รมว.แรงงานเผยมีการขยายเวลาให้ทั้งนายจ้างและผู้ประกันตนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ 9 จังหวัด ส่งเงินสมทบได้ช้ากว่ากำหนดเดิม 6 เดือน เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาภาระนายจ้างและผู้ประกันตน
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยส่งผลกระทบรุนแรงต่อประชาชนและสถานประกอบการในหลายพื้นที่ภาคใต้ ได้สั่งการให้สำนักงานประกันสังคมออกมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน เพื่อบรรเทาภาระนายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ในพื้นที่ประสบภัยรวม 9 จังหวัด โดยให้นำเสนอแนวทางขยายเวลาการยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบและการนำส่งเงินสมทบออกไปเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการประกันสังคมและได้นำวาระเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา
นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง ขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบและการนำส่งเงินสมทบของนายจ้างและผู้ประกันตนในท้องที่ที่ประสบภัยพิบัติ พ.ศ... จะทำให้ผู้ประกันตนและนายจ้างมีเวลาปรับตัวและสามารถบรรเทาภาระทางการเงินในช่วงที่ต้องเร่งฟื้นฟูการดำเนินกิจการได้ ทั้งนี้ จังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยร้ายแรงและได้รับการผ่อนผันประกอบด้วย ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พัทลุง ยะลา สงขลา สตูลและสุราษฎร์ธานี โดยกำหนดเวลายื่นและนำส่งเงินสมทบใหม่ ดังนี้ ค่าจ้างงวดเดือน พ.ย.2568 ยื่นแบบการส่งเงินสมทบและนำส่งเงินสมทบภายใน 15 มิ.ย.2569 ค่าจ้างงวดเดือน ธ.ค.2568 ยื่นแบบการส่งเงินสมทบและนำส่งเงินสมทบภายใน 15 ก.ค.2569 ค่าจ้างงวดเดือน ม.ค. 2569 ยื่นแบบการส่งเงินสมทบและนำส่งเงินสมทบภายใน 15 ส.ค.2569 ค่าจ้างงวดเดือน ก.พ.2569 ยื่นแบบการส่งเงินสมทบและนำส่งเงินสมทบภายใน 15 ก.ย.2569 ค่าจ้างงวดเดือน มี.ค.2569 ยื่นแบบการส่งเงินสมทบและนำส่งเงินสมทบภายใน 15 ต.ค.2569 และค่าจ้างงวดเดือน เม.ย.2569 ยื่นแบบการส่งเงินสมทบและนำส่งเงินสมทบภายใน 15 พ.ย.2569
...
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อว่า การขยายเวลาสำหรับนายจ้างและผู้ประกันตนใน 9 จังหวัดภาคใต้ ที่ประสบอุทกภัยให้สามารถยื่นแบบและนำส่งเงินสมทบสำหรับค่าจ้างได้ช้ากว่ากำหนดเดิม 6 เดือน เพื่อบรรเทาภาระทางการเงินและช่วยให้กิจการสามารถฟื้นตัวได้ โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาทั่วประเทศ หรือ โทร.สายด่วน 1506 กด 1 ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง