ นายอัสรีย์ ไปปรากฏอยู่ในระเบิดซึ่งวางที่เสาไฟฟ้า จึงเชื่อได้ว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ นำไปสู่การที่ศาลอนุมัติหมายจับ ป.วิอาญา เพื่อดำเนินการต่อไป และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส

จากการตรวจสอบสารพันธุกรรม (DNA) เชื่อมโยงถึงบุคคลผู้ประกอบระเบิดในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดปัตตานี ซึ่งนำไปสู่การที่ศาลสามารถออกหมายจับ ป.วิอาญา ได้อีก 1 คน และหลักฐานทางพันธุกรรมพบความเชื่อมโยงเหตุระเบิดระหว่างวันที่ 6-7 เม.ย. กับอีกหลายเหตุการณ์ซึ่งเป็นประโยชน์กับทางเจ้าหน้าที่ที่จะได้สืบหาผู้ก่อเหตุโดยการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม คาดว่าจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน และขยายผลสู่การออกหมายจับได้อีกหลายราย สรุปได้ว่า ขณะนี้สามารถออกหมายจับได้จำนวน 3 หมาย และควบคุมผู้กระทำผิดได้จำนวน 2 ราย และเชื่อว่าจากพยานหลักฐาน ตลอดจนการรวบรวมข้อมูลทางด้านการข่าว จะสามารถบังคับใช้กฎหมายได้อีกหลายราย.