มท.ภ. 4 ลงพื้นที่จุดฝังโดรนขนส่งขนาด 2 ลำใกล้ด่านศุลกากรแห่งใหม่อำเภอสะเดา จ.สงขลา พุ่งเป้านำไปใช้ขนส่งยาเสพติด ยังไม่ตัดประเด็นเรื่องความมั่นคง

วันที่ 14 มิ.ย. 2568 พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาค 4 /ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 พร้อมคณะได้เดินทางมาที่ถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ทางไปด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ บ้านไร่ออก ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อมาดูจุดที่มีการนำโดรนขนส่งขนาดใหญ่สองลำมาซุกซ่อนโดยการฝังกลบในบริเวณเกาะกลางของถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ เพื่อรอการนำโดรนไปใช้ในการกระทำผิดกฎหมาย โดยมี พ.ต.อ.สุรจิต เพชรจอม ผกก.สภ.สะเดา นายวิเชษต์ สายกี้เส้ง นายอำเภอสะเดา ได้รายงานลำดับเหตุการณ์ที่มีชาวบ้านมีอาชีพเลี้ยงวัวมาพบหลุมปริศนานึกว่าเป็นหลุมฝังศพเหตุฆาตกรรมจึงได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านนายอำเภอและตำรวจชุมชนบ้านด่านนอกมาทำการตรวจสอบ จึงพบเป็นโดรนขนาดใหญ่ 2 ลำ (อ่านข่าว : ตรวจสอบโดรน 2 ลำถูกฝังดินใกล้ชายแดนไทย-มาเลเซีย คาดใช้ขนยาเสพติด)

...

หลังจากนั้นแม่ทัพภาค 4 ได้เดินทางมายังสถานีตำรวจภูธรอำเภอสะเดาเพื่อดูโดรนทั้ง 2 ลำ หลังจากที่มีการถอดชิ้นส่วนพบมีการติดตั้งอุปกรณ์ Mechanism ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโดรนที่ออกแบบมาเพื่อปล่อยสิ่งของที่บรรทุกไว้ เช่น กล่องพัสดุ หรืออื่นๆ ที่สามารถขนส่งยาเสพติดได้ครั้งละประมาณ 15-20 กิโลกรัม โดรนทั้ง 2 ลำไม่มีแบตเตอรี่ มีรีโมทควบคุมทั้ง 2 ลำ และไม่มียี่ห้อ โดยมีผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอสะเดาได้บรรยายสรุปลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ด้าน พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาค 4 เปิดเผยว่า เมื่อ 2 วันก่อนเราได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเจอหลุมศพเมื่อไปตรวจสอบพบว่าเป็นการฝังโดรนขนส่ง 2 ลำมีขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ตรวจสอบแล้วพบความคืบหน้าเป็นชาวต่างชาติที่นำเข้ามาเพื่อกระทำของผิดกฎหมายบางอย่างในพื้นที่ สืบทราบมาว่าเป็นคนเชื้อมาเลย์เชื้อสายจีนยังหาความเกี่ยวข้องกับคนไทยไม่เจอ และมีคนไทยร่วมมือหรือไม่ ยังไม่มีการเชื่อมโยง คิดว่าตามหาตัวคงไม่ยาก มีการเคลื่อนไหวเข้าออกประเทศไทย ส่วนโดรนที่พบเป็นโดรนที่ใช้ขนของผิดกฎหมายยาเสพติด ส่วนนำไปใช้ติดอาวุธยังไม่มีประเด็น ไม่สามารถติดตั้งอาวุธ ส่วนประเด็นเรื่องความมั่นคงเรายังไม่ตัดทิ้งไป

หน่วยความมั่นคงให้ประเด็นในเรื่องของการขนยาเสพติดมากกว่า เนื่องจากอยู่บริเวณชายแดนที่มีการลักลอบแอบขนยาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง แนวทางในการติดตามคนร้ายรับของผิดกฎหมายจากเมืองไทย คาดว่าที่จังหวัดสงขลา ในส่วนความร่วมมือระหว่างตำรวจไทยกับตำรวจมาเลเซียเราจะนำประเด็นนี้มาหารือกัน เป็นภัยความมั่นคงในรูปแบบใหม่ของทั้ง 2 ประเทศ พร้อมบอกว่าโดรนตัวนี้เคยใช้งานมาก่อนและจะนำมาทดลองใช้ในพื้นที่ชายแดนในอำเภอสะเดา ซึ่งตรวจสอบพบว่าโดรนนี้เป็นการประกอบขึ้นเองไม่ได้สั่งซื้อจากบริษัทใหญ่ๆ และไม่มีการติดกล้อง และยังไม่พบแบตเตอรี่คาดว่าคงถอดเก็บไปชาร์จก่อนที่จะนำมาประกอบใช้ในการบินภายหลัง.