ญาติเศร้ารับศพ เชฟไทยเสียชีวิตในกัมพูชากลับบ้านเกิด ยืนยันน้องเป็นเชฟบนเรือ เชื่อหมดสัญญา ก่อนถูกหลอกไปทำงาน และยึดพาสปอร์ต เอกสารส่วนตัว ทำร้ายก่อนเสียชีวิต

จากกรณีเฟซบุ๊ก เจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน โพสต์ภาพและข้อความระบุตามหาญาติชายไทยรายหนึ่ง ทราบชื่อต่อมาคือ นายเมธาชาญ หรือ มีน ยอแสง อายุ 24 ปี ชาว อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช สภาพเร่รอนนอนอยู่หน้าอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ในประเทศกัมพูชา เนื่องจากตอนนี้น้องป่วยนอนอยู่ข้างถนน มีสภาวะที่ช่วยตัวเองไม่ได้ ไม่มีเงิน ไม่มีเอกสารติดตัว และถูกปฏิเสธการรักษาจากโรงพยาบาลในประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อยู่ระหว่างการนำศพกลับประเทศไทย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

(อ่านต่อ : เสียชีวิตแล้ว เชฟหนุ่ม นอนป่วยข้างถนนในกัมพูชา รพ.ปฏิเสธการรักษา)

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 8 ต.ค. 68 น.ส.สุภาวดี ยอแสง อายุ 27 ปี พี่สาวของนายเมธาชาญ พร้อมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจ อ.พรหมคีรี เดินทางออกจาก จ.นครศรีธรรมราช ไปรับศพของนายเมธาชาญ หรือน้องมีน บริเวณด่านอรัญประเทศ คาดว่าจะถึงเย็นนี้ และจะสามารถรับศพน้องมีนออกจากกัมพูชา ก่อนนำร่างกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่บ้านเกิด ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช

...


ส่วนที่บ้านของ นายเมธาชาญ ที่ ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี ซึ่งตั้งอยู่ในสวนยาง พบว่ามี นายอัศวเทพ ยอแสง อายุ 50 ปี และนางนาวี ยอแสง อายุ 49 ปี พ่อแม่และญาติๆ ซึ่งอยู่ในอาการโศกเศร้า มารอคอยฟังข่าว  โดยมี น.ส.กษิญา ลิ้มตระกูล นายอำเภอพรหมคีรี และชาวบ้านในพื้นที่เดินทางไปให้กำลังใจ ซึ่งทางนายอำเภอพรหมคีรี รับปากว่าจะช่วยประสานงานกับทาง จ.สระแก้ว เพื่อให้ดำเนินการรับศพนายเมธาชาญ ออกจากกัมพูชา และนำกลับบ้านที่ อ.พรหมคีรี ให้เร็วที่สุด

พ่อและแม่นายเมธาชาญ เผยว่า ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ลูกชายต้องมาจบชีวิตอย่างน่าสงสาร ซึ่งไม่เชื่อว่าจะเสียชีวิตเพราะป่วยไข้ แต่อาจจะถูกทำร้าย เพราะเมื่อวานที่คุยกับผู้ประสานงานช่วยเหลือไทยทราบว่า ลูกยังสบายดี ไม่ได้ป่วยมากเท่าไร แต่จู่ๆ ก็มาเสียชีวิตช่วงค่ำ ซึ่งคงต้องรอผลการชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งจากฝั่งไทย 

ที่สำคัญเงินสดกว่า 3 แสนบาท และเอกสารพาสปอร์ตต่างๆ ของน้องได้หายไป ซึ่งก่อนหน้ามีการคุยอินสตาแกรมกับลูกชาย มีหญิงนิรนามคนหนึ่งคอยประสานให้ ซึ่งน้องได้ขอเงินที่บ้าน เพื่อเป็นค่าที่พัก และค่าเดินทางกลับไทย ซึ่งถ่ายคิวอาร์โค้ดมาให้สแกน แต่ตนทำไม่เป็น และมีเสียงคล้ายคนบงการอยู่ข้างๆ แล้ววางสายไป หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อลูกชายอีกได้เลย จนมาพบภาพล่าสุดเห็นลูกชายนอนอย่างน่าสงสารหน้าตึกแถวที่กัมพูชา

ทั้งนี้ ครอบครัวยืนยันด้วยว่า ไม่ได้เจอลูกชายมานานกว่าปีแล้ว เนื่องจากทำงานเป็นเชฟตามเรือสินค้า และเรือสำราญ ล่าสุดทราบว่าเมื่อเรือเทียบท่าที่กัมพูชา ตอนนั้นลูกหมดสัญญาพอดี หลังจากนั้นครอบครัวก็ไม่ทราบความเป็นอยู่ เพราะลูกไม่เคยบอก โดยเชื่อว่าลูกชายไม่ได้ไปทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตามที่คนในโซเชียลตั้งข้อสังเกต เพราะรู้นิสัยลูกชายดี และที่ผ่านมาลูกก็ขยัน ทำงานส่งเสียครอบครัวตลอดก่อนจะหายตัวไปนานกว่า 1 ปี

ด้าน น.ส.กษิญา ลิ้มตระกูล นายอำเภอพรหมคีรี กล่าวว่า วันนี้ตนได้มาแสดงความเสียใจและให้กำลังใจครอบครัว และทางอำเภอพร้อมที่จะช่วยเหลือประสานงานอำนวยความสะดวกให้ โดยได้แจ้งไปยังฝ่ายปกครองด่านอรัญประเทศแล้ว ในการดำเนินการรับร่างนายเมธาชาญ กลับบ้านเกิดอย่างรวดเร็วต่อไป

ขณะที่เพื่อนรุ่นพี่ของนายเมธาชาญ  ให้ข้อมูลว่า น้องมีนเป็นคนดี ขยันทำงาน หลังหมดสัญญาจ้างบนเรือ แล้วยังไปทำงานที่ปั้มน้ำมัน ส่วนตัวเชื่อว่าน้องมีน น่าจะหมดสัญญาจ้างบนเรือช่วงที่เรือจอดเทียบท่าในประเทศกัมพูชา แล้วถูกเพื่อนชักชวนไปทำงานเป็นเชฟที่ร้านอาหารในประเทศกัมพูชา ก่อนจะถูกหลอก ถูกยึดเงิน ยึดเอกสาร และน้องจะพยายามหลบหนี กระทั่งตกที่นั่งลำบาก ก่อนเสียชีวิต


สถานกงสุลใหญ่ฯ เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง รพ. กัมพูชา ปฏิเสธรักษา

ด้าน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยว่า สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ ได้รับการติดต่อจาก น.ส.สุภาวดี ยอแสง พี่สาวของนายเมธาชาญ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 7 ต.ค. 2568 ขอให้ช่วยเหลือนายเมธาชาญ ที่เมืองปอยเปต สถานกงสุลใหญ่ฯ จึงได้ประสานงานกับสำนักงานประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสำนักงานประสานงานชายแดนฯ แจ้งว่า นายเมธาชาญ เสียชีวิตแล้ว

...

สำหรับกรณีที่มีข่าวว่าโรงพยาบาลของกัมพูชาปฏิเสธการรักษานั้น กระทรวงการต่างประเทศได้สั่งการให้สถานกงสุลใหญ่ฯ เร่งตรวจสอบกับโรงพยาบาลท้องถิ่นต่อไป

สถานกงสุลใหญ่ฯ อยู่ระหว่างประสานงานกับตำรวจกัมพูชาเพื่อทำหนังสือออกศพ และจะได้ออกมรณบัตรของผู้เสียชีวิตต่อไป ทั้งนี้ คาดว่า จะสามารถส่งศพกลับได้ในวันพุธที่ 8 ต.ค. 2568 ทางช่องทางจุดผ่านแดนถาวรปอยเปต-บ้านคลองลึก จ. สระแก้ว ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตอยู่ระหว่างการรอรับผลการพิสูจน์ศพจากตำรวจกัมพูชา โดยสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ประสานงานกับญาติให้เดินทางมารอรับศพที่จุดผ่านแดนแล้ว ซึ่งสำนักงานประสานงานชายแดนฯ ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งของไทยและกัมพูชาเพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งศพ/รับศพที่จุดผ่านแดนด้วยแล้ว