รวบชายวัย 59 ปี ลวง "อดีตเมีย" ฆ่าทุบหัวที่บริเวณอ่างเก็บน้ำเขาหัวช้าง จ.พัทลุง อ้างมีปากเสียงกันเรื่องโอนรถ ด้านลูกชายตัดพ้อ พ่อไม่น่าทำแบบนี้ ไม่คิดถึงอนาคตตนเลย

วันที่ 20 พ.ค. 68 เจ้าหน้าที่กู้ชีพเขาหัวช้าง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง เข้าตรวจสอบที่บริเวณอ่างเก็บน้ำเขาหัวช้าง หมู่ที่ 2 ตำบลตะโหมด อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง หลังรับแจ้งมีหญิงสาวถูกทำร้ายร่างกาย ทราบชื่อต่อมาคือ นางสาวมาลี หรือ กะยะ เหรียญนุ้ย อายุ 52 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 8 ตำบลชะรัด อ.กงหรา จ.พัทลุง ซึ่งมีบาดแผลถูกทุบที่บริเวณใบหน้าและศีรษะ สภาพท่อนล่างเปลือย เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือ นำส่ง รพ.ตะโหมด ก่อนที่ รพ.ตะโหมด จะเร่งนำส่ง รพ.พัทลุง และเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่ รพ.พัทลุง ที่เกิดเหตุพบก้อนหินขนาดใหญ่มีคราบเลือดติดอยู่

สอบถามนางสาวสุติมา หรือ ตาล ยาชะรัด อายุ 42 ปี เพื่อนของผู้ตาย บอกว่า ก่อนเกิดเหตุ นายมุดตาฝา หรือ บังฝา เพชรสงคราม อายุ 59 ปี อดีตสามีของกะยะ ใช้รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กธ 5680 พัทลุง ไปรับตนและกะยะออกมาจากบ้านในพื้นที่ตำบลชะรัด อ.กงหรา เพื่อจะมาพูดคุยกันเรื่องโอนรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อยาริส แต่เมื่อมาถึงที่บ้านควนนุ้ย ในพื้นที่ อ.ตะโหมด เธอได้ลงจากรถเพื่อแวะกินข้าวเหนียวไก่ที่บ้านญาติของนายบังฝา

ส่วนบังฝาได้นั่งคู่ไปกับกะยะ รถมุ่งหน้าไปที่อ่างเก็บน้ำเขาหัวช้าง สักพักใหญ่ บังฝาขับรถลงมาที่เธอ แต่ไม่มีกะยะ พร้อมชวนเธอขึ้นรถ แต่เธอสังเกตเห็นรอยเลือดที่ข้างรถ จึงไม่ยอมไปกับบังฝา พร้อมพยายามส่งเสียงดังๆ ให้ชาวบ้านสนใจ บังฝาจึงขับรถออกไป ตนพร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านในพื้นที่จึงไปตามหากะยะ ที่บริเวณสันอ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง และทราบว่ากะยะถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัส

...

ในขณะที่นางจรรยา สุวรรณพงศ์ อายุ 43 ปี คนเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะที่เธอกำลังขับรถ จยย. ไปสวนยางสังเกตเห็นผู้ชายนั่งอยู่ข้างสันเขื่อน ทำท่าทางเสมือนกำลังขุด หรือกำลังทุบอะไรสักอย่าง เมื่อเธอขับรถไปใกล้ ๆ เห็นผู้ชายคนนั้นมีเลือดเต็มใบหน้า เธอตกใจ จึงขับรถลงมาบอกสามีว่าไม่รู้ว่าผู้ชายคนดังกล่าวทำอะไร แต่มีเลือดเต็มใบหน้า แป๊บเดียวก็เห็นรถของผู้ชายคนดังกล่าวขับออกไป เธอพร้อมด้วยสามีจึงไปดูที่จุดเกิดเหตุ พบร่างผู้หญิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เลือดเต็มศีรษะและใบหน้า ทั้งในสภาพเปลือยท่อนล่าง สามีเธอจึงใช้เสื้อปิดให้ พร้อมได้แจ้งกู้ชีพ และเร่งนำส่ง รพ.

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวบังฝา คนก่อเหตุได้ขณะขับรถหนีกลับไปบ้านในพื้นที่ ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จังหวัดพัทลุง พร้อมนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.ตะโหมด เบื้องต้นบังฝาบอกว่า เขาและกะยะอยู่กินเป็นสามีภรรยากันนานร่วม 20 ปี แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน เพราะเขามีภรรยาอยู่แล้ว 1 คน เขากับกะยะมีลูกด้วยกัน 1 คน พร้อมยืนยัน ยังไปมาหาสู่กันอยู่ ไม่ได้เลิกกัน

บังฝาบอกว่า ก่อนหน้านี้ยอมรับว่า เขาและนางกะยะทะเลาะกันบ่อยครั้งเพราะความหึงหวง เพราะนางกะยะมีผู้ชายมาติดพันเยอะ ก่อนเกิดเหตุ เขาขับรถไปรับนางกะยะ ภรรยา พร้อมด้วยนางสาวตาลเพื่อนของนางกะยะ ออกมาจากบ้าน เพื่อมาเจรจาเรื่องการโอนรถยนต์เก๋ง แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ เพราะยังมียอดค้างอยู่อีก 5 หมื่น ทำให้เขาและนางกะยะทะเลาะกัน กะยะกัดเขาที่นิ้ว และวิ่งลงจากรถ เขาจึงตามมาใช้ก้อนหินทุบด้วยความโมโห ไม่คิดว่านางกะยะจะบาดเจ็บสาหัส เขารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะไม่ทำเช่นนี้

ในขณะที่นางเสาะ เพชรสงคราม อายุ 56 ปี ภรรยาของบังฝา ซึ่งมาเยี่ยมสามีที่โรงพักตะโหมด บอกว่า เมื่อเธอทราบเรื่องรู้สึกตกใจ ไม่คิดว่าสามีจะก่อเหตุเช่นนี้ สามีเธอมีอาชีพขับรถสิบล้อ แต่เมื่อสองเดือนที่ผ่านมา สามีป่วยเป็นจิตเวช มีอาการซึมเศร้าจึงไม่ได้ไปขับรถ ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเช้า สามีออกจากบ้านบอกว่าจะไปเคลียร์เรื่องรถสิบล้อ สุดท้ายมาก่อเหตุดังกล่าว

นางเสาะยังยอมรับว่า สามีเธอแอบคบหากับนางกะยะ ผู้ตาย และมีลูกด้วยกัน 1 คน และก่อนหน้านี้ ประมาณเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา สามีบอกว่าได้เลิกกับนางกะยะแล้ว เธอไม่รู้ว่าเขายังแอบไปมาหาสู่กันอยู่

อย่างไรก็ดี ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของบังฝา เพราะยังให้การย้อนแย้ง ทั้งนางกะยะผู้ตายก็มีสภาพเปลือยท่อนล่าง ซึ่งสันนิษฐานเบื้องต้น บังฝาอาจจะพยายามจะทำมิดีมิร้ายกับนางกะยะ หรือไม่นางกะยะไม่ยอม จึงเกิดการทะเลาะกันจนนางกะยะเสียชีวิตดังกล่าว

ในเวลาต่อมา หลังจากแพทย์ได้ชันสูตรศพผู้ตายเสร็จที่โรงพยาบาลพัทลุง ญาติได้นำศพมาฝังประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม ที่กุโบร์บ้านหูเล่ ต.ชะรัด อ.กงหรา จ.พัทลุง และจะประกอบพิธีฝังในช่วง 20.00 น.ในวันนี้

...

ด้าน บุตรชายของผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุ อายุ 19 ปี กล่าวว่า พ่อไม่น่าทำแม่แบบนี้เลย พ่อไม่คิดถึงอนาคตของผม ทั้งที่ทิ้งผมไปตั้งแต่ผมยังเล็ก และไม่เคยมาดูแลผมเลย มีแต่แม่ที่คอยดูแลมาทั้งหมด เรื่องรถที่แม่ให้พ่อโอนเป็นชื่อแม่ แม่ก็ซื้อเอง วางเงินดาวน์เอง 50,000 บาท ผ่อนเดือนละ 4,900 บาท ผ่อนหมดแม่จะให้โอนเป็นชื่อแม่ แต่พ่อไม่น่าทำถึงขนาดนี้

เมื่อสอบถามถึงสาเหตุที่ทะเลาะกัน นายสุทธิรักษ์ บอกว่า ก่อนหน้านี้พ่อเอาเงินไปบ่อยครั้ง ล่าสุด 300,000 บาท และก่อนหน้านี้ พ่อมาเอาไปไม่ต่ำกว่า 3,000,000 บาท จนไม่กี่วันที่ผ่านมาพ่อมาขอเงินแม่อีก 50,000 บาท บอกว่าจะเอาไปผ่อนรถฟอร์จูนเนอร์คันของพ่อที่ใช้ในก่อเหตุวันนี้ บอกว่าจะเสียค่าดอกให้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ พ่อไม่เคยจ่าย แต่แม่ไม่ให้จนเกิดเรื่องทะเลาะกัน จนเป็นเหตุให้พ่อต้องมาทำร้ายแม่จนเสียชีวิตในวันนี้.