ครอบครัวเศร้า รับศพสาววัย 26 ปี ประสบอุบัติเหตุ ถูกไฟช็อตหมดสติ ขณะขี่รถ จยย. ฝ่าน้ำท่วมขังบนถนน แล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี สั่งประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ปัญหา
จากกรณี เมื่อเวลา 16.50 น. วันที่ 6 พฤษภาคม ที่ผ่านมา น.ส.มัณฑนา ผ่องผิว หรือ มิ้น อายุ 26 ปี ขับขี่รถ จยย. ฝ่าน้ำท่วมขังบนถนนบริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี และถูกไฟช็อตหมดสติ ล้มคว่ำภายในน้ำ กู้ภัยช่วยนำร่างออกจากจุดไฟฟ้ารั่ว เร่งทำ CPR นำส่งต่อให้กับรถกู้ชีพให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และต่อมาเสียชีวิตในเช้าวันที่ 8 พ.ค. นี้
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 16:30 น. วันที่ 8 พ.ค. 68 ญาติได้นำร่างนางสาวมัณฑนา ผ่องผิว มาถึงศาลาการเปรียญ วัดธรรมบูชา ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อที่จะจัดเตรียมพิธีกรรมทางศาสนาโดยมีกำหนดการฌาปนกิจศพ ในวันอังคารที่ 13 ที่จะถึงนี้
ต่อมาเมื่อเวลา 17:00 น. นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผวจ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นางสาวกานต์สินี โอภาสรังสรรค์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 1 จังหวัดสุราษฎร์ธานี และหัวหน้าส่วนราชการได้เดินทางมาถึงเพื่อร่วมประกอบพิธีรดน้ำศพพร้อมด้วยญาติๆ ซึ่งจะประกอบพิธีกรรมทางศาสนาในเวลา 17:30 น.
...
ทางด้านนางสาวกานต์สินี กล่าวว่า เบื้องต้นวันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยในเบื้องต้นวาระที่สำคัญก็คือในส่วนของปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก และกระแสไฟฟ้าที่รั่ว ในส่วนนี้จะไปตรงกับปัญหาที่ตนได้นำเสนอเข้าสภาเมื่อสองวันที่แล้วเกี่ยวกับตู้ไฟของระบบไฟฟ้าที่วางอยู่บนทางเท้า แต่ช่วงนี้อยู่ในระหว่างที่สภาปิด ซึ่งหากมีการประชุมสภาเมื่อไหร่ตนก็นำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสภาเพื่อหาทางแก้ปัญหาในระยะยาวอีกครั้ง
ในขณะที่บ่ายวันเดียวกันนี้ นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผวจ.สุราษฎร์ธานี ประชุมส่วนราชการ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อร่วมหาแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตเมืองสุราษฎร์ธานี และพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมผิวจราจรบริเวณสี่แยกบางใหญ่ เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี บริเวณหน้าศาลแขวงสุราษฎร์ธานี และเส้นทางสายสุราษฎร์ – พุนพิน บริเวณแยกซอยโกเตง แยก บขส. แยก กม. 0 ถึงหน้าโรงพยาบาลสราญรมย์ พื้นที่อำเภอเมืองฯ ต่อเนื่องอำเภอพุนพิน ที่ประสบปัญหาเมื่อฝนตกหนักจะทำให้น้ำท่วมผิวจราจร น้ำรอระบาย รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และยังทำให้เกิดอุบัติเหตุต่างๆ ขึ้น นำไปสู่ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ประชาชนและผู้ใช้ถนนได้รับความเดือดร้อน
นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาจำเป็นต้องบูรณาการร่วมกันในหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และการดำเนินการของแต่ละหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นแขวงทางหลวง เทศบาล ต้องคุยกันว่าใครต้องทำอะไร ต้องมีแผนระยะสั้นก่อนว่าถ้ามีสถานการณ์ฝนตกหนักลงมาอีกต้องทำอย่างไร และหาวิธีทำอย่างไรให้น้ำระบายได้เร็วที่สุด ไม่ว่าจะในเรื่องของการขุดเจาะทางน้ำไหลเข้าท่อ หรือการติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะสั้นไปก่อน ส่วนระยะยาวหรือการขุดลอกต้องมีการของบประมาณอาจต้องใช้เวลานาน ทั้งนี้จะนัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ดูหน้างานกันอีกครั้ง เพื่อให้เห็นภาพชัดยิ่งขึ้น.