เปิดภาพแนวปะการังหมู่เกาะสุรินทร์ เสียหาย แตกหักยับเยิน หลังเรือสินค้าเมียนมาเกยตื้นมาแล้ว 4 วัน เบื้องต้นประเมินพื้นที่ได้รับความเสียหายประมาณ 150 ตารางเมตร
วันที่ 4 มิ.ย. 68 มีรายงานว่า นายเกรียงไกร เพาะเจริญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ได้รายงานมายัง นายเทอดไทย ขวัญทอง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นายจรัล ด้วงแป้น ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 ไปตามลำดับจนถึงกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช หลังจากมีการส่งนักประดาน้ำสำรวจความเสียหายจากการที่เรือขนส่งสินค้าสัญชาติพม่า ชื่อเรือ "MV.AYAR LINN" มาเกยตื้นอยู่บนแนวปะการังบริเวณอ่าวจาก และสร้างความเสียหายแก่ปะการังในบริเวณนี้

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ระยะทางตั้งแต่ต้นทางมีการชนแนวปะการังจากจุดแรก ไปจนถึงจุดที่เรือเกยตื้น ระยะทางรวมประมาณ 75 เมตร ซึ่งในระยะดังกล่าวแนวปะการังไม่ได้รับความเสียหายทั้งหมด มีเพียงแต่ปะการังที่ตั้งอยู่หรือรวมกลุ่มกันเป็นลักษณะก้อนสูง ที่ไม่พ้นท้องเรือได้รับความเสียหาย ถูกเรือลำดังกล่าวชน ได้รับความเสียหาย ปะการังแตกหัก
...

โดยจุดที่ปะการังได้รับความเสียหายมากที่สุดคือช่วงระยะที่ 45 - 75 เมตร เนื่องจากเป็นจุดที่เรือเกยตื้นและติดอยู่บนแนวปะการัง ทำให้ปะการังที่อยู่ใต้ท้องเรือได้รับความเสียหาย แตกหัก และถูกเรือทับอยู่เกือบทั้งหมด ซึ่งเบื้องต้นจากการประเมินพื้นที่ปะการังที่ได้รับความเสียหายคิดเป็นพื้นที่ ประมาณ 150 ตารางเมตร

หลังจากมีการจำแนกพบว่ามีกลุ่มปะการังสีน้ำเงิน (Heliopora coerulea) เป็นชนิดปะการังที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดประมาณ 80% ของปะการังทั้งหมดที่ถูกเรือชน ปะการังเขากวาง (Acropora sp.) ได้รับความเสียหาย ประมาณ 15% ของปะการังทั้งหมดที่ถูกเรือชน ปะการังโขด (Porites lutea) ได้รับความเสียหาย ประมาณ 5% ของปะการังทั้งหมดที่ถูกเรือชน ปะการังสมองร่องสั้น (Platygyra daedalea) ได้รับความเสียหายค่อนข้างน้อย เกิดการแตกหักไป 4 โคโลนี ปะการังดอกกะหล่ำ (Pocillopora) ได้รับความเสียหายค่อนข้างน้อย เกิดการแตกหักไป 3 โคโลนี ปะการังดาวเหลี่ยม (Leptastrea purpurea) ได้รับความเสียหายน้อยมาก เกิดการแตกหักไป 1 โคโลนี
นอกจากแนวปะการังที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์เรือขนส่งสินค้าสัญชาติพม่า ชื่อเรือ “MV.AYAR LINN” ชนแนวปะการังจนเกยตื้น มีข้อกังวลเรื่องขยะทะเล เนื่องจากเรือดังกล่าวเป็นเรือขนส่งสินค้า จึงมีขยะจำพวกกระดาษลัง เศษผ้า ยางรถบรรทุก สายยาง และขยะอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่งที่ติดอยู่บนแนวปะการัง

โดยอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ เร่งระดมทุกภาคส่วนเข้าร่วมแก้ปัญหา จึงจัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือแนวทางการจัดการกรณี เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดำน้ำ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ดำเนินการสำรวจสภาพเรือทั้งภายนอกและภายในตัวเรืออย่างละเอียด พร้อมทั้งสำรวจตำแหน่งถังน้ำมันเชื้อเพลิงของเรือ เพื่อปิดวาล์วท่อรับและท่อส่งน้ำมันภายในตัวเรือ ป้องกันการรั่วไหลของน้ำมันเชื้อเพลิง ประสานขอสนับสนุนทุ่นกักน้ำมัน (Oil Boom) เพื่อควบคุมปริมาณน้ำมันที่ลอยอยู่บนผิวน้ำไม่ให้แยกออกจากกัน และไม่ไหลไปตามกระแสน้ำ หากเกิดการรั่วไหลของน้ำมันเชื้อเพลิง

...
โดยขอรับการสนับสนุนจากสำนักงานเจ้าท่า จังหวัดภูเก็ต, ศรชล.ภาค 3, ภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ประสานขอสนับสนุนยานพาหนะและอุปกรณ์สำหรับการปฏิบัติภารกิจในกรณีฉุกเฉินหากเกิดการรั่วไหลของน้ำมันเชื้อเพลิงในปริมาณมาก โดยขอรับการสนับสนุน "เรือหลวงปันหยี" พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ จากศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 และดำเนินการตามฐานความผิดที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ร้องทุกข์กล่าวโทษ และสืบสวน สอบสวน ผู้ต้องหาอย่างเข้มข้น เพื่อหาพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งตรวจสอบเอกสารเกี่ยวกับเรือและการเข้าออกประเทศเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ หากพบฐานความผิดเพิ่ม จะประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร้องทุกข์กล่าวโทษต่อไป.