ปรากฏการณ์ ชุมพร-ชุมพล "ลูกหมี-ชุมพล จุลใส" จัดทัพยึดการเมืองเบ็ดเสร็จ ทั้งสนามเล็ก สนามใหญ่ ศึกชิงนายก อบจ.ชุมพร นายกโต้ง อดีตนายกที่ลาออกไป "คนบ้านใหญ่" ลงสมัครเพียงคนเดียว ไร้คู่แข่ง  


หลายจังหวัดมีการจัดการเลือกตั้งตำแหน่งนายก อบจ. จากการลาออกของนายกเก่า ก่อนหมดวาระการดำรงตำแหน่ง เพื่อเลี่ยงกฎ “180 วัน” และส่วนใหญ่นายกคนเก่าจะลงสมัครเลือกตั้งอีกครั้ง แต่ก็มีคู่แข่งคนของพรรคการเมืองคนเด่น คนดัง กลุ่มอิสระ ลงสมัครชิงชัย


แต่ไม่ใช่กับจังหวัดชุมพร ประตูสู่ภาคใต้ ที่เป็นจังหวัดเดียวที่มีผู้สมัครจากค่ายบ้านใหญ่ของอดีต สส. “ลูกหมี” ไร้ผู้ท้าชิง


หลังจาก นายนพพร อุสิทธิ์ “นายกโต้ง” ลาออกจากตำแหน่งนายก อบจ.ชุมพร มีผลเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 67 ก่อนจะครบวาระ 4 ปี ในวันที่ 19 ธ.ค. 67 และผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพรได้ออกประกาศให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ชุมพร กำหนดการเปิดรับสมัครเป็นเวลา 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 13-17 ส.ค. 67 ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร และกำหนดวันเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 22 ก.ย. 67 นั้น


ตลอดการเปิดรับสมัครทั้ง 5 วัน เป็นไปอย่างเงียบเหงา จนกระทั่งวันสุดท้ายฤกษ์งามยามดี เวลา 09.09 น. นายนพพร อุสิทธิ์ “นายกโต้ง” ที่ลาออกจากตำแหน่งไปก่อนหน้านี้ ได้กลับมาลงสมัครใหม่อีกสมัย และเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.ชุมพร เพียงคนเดียว แบบชนิดไร้คู่แข่ง ท่ามกลางคนเด่นคนดัง ผู้นำชุมชน กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มสตรี ทั้งนักการเมืองท้องถิ่น นักการเมืองระดับชาติ มาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างล้นหลาม ณ ที่หน้าทำการสถานที่เปิดรับสมัคร 

...


นายนพพร อุสิทธิ์ “นายกโต้ง” อดีตนายก อบจ.ชุมพร สมัยที่ผ่านมา อยู่ในแวดวงการเมืองท้องถิ่นมาอย่างยาวนาน มีภรรยาชื่อ นางสุจิตรา อุสิทธิ์ “นายกเปี้ยว” นายก อบต.นาสัก อ.สวี หลายสมัย ซึ่งเป็นพี่สาวของ นายชุมพล จุลใส หรือลูกหมี “นายกโต้ง” จึงมีสถานะเป็นพี่เขยของ “ลูกหมี” บ้านใหญ่แห่งเมืองชุมพร ดังนั้นดีกรีบนเส้นทางสายการเมืองจึงไม่ต้องพูดถึงกันมากมาย 


สำหรับ ส.อบจ.ชุมพร ที่มีทั้งหมด 30 คน จาก 30 เขต ในพื้นที่ 8 อำเภอของ จ.ชุมพร และจะครบวาระในวันที่ 19 ธ.ค. 67 นี้ โดย ส.อบจ.ชุมพร จำนวน 29 คน จาก 30 เขต ที่ผ่านมาลงในนามทีม “พลังชุมพร” ก็ล้วนเป็นทีมงานของบ้านใหญ่ “ลูกหมี” ที่มี “นายกโต้ง” เป็นหัวหน้าทีมนั่นเอง 


แวดวงการเมืองจังหวัดชุมพรเมื่อเอ่ยไปใครๆ ก็ต้องรู้จัก “ลูกหมี” หรือ นายชุมพล จุลใส อดีต สส.ชุมพร หลายสมัย 


“ลูกหมี” มีชื่อเสียงโด่งดังเมื่อครั้งเป็นแกนนำหลักกลุ่ม กกปส. ที่นำประชาชนร่วมชุมนุมคัดค้านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง หรือที่หลายคนเรียกว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย หรือ พ.ร.บ. นิรโทษกรรมเหมาเข่ง จนนำไปสู่การชุมนุมขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในช่วงระหว่างปี พ.ศ.2556-2557 และต่อมา “ลูกหมี” พร้อมแกนนำอีกหลายคนถูกจับกุมดำเนินคดี ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 9 ปี 24 เดือน และถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 ศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษาเหลือโทษจำคุก 1 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา และยังคงถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปีเช่นเดิม ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ในชั้นฎีกา 


แม้ “ลูกหมี” จะพ้นสภาพการเป็น สส.ชุมพร และถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี แต่ด้วยความเป็นคนติดดิน ลุยทุกที่ ใจถึง พึ่งได้ จนบารมีแผ่ขยายไปทั่วทั้งจังหวัดชุมพร สามารถจัดทัพคุมทีมการเมืองได้อย่างแบบเบ็ดเสร็จ ตั้งแต่การเมืองระดับท้องถิ่น ระดับจังหวัด ไปจึงถึงการเมืองระดับชาติ 


โดยการเมืองระดับชาติ “ลูกหมี” พาทีมงานในสังกัด “บ้านใหญ่” เข้าเป็น สส.ครบทั้ง 3 เขตเลือกตั้งของ จ.ชุมพร ในสังกัด “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ที่สามารถล้มแชมป์เก่าผู้ยิ่งใหญ่อย่าง “พรรคประชาธิปัตย์” ที่ยึดครองพื้นที่จังหวัดชุมพรมาอย่างยาวนานจนแพ้ราบคาบทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เคยส่งคนในค่ายมาท้าชิง สส.ชุมพร เขต 1 และเป็นผู้นำทัพลงมาบัญชาการหาเสียงเลือกตั้งทุ่มกันสุดตัว แต่ก็ยังต้องพ่ายแพ้อย่างย่อยยับแบบหมดรูปกลับไป


สส.ชุมพรทั้ง 3 เขต พรรครวมไทยสร้างชาติ ของค่ายบ้านใหญ่ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ในขณะนี้ สส.เขต 1 นายวิชัย สุดสวาสดิ์ อดีต ส.อบจ.หลายสมัย ถือเป็นมือขวาคู่กายไปไหนไปกัน สามารถทำงานรู้ใจ “ลูกหมี” ได้ทุกเรื่อง และยังเป็นนักไฮปาร์กฝีปากกล้าอีกด้วย ส่วน สส.เขต 2 นายสันต์ แซ่ตั้ง อดีต ส.อบจ.หลายสมัยเช่นเดียวกัน คนนี้ “ลูกหมี” ทุ่มสุดตัว เพราะเป็นคู่หูที่รู้ใจกันมานาน และ เขต 3 นายสุพล จุลใส “สส.ลูกช้าง” คนนี้ก็เช่นกัน ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณกันมากมาย เพราะเป็นพี่ชายแท้ๆ ของ “ลูกหมี” นั่นเอง 


เมื่อประตูภาคใต้ “จังหวัดชุมพร” กลายเป็น “เมืองชุมพล” ของค่ายบ้านใหญ่อย่าง “ชุมพล จุลใส” หรือ “ลูกหมี” ผู้นำจัดทัพการเมืองชุมพร จึงไม่แปลกใจว่าทำไมการชิงตำแหน่งนายก อบจ.ชุมพร ในครั้งนี้จึงไม่มีพรรคการเมืองใด และผู้สมัครหน้าไหน หาญกล้าท้าชิงด้วยแต่อย่างใด.

...