เอฟซีชาวสุราษฎร์ธานี ยกเค้กเซอร์ไพรส์ "หนุ่ม กรรชัย" เนื่องในวันเกิด ขณะเดินทางไปพร้อมกับ "กัน จอมพลัง" ช่วยเหลือเหยื่อฤๅษีเปิดสำนักรักษาโรค ที่สภ.วิภาวดี โดยในตอนบ่าย ศาลจ.สุราษฎร์ธานี นัดไต่สวนมูลฟ้องคดี "แม่นก" แม่น้องไนซ์ ร้องให้รายการโหนกระแสลบคลิป
เวลา 12.20 น. วันที่ 18 กรกฎาคม ภายหลังจากที่ หนุ่ม กรรชัย ออกจากห้องประชุม สภ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี ที่เข้าไปร่วมพูดคุยกรณีที่มาช่วยเหลือเหยื่อฤๅษีเปิดสำนักรักษาโรค ร่วมกับตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ชาวบ้านที่มารอ ได้นำเค้กวันเกิดไปแสดงความยินดีกับ หนุ่ม กรรชัย ที่รถตู้ ร่วมร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ ก่อนที่หนุ่ม กรรชัย จะเป่าเค้กและขึ้นรถเดินทางต่อไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่มีนัดไต่สวนมูลฟ้องในช่วงบ่ายวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าว นายโพธิ์ รักเจริญ อายุ 58 ปี ชาวบ้านหมู่ 9 ตำบลตะกรุดเหนือ อำเภอวิภาวดี สามีของนางบังอร รักเจริญ อายุ 54 ปี ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งและรักษากับหมอฤๅษีจนเสียชีวิต ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากหนุ่ม กรรชัย และกัน จอมพลัง ทางหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย และกัน จอมพลัง จึงได้เดินทางมาที่สภ.วิภาวดี ในวันนี้ โดยมีชาวบ้านมารอต้อนรับเป็นจำนวนมาก ซึ่งในช่วงแรกที่เดินทางมาถึง กัน จอมพลัง ได้เดินเข้าไปใน สภ.พร้อมกับชาวบ้านและผู้เสียหาย ในระหว่างนั้นได้สอบถามหา ผกก. แต่เจ้าหน้าที่ได้ตอบว่าผกก.ไม่อยู่ลาไปอุปสมบท และไม่ได้สั่งการอะไรไว้ ทำให้มีปากเสียงกันเล็กน้อย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญกัน จอมพลัง และชาวบ้านพร้อมด้วยผู้เสียหายให้มารอที่ศาลาหน้า สภ.ก่อน และให้หนุ่ม กรรชัย เข้าไปพูดคุยกับรอง ผกก. ในห้องประชุมในประเด็นความคืบหน้าคดีของหญิงสาววัย 20 ปีที่ถูกทำอนาจาร และกรณีภรรยาของนายโพธิ์ รักเจริญ
...
โดยใช้เวลาในห้องประชุม ประมาณ 20 นาที ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งให้ทราบว่าขณะนี้ได้แจ้งข้อหาอนาจาร, เปิดสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตกับผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งศาลจังหวัดไชยาคัดค้านการประกันตัว ในส่วนของเด็ก 12 และ 14 ปีอยู่ในขั้นตอนของการสอบสวนร่วมกับสหวิชาชีพและ พม. ส่วนกรณีของนายโพธิ์ที่ภรรยาเสียชีวิต ได้เชิญมาให้ปากคำแล้ว 2 ครั้ง กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ทราบถึงการเสียชีวิต

ขณะที่ หนุ่ม กรรชัย ได้ฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามในเรื่องนี้ให้ด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของนายโพธิ์ ก่อนที่จะเดินทางกลับ เพื่อเตรียมตัวไปขึ้นศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื่องจากศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง เรื่องที่ "แม่นก" แม่น้องไนซ์ ที่ร้องต่อศาลให้รายการโหนกระแสลบคลิป
ด้านนายโพธิ์ กล่าวว่า นางบังอร ภรรยาของตน เดิมทีเป็นประธาน อสม.ในอำเภอวิภาวดี มีการตรวจเช็กร่างกายตลอด แต่ต่อมาพบก้อนเนื้อที่เต้านมหลังจากไปตรวจหมอบอกว่ามีเชื้อมะเร็ง จึงได้รักษาที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี จนเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาหมอได้เลื่อนนัด แต่ภรรยาบอกว่ามีอาการเจ็บที่เต้านมมากกว่าปกติ จากนั้นยายของเด็กวัย 12 ปี (หนึ่งในผู้เสียหายถูกอนาจาร) ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหมอฤๅษีได้มาชักชวนให้ไปรักษากับหมอฤๅษี โดยเสียค่าใช้จ่ายวันละ 100 บาท และต้มยาหม้อละ 3,000 บาทกิน แต่ตนไม่รู้ว่ากินไปกี่หม้อ ทั้งที่ตนไม่มีความเชื่อในเรื่องนี้เลย แต่หมอฤๅษียืนยันว่าจะรักษาให้หายภายใน 2 เดือน หากอาการไม่ดีขึ้นเอาชีวิตหมอฤๅษีเป็นเดิมพัน
"หลังจากรักษาได้ประมาณสองเดือนกว่า เริ่มมีน้ำเหลืองไหลที่เต้านมซึ่งบวมมาก และมีอาการเจ็บปวดทรมาน จนวันที่ 25 พฤษภาคมกลางดึกจึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาล ต่อมาได้เสียชีวิตในช่วงเวลาประมาณตีสามของคืนวันที่ 26 พฤษภาคม โดยหมอบอกว่าการรักษากับยาสมุนไพรอาจทำให้เชื้อลุกลามไปอย่างรวดเร็ว แต่หลังจากเสียชีวิตแล้วทางตำหนักฤๅษีได้กล่าวหาว่าภรรยาที่เสียชีวิต ยังคงค้างค่ายาต้มอยู่จึงแจ้งไปว่าทำไมไม่บอกตั้งแต่ตอนยังมีชีวิต ทำไมเอาเรื่องนี้มาพูดตอนเมียเสียชีวิตไปแล้ว"
นายโพธิ์ ยังกล่าวอีกว่า รู้สึกเสียใจกับการกระทำของหมอฤๅษีเป็นอย่างมาก ขณะนี้ได้ปรึกษากับผู้รู้เพื่อที่จะดำเนินการฟ้องแพ่ง เรียกค่าเสียหายจากตำหนักหมอฤๅษี