ภูเก็ต "ชาดา ไทยเศรษฐ์" รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุดินโคลนถล่ม พบปะพูดคุยให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ชี้ภูเก็ตมีปัญหาเกือบทั้งเกาะ เกินการป้องกัน มีสิ่งผิดกฎหมายแทบทุกเรื่อง สะสมมานาน
เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 24 สิงหาคม 2567 ที่บริเวณท้ายซอยปฏัก 2 หลังวัดกะตะ ต.กะตะ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดดินโคลนถล่มอย่างหนักเมื่อกลางดึกวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีบ้านเรือนได้รับความเสียหาย มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย พร้อมด้วยนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ เพื่อดูสภาพหลังเกิดภัยพิบัติ พร้อมพบปะกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติดังกล่าว
โดยนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย และคณะเจ้าหน้าที่ได้เดินสำรวจพื้นที่บริเวณที่เกิดดินโคลนถล่มอย่างหนัก บริเวณหน้ารีสอร์ตและอพาร์ตเมนต์ ตลอดจนห้องเช่าที่ถูกความแรงของดินโคลนพัดพังและหายไปกับโคลน โดยมีผู้ประสบภัยที่มีทรัพย์สินเสียหายต่างมาร้องเรียนและแจ้งสาเหตุของการเกิดดินโคลนพัดถล่มพร้อมกับขอให้เร่งดำเนินการแก้ไขและป้องกัน ตลอดจนการเข้ามาเยียวยาผู้ประสบภัย
...
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวถึงปัญหาที่ดินและพื้นที่ของ จ.ภูเก็ต ระบุว่า ภูเก็ตมีสิ่งผิดกฎหมายแทบทุกเรื่อง สะสมมานาน จากการปล่อยปละละเลยหรือการที่อะลุ่มอล่วยกัน เพราะสภาพเมืองเป็นแบบนี้ เจ้าหน้าที่ในอดีตที่อยู่มาก็ปล่อยตามสภาพบ้าง แต่ถามว่าภูเก็ตวันนี้จะรื้อได้ไหม รื้อได้ แต่ก็ต้องร้อนกันทั้งเมือง ผมพูดตรงนะ ร้อนกันทั้งเมือง แม้แต่เรื่องนักท่องเที่ยวและอะไรต่างๆ ก็เป็นปัญหาที่หมักหมมมาก แต่ถามรื้อได้หรือไม่ รื้อไปก็กระทบตรงนี้หลายอย่าง มันเป็นเรื่องที่ต้องค่อยๆ ดำเนินการ อันไหนที่เกิดปัญหาก็ต้องแก้ แต่ถามว่าป้องกันได้ไหม วันนี้ภูเก็ตเกินการป้องกันไปแล้ว จะอยู่อย่างไรไม่ให้เดือดร้อนกันมากกว่า จะอยู่อย่างไรก็ให้ชาวภูเก็ตมีความสุขและไม่อันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงวิธีป้องกันภัยพิบัติต่างๆ ใน จ.ภูเก็ต ว่า เราป้องกันภัยพิบัติได้ยาก แต่เราทำอย่างไรให้เกิดความเสียหายให้น้อยที่สุดเมื่อเกิดภัยพิบัติ จะให้ไม่เกิด คงไม่ได้เลย มันก็ต้องเกิด ดูน้ำท่วมทั่วโลก แต่เราจะพยายามทำอย่างไรให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด เหตุการณ์นี้ทางจังหวัดภูเก็ตก็เสียใจ เพราะมีผู้เสียชีวิต เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงตี 4-ตี 5 ฝนตกทุกคนหลับแล้วเกิด ทุกคนวิ่งหนี และมาเร็วมาก อีกอย่างเพราะความลาดชันของภูเขา ภูเก็ตเป็น 1 ใน 54 จังหวัด พื้นที่อ่อนไหวต่อการเกิดดินถล่มในประเทศไทย โดยกรมทรัพยากรธรณี เราก็มีการประชุม นำเฮลิคอปเตอร์มาบิน 3 วันเพื่อกำหนดจุดล่อแหลม และเราจะแก้ไขอย่างไร เราก็ต้องทำแผน โดยได้รับคำแนะนำให้มีการปลูกต้นกระถินยักษ์เพื่อคลุมดิน
...
จากนั้นนายชาดา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ไปเยี่ยมประชาชนที่ประสบภัยดินโคลนถล่ม ซึ่งอพยพมาพักแรมที่วัดกะตะ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อพูดคุยให้กำลังใจประชาชน โดยศูนย์อพยพชั่วคราววัดกะตะ นั้น จัดตั้งขึ้นเป็นการเฉพาะกิจหลังเกิดภัยพิบัติ โดยจะมีครอบครัวที่ประสบภัยเข้ามาพักแรมนับสิบครัวเรือน เพื่อรอให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าเคลียร์พื้นที่ เพื่อกลับไปสำรวจบ้านและทรัพย์สินของตัวเองต่อไป โดยมีนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวสรุปเหตุการณ์