รพ.ปลายพระยา เข้าแจ้งความเอาผิด 2 ข้อหา ชายจอดกระบะขวางรถฉุกเฉิน ทำผู้ป่วยวิกฤตเสียชีวิต ด้านลูกสาวผู้เสียชีวิตมาเป็นพยานให้การกับตำรวจ เผยหลังเกิดเรื่อง ผู้ก่อเหตุยังไม่มีการติดต่อเข้ามา ยันจะให้เป็นไปตามกระบวนการ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ต.ค. 68 นิติกร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ รพ.ปลายพระยา และ น.ส.ภัทราพร พานิชย์ อายุ 29 ปี ลูกสาวของนายสมควร พานิชย์ อายุ 69 ปี ผู้เสียชีวิต นำเอกสารหลักฐาน พร้อมคลิปกล้องวงจรปิดใน รพ. เข้าพบ พ.ต.อ.ณรงค์ ลักษณะวิมล ผกก.สภ.ปลายพระยา และพนักงานสอบสวนที่ สภ.ปลายพระยา เพื่อขอเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของรถกระบะ กรณีจอดรถขวางรถฉุกเฉินของ รพ. ทำให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยวิกฤติขึ้นรถฉุกเฉิน เพื่อส่งไปรักษาต่อที่ รพ.กระบี่ ล่าช้ากว่า 10 นาที จนต่อมาผู้ป่วยเสียชีวิตเพราะรับการรักษาล่าช้า เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่หน้าห้องฉุกเฉิน รพ.ปลายพระยา
โดย พ.ต.อ.ณรงค์ ลักษณะวิมล ผกก.สภ.ปลายพระยา เปิดเผยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ รพ.ปลายพระยา แจ้งข้อกล่าวหากับชายคนขับรถกระบะ 2 ข้อหา ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 และดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 136 โดยได้กำชับพนักงานสอบสวนให้สอบปากคำเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเหตุการณ์คืนเกิดเหตุ ญาติผู้เสียชีวิตให้ละเอียด รวมทั้งสอบปากคำแพทย์ประจำ รพ.ปลายพระยา เพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับอาการของผู้ป่วย ก่อนส่งตัวต่อไปยัง รพ.กระบี่ และสอบปากคำแพทย์ รพ.กระบี่ ที่รักษาผู้ป่วยก่อนเสียชีวิตอย่างรอบคอบ เพื่อสรุปสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด หลังจากนั้นจะออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุ มารับทราบข้อกล่าวหา และสอบปากคำฝั่งผู้ก่อเหตุ โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
...
ด้าน น.ส.ภัทราพร พานิชย์ อายุ 29 ปี ลูกสาวของนายสมควร พานิชย์ อายุ 69 ปี ผู้เสียชีวิต กล่าวภายหลังจากให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.ปลายพระยา ว่า วันนี้ตนเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ในฐานะพยาน กรณีรถกระบะจอดขวางรถฉุกเฉิน ทำให้ส่งตัวพ่อไปรักษาล่าช้า เป็นเหตุให้พ่อเสียชีวิต
โดยเบื้องต้นตนเป็นแค่พยานให้ปากคำไปตามคลิปเหตุการณ์จริง และตามข้อมูลที่เคยให้ข่าวไปแล้ว ไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใดๆ เพิ่มเติม ให้เป็นหน้าที่ของทาง รพ.ดำเนินการไปตามกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานให้กับทาง รพ.แล้ว และต้องขอบคุณทาง รพ.ที่เข้าแจ้งความแทน และให้ความสำคัญกับครอบครัวตน
ในส่วนของฝ่ายผู้ก่อเหตุ หลังเกิดเหตุมา ก็ยังไม่มีการติดต่อใดๆ มาที่ตน หรือญาติเลย ซึ่งตนเอง และญาติก็ไม่ได้สนใจเขา หากทางฝ่ายผู้ก่อเหตุไม่ได้เต็มใจจะติดต่อมาก็ไม่จำเป็นต้องติดต่อมา เพราะถึงยังไงพ่อตนก็เสียชีวิตไปแล้ว ที่เหลือปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ส่วนงานศพของพ่อ จะมีการฌาปนกิจวันที่ 23 ต.ค.นี้ ที่วัดสหกรณ์ ซอย 8 ต.คีรีวง อ.ปลายพระยา.