เผยแหม่มเศรษฐินีชาวฝรั่งเศส นั่งเขียนข้อความในโน้ตบุ๊ก ก่อนเดินไปใช้ไม้ถูพื้นดันกล้องวงจรปิดหน้าสระน้ำ วิลล่าหรู เกาะสมุย ไม่ให้เห็นตอนทำร้ายตัวเอง ขณะที่ป้าติ๋ม แม่บ้านที่ผู้ตายเขียนพินัยกรรมยกบ้านวิลล่า ที่ดิน รถให้ มูลค่ากว่า 50 ล้าน เปิดใจอยู่กันมา 12 ปี ตั้งแต่ซื้อที่ดิน ลงเสาเอก สร้างวิลล่า รักผูกพันเหมือนแม่ ยืนยันไม่ขายทรัพย์สินที่ได้มาแน่นอน
วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 จากคดีที่แหม่มสาว นางแคทเทอร์ริน เดลาคอท อายุ 59 ปี สัญชาติฝรั่งเศส ได้ใช้อาวุธปืนฆ่าตัวตาย เสียชีวิตบริเวณเตียงพักผ่อนริมสระน้ำในวิลล่าหรู ของตัวเอง ตั้งอยู่บนเนินเขาบ้านแม่น้ำ เลขที่ 77/154 หมู่ 4 ตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และทางแหม่มผู้ตาย ได้เขียนพินัยกรรม ยกสมบัติที่เป็นที่ดินและวิลล่า ที่เกิดเหตุให้กับแม่บ้านคนสนิทที่รับใช้กันมากว่า 12 ปี ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ล่าสุด วันนี้ ผู้สื่อข่าวได้ภาพวงจรปิด ก่อนที่แหม่ม ผู้ตายจะก่อเหตุยิงตัวเอง พบว่าในคืนวันที่ 28 เมษายน 2567 ประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ ต่อเนื่องวันที่ 29 เมษายน นางแคทเทอร์ริน ได้นั่งบริเวณโต๊ะ หน้าวิลล่า สภาพอยู่บ้านตามปกติ สวมเสื้อกล้ามสีขาว นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ และนั่งเขียนข้อความลงในเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กจากนั้น ได้ลุกขึ้น และหายไปนานเกือบ 10 นาที และออกมาพร้อมด้วยไม้ถูพื้นสีแดง ใช้ไม้ถูพื้นดังกล่าวยกขึ้นดันกล้องวงจรปิด ที่มีมุมกล้องมองออกไปด้านนอกเห็นสระน้ำและเตียงนอนเล่นบริเวณสระน้ำ ก่อนที่ภาพจะหายไปเป็นพื้นสีขาว
ต่อมาในเช้าวันที่ 29 เมษายน 2567 ได้มี นายสมพร บุญเสิรฐ์ อายุ 29 ปี คนงานดูสระน้ำ พบศพผู้ตายเป็นคนแรก เปิดเผยว่า เมื่อเวลาเเปดโมงกว่าๆ วันเดียวกัน ได้เดินทางมาดูแลสระน้ำตามปกติเหมือนทุกวัน เมื่อขึ้นบันได เข้ามาพบมีคราบเลือดไหลนองพื้น และเห็นนางแคทเทอร์ริน แหม่มเจ้านาย นอนแน่นิ่ง จึงได้วิ่งลงมาโทรศัพท์บอกหัวหน้า และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
...
ขณะที่ในช่วงบ่ายวันที่ 2 เม.ย. 67 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ วิลล่าที่เกิดเหตุอีกครั้ง พบว่าวิลล่าปิด ไม่มีใครอยู่ ซึ่งตัววิลล่าที่เกิดเหตุ มีมูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท และที่ดินเปล่าอีก 2 ไร่ อยู่ข้างวิลล่ามูลค่า เกือบ 10 ล้านบาท แต่ นางณัฐวลัย ภูพองตา หรือป้าติ๋ม ชาวอำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร แม่บ้านคนสนิทของผู้ตายที่อยู่กันมากว่า 12 ปี ไม่ได้อยู่ที่วิลล่าในวันนี้ปิดบ้านเงียบ และผู้สื่อข่าว ได้เดินทางต่อไปที่ วิลล่ามะพร้าว บริเวณถนนหลังวัดภูเขาทอง ซึ่งเป็นวิลล่าแหม่มผู้ตายซื้อไว้ก่อนหน้านี้ กับสามี และทำธุรกิจร่วมกัน โดยใช้ชื่อ บริษัท จีวีเอ็มอี จำกัด เลขที่ 13/5 หมู่ 2 ตำบลแม่น้ำ ซึ่งอยู่ห่างจากวิลล่าที่เกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร
โดยวิลล่าที่ใช้ชื่อวิลล่ามะพร้าว มีทั้งหมด 5 หลัง ต่อมา ได้ขายไปแล้วเป็นบางส่วน เมื่อนางแคทเทอร์ริน ได้เเยกทางกับสามี ชาวฝรั่งเศส และได้บริหารวิลล่าเองทั้งหมด โดยมีนางณัฐวลัย หรือ ป้าติ๋ม แม่บ้านคนสนิท ช่วยดูแล
ล่าสุด ป้าติ๋ม ได้เปิดใจ อีกครั้งว่า ตนเองนั้นได้รู้จักกับคุณแคทเทอร์ริน มาหลายปีแล้ว ซึ่งแหม่มแคทเทอร์ริน ได้ขยายธุรกิจจากห้องพักให้เช่า มาสร้างรีสอร์ต สร้างวิลล่า ธุรกิจเริ่มขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งตนก็ได้เป็นแม่บ้านคอยช่วยคุณแคทเทอร์รินมาตลอด จนเมื่อ 12 ปีก่อน คุณแคทเทอร์รินได้มาซื้อที่ดินบนเกาะสมุย โดยจดทะเบียนเป็นบริษัท เพื่อสร้างวิลล่า จำนวน 5 หลัง และสร้างบ้านวิลล่าหลังนี้ไว้พักอาศัยเอง ตอนนั้นมีคุณแคทเทอร์ริน คุณวินเซ่น (สามีเก่า) และตนเองซึ่งเป็นแม่บ้าน เพียง 3 คน ช่วยกันดูแลในการสร้างวิลล่าหลังนี้ ทำพิธียกเสาเอกด้วยกัน
ป้าติ๋ม ยังกล่าวอีกว่า ก่อนจะเกิดเหตุแหม่ม แคทเทอร์ริน ได้ส่งข้อความทางไลน์มาให้ตนเพื่อสั่งเสียไว้ทั้งหมด คล้ายกับทำพินัยกรรมไว้ โดยในข้อความเท่าที่ตนเองและเพื่อนของคุณแคทเทอร์ริน ที่มาเปิดเซฟพร้อมกันได้อ่าน ระบุประมาณว่า แหม่มได้ยกบ้านวิลล่าหลังนี้พร้อมที่ดิน รวมถึงที่ดินเปล่าข้างวิลล่า จำนวน 2 ไร่ รถยนต์ CRV สีแดง 1 คัน เครื่องประดับ แหวน เพชร ซึ่งอยู่ในตู้เซฟ และเงินสดที่อยู่ในธนาคารอีก ไม่รู้จำนวน โดยยกให้ตนเองทั้งหมด ซึ่งคาดว่า ทรัพย์สินทั้งหมดมีมูลค่าเกือบ 50 ล้านบาทที่คุณแคทเทอร์รินยกให้ และอีกส่วน คือ วิลล่า 2 หลัง ได้มอบให้กับ คุณวินเซ่น สามีเก่าของแหม่มแคทเทอร์ริน
นอกจากนี้ แหม่ม แคทเทอร์ริน ยังได้สั่งเสียให้ช่วยดูแลแมวอีก 3 ตัวที่เธอรักมากๆ ให้ตนเองดูแลต่ออีกด้วย ป้าติ๋มกล่าวด้วยเสียงสะอื้นว่า ตอนนั้นตนเองตกใจมากที่ได้อ่านพินัยกรรมที่ระบุไว้ และไม่คิดว่าแหม่มแคทเทอร์รินจะทำแบบนี้ "ป้าอยากให้เขาอยู่กับป้า ป้าไม่ได้อยากได้แบบนี้ ป้าได้เยอะจริงของที่แกยกให้ แต่ป้าต้องเสียแกไป ป้าเสียใจมาก ป้าคิดถึงเขามาก ไม่อยากให้เขาจากไปเลย เขาเปรียบเสมือนแม่คนหนึ่งของป้าที่ดูแลป้ามาตลอด ป้าสัญญาว่า ป้าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด"
ป้าติ๋มยังบอกอีกว่า ก่อนที่แหม่ม แคทเทอร์รินจะจากไป เธอยังได้โอนเงินค่าจ้าง ค่าอินเทอร์เน็ต จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟทั้งหมดแล้ว รวมถึง ยังโอนเงินจำนวนหนึ่งให้กับตนเองเพื่อเป็นค่าทำศพให้กับแกอีกด้วยซึ่ง ตนสัญญาจะจัดงานให้ดีที่สุด และจะไม่ลืมพระคุณของคุณแคทเทอร์รินเลย ซึ่งหลังจากนี้ยังไม่ได้คิดว่าจะเอาวิลล่าหลังนี้ไปทำอะไร แต่คงไม่ขายแน่นอน เช่นเดียวกับรถหรูที่คุณแคทเทอร์รินยกให้ ถึงแม้ตนจะขับไม่เป็นก็ตาม
ส่วนประเด็น และสาเหตุแหม่ม แคทเทอร์ริน ตัดสินใจฆ่าตัวตายคิดว่าน่าจะเกิดจากความเครียด เนื่องจากที่ผ่านมา เธอจะตัดพ้อกับตนอยู่ตลอดว่า เจ็บป่วยและทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็งที่เป็นอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้คุณแคทเทอร์ริน ป่วยเป็นโรคริดสีดวง ก่อนจะกลายเป็นมะเร็ง ซึ่งตนยังเชื่อมั่นว่า ที่เธอทำนั้นคงอยากจากไปอย่างสงบ ทั้งนี้ป้าติ๋ม แม่บ้านที่ได้รับทรัพย์สิน จากพินัยกรรมเป็นมูลค่ามหาศาล มีลูกทั้งหมด 4 คน มีอาชีพเป็นแม่บ้าน มาตั้งแต่วัยรุ่น และได้ติดตามทำงานเป็นหัวหน้าแม่บ้านให้กับผู้ตายมากว่า 12 ปี โดยได้เงินเดือนประมาณ 22,000 บาทต่อเดือน และหลังจากนี้ ยังไม่ได้คิดวางแผนเลย ว่าจะเอายังไง ต้องรอ หลังจากทำพิธีทางศาสนา ให้กับแหม่มแคทเทอร์ริน ซึ่งศพยังอยู่ที่โรงพยาบาลเกาะสมุย ต้องรอการประสานกับหลายฝ่าย ก่อนถึงจะนำร่างของเจ้านายมาประกอบพิธีทางศาสนาได้
...