ร.ท.ทหารเรือเกษียณ นามสกุลดัง ฉุนเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ติดเครื่องยนต์รถจอดแช่นานเสียงดังรำคาญ เกิดมีปากเสียงคว้าปืนยิงผัวถูกคอเจ็บ เมียออกมาดู ถูกยิงเบ้าตาดับ
วันที่ 20 มิถุนายน 2568 พ.ต.ท.อำพล นุชนงค์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้บาดเจ็บ ที่ห้องแถวเช่าแห่งหนึ่ง ใน อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร ร.ต.ท.วิทวัส ศรีคง รอง สว.(ป) หัวหน้าสายตรวจตำบลวังไผ่ ตำรวจชุดสายสืบ สายตรวจ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน หน่วยกู้ชีพกู้ภัยสายชลมูลนิธิชุมพร ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง พบว่าหน้าห้องเช่าซ้ายสุด มีรถยนต์กระบะ อีซูซุสีดำ สี่ประตู ติดหลังคาแครี่บอย จอดอยู่หน้าบ้าน ที่หน้าประตูบ้าน และใกล้กับประตูรถยนต์ด้านขวา มีกองเลือดจำนวนมาก ทราบมีผู้ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส ทราบชื่อคือ น.ส.จิราวรรณ สืบสาย อายุ 54 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .22 เข้าที่ตาข้างขวาจนลูกตาทะลักออกมานอกเบ้า อาการโคม่า หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา

...
นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ได้วิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ทราบชื่อ นายสุรพจน์ พัฒนวิเชียร อายุ 53 ปี อยู่ในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนเดียว มีเลือดไหลท่วมตัว ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้าใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากเข้าไม่ลึก
สอบถาม นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงตนเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ซึ่งมาอยู่ที่หลังตน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นานทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่ารถตนต้องติดเครื่องวอร์มไว้ก่อนจะขับออกไปทุกครั้ง หรือก่อนจะดับเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นปกติอยู่แล้ว ช่วงเกิดเหตุก็เช่นกัน ตนจึงได้เดินไปเคาะประตูถามว่า ว่าอะไรตนเท่านั้นเอง เขาก็คว้าปืนมาไล่ยิงตนจนต้องวิ่งหนีออกมา เจ้าหน้าที่จึงปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนส่งไปทำแผลที่โรงพยาบาล
ส่วนที่จุดเกิดเหตุ มีกำลังตำรวจชุดสายสืบทั้งในและนอกเครื่องแบบควบคุมพื้นที่อยู่ เนื่องจากผู้ก่อเหตุคือ ร.ท.สฤษดิ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อายุ 67 ปี อดีตทหารเรือเกษียณราชการแล้ว ซึ่งพักอยู่ห้องแถวเช่าเดียวกัน อยู่ห้องด้านขวามือสุด ซึ่งปิดล็อกประตูหน้าและประตูหลัง เจ้าหน้าที่พยายามตะโกนเรียกแต่ก็เงียบไม่มีเสียงตอบรับ โดยตำรวจได้พยายามตะโกนเรียก และระวังอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืน ส่วนรอบๆ พื้นที่ พบปลอกกระสุน ขนาด .22 ตกอยู่ 1 ปลอก บนพื้นปูนใกล้กับห้องเช่า
กระทั่งผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมชุดเสื้อเกราะและโล่กันกระสุน จึงตัดสินใจสะเดาะกลอนประตูลูกบิดจู่โจมเข้าไป ปรากฏว่าผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ได้ปิดล็อกประตูบ้านถ่วงเวลาหลอกเจ้าหน้าที่ไว้ โดยทราบว่าได้ขับรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ สตาร์ด้า สี่ประตู สีเทาดำ ทะเบียน ขก 1123 อุดรธานี หลบหนีไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าหลังก่อเหตุ ร.ท.สฤษดิ์ ได้นำรถยนต์คันดังกล่าวไปจอดทิ้งไว้ในที่จอดรถของร้านอาหารแห่งหนึ่ง อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุบ้านเช่าประมาณ 5 กม. ซึ่งเป็นร้านที่ภรรยาใหม่ของ ร.ท.สฤษดิ์ ทำงานอยู่ ภายในรถพบอาวุธปืนยาวขนาด .22 ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุวางอยู่บนเบาะหลัง เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน ส่วน ร.ท.สฤษดิ์ ยังไม่ทราบว่าหลบหนีไปทางใด เจ้าหน้าที่กำลังตามไล่หากล้องวงจรปิดอยู่ขณะนี้
จากการสอบถามภรรยาผู้ก่อเหตุ ให้ข้อมูลกับตำรวจว่า สามีตนเป็นพ่อหม้ายบ้านเดิมอยู่ จ.อุดรธานี ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าสามีได้ไปส่งตนซึ่งทำงานอยู่ที่ร้านอาหาร แล้วสามีก็ได้ขับรถกลับมาที่บ้านเช่า แต่ที่ผ่านมาสามีตนและผู้ที่ถูกยิงบาดเจ็บเคยมีปากเสียงกันมาก่อน จากปัญหาเรื่องเสียงรถยนต์ดังรบกวน
ด้าน พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร กล่าวว่า เหตุการณ์ยิงกันมีผู้บาดเจ็บ 2 ราย ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน เบื้องต้นทราบว่าสาเหตุมาจากผู้ก่อเหตุกับผู้บาดเจ็บ มีปัญหากันเรื่องติดเครื่องรถยนต์เสียงดัง ช่วงเกิดเหตุ ร.ท.สฤษดิ์ ได้ต่อว่าผู้บาดเจ็บว่าติดรถยนต์เสียงดัง จากนั้นต่อมาผู้บาดเจ็บได้เดินไปเคาะประตูห้องถามถึงเรื่องที่ถูกต่อว่าดังกล่าว แต่ปรากฏว่า ร.ท.สฤษดิ์ ได้เปิดประตูออกมาแล้วจ่อยิงไปที่หน้าของนายสุรพจน์ แต่กระสุนเฉี่ยวไปถูกบริเวณลำคอช่วงไหปลาร้าด้านขวา บาดเจ็บไม่มาก
พ.ต.อ.ปัญญา กล่าวต่อว่า จากนั้นภรรยาของนายสุรพจน์ ผู้บาดเจ็บ ซึ่งอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงปืนจึงวิ่งออกมาดู แต่เมื่อ ร.ท.สฤษดิ์ เห็นเข้าจึงหันไปยิงใส่ 1 นัด บาดเจ็บสาหัสก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป