เจรจาคืบหน้า พูดคุยเพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบ ฝ่ายไทยกับตัวแทน BRN พร้อมเสนอเตรียมประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกันครั้งแรก เพื่อมุ่งสันติสุขในพื้นที่ กลางเดือน พ.ค.นี้ และลดความรุนแรง
เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 67 พล.ท.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ แม่ทัพน้อยที่ 4. ในฐานะ หน.ฝ่ายเทคนิค ในคณะพูดคุยสันติสุข เปิดเผยหลังการประชุมฝ่ายเทคนิคในคณะพูดคุยฯ กับดร.นิมะ เจ๊ะแต หน.เทคนิคของ BRN ระหว่างวันที่ 27-30 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่รัฐ Negri Sembilan มาเลเซีย ได้ข้อสรุปให้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกันเป็นครั้งแรกระหว่างวันที่ 19-21 พ.ค. นี้ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย วางกรอบรายละเอียดในการทำงานร่วมกัน ลดสถานการณ์ความรุนแรง และการปรึกษาหารือสาธารณะใน จชต. เดินหน้าขับเคลื่อนการสร้างสันติสุขถาวรในพื้นที่

พล.ท.ปราโมทย์ กล่าวถึงหัวเรื่องที่จะมีการหารือกันในการประชุมเชิงปฏิบัติการกลางเดือน พ.ค. เป็นกิจกรรมที่จะดำเนินการของแต่ละฝ่ายหรือทำร่วมกัน ในช่วงของการลดสถานการณ์ความรุนแรงและช่วงของการปรึกษาหารือสาธารณะ หลังการลงนามร่วมกันในแผนความเข้าใจร่วมสู่สันติสุขจชต.หรือ JCPP (JOINT COMPREHENSIVE PLAN TOWARDS PEACE) ที่ทั้งสองฝ่ายได้ให้ความเห็นชอบในหลักการร่วมกันมาแล้วในช่วงก่อนหน้านี้แต่ยังไม่ได้มีการลงนามให้ความเห็นชอบ ในเรื่องที่สองจะเป็นการหารือ TOR กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่และการบริหารจัดการของกลไกติดตามสถานการณ์ในช่วงเปลี่ยนผ่านสถานการณ์ ที่มีการกำหนดห้วงเวลาเป็นสองระยะ ช่วงแรกในเรื่องการลดสถานการณ์ความรุนแรงสามเดือน และหกเดือนในช่วงที่สองที่ต่อเนื่องจากช่วงแรก
...
พล.ท.ปราโมทย์ ยังกล่าวถึง ผลการประชุมฝ่ายเทคนิค กับฝ่าย BRN ว่า ที่ประชุมเรายืนยันว่าการพูดคุยในครั้งนี้เป็นเรื่องปัญหาภายในประเทศไทย เป็นเรื่องที่คณะพูดคุยของทั้งสองฝ่ายมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนทุกรายละเอียด นำไปสู่การตกลงร่วมกันของกลไกติดตามสถานการณ์ ซึ่งมี 2 ระดับด้วยกัน

ลำดับแรกเป็นการติดตามสถานการณ์จากส่วนกลาง เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินการ ได้ข้อสรุปว่าเป็นเรื่องของคณะทำงานคณะพูดคุยอย่างเป็นทางการของทั้งสองฝ่าย ที่มีนายฉัตรชัย บางชวด และ อานัส อับดุลราห์มาน หน.คณะพูดคุยของทั้ง 2 ฝ่ายและผู้อำนวยความสะดวกมาเลเซีย (ผอคส.) ทำหน้าที่ในคณะทำงานส่วนกลาง และมีผู้สังเกตการณ์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญร่วมสังเกตการณ์ในคณะพูดคุยอยู่แล้ว และเพิ่มเติมด้วยตัวแทนของบุคคลจากประเทศอาเซียน จำนวน 2 คน ซึ่งในเรื่องของผู้ที่จะเข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์จะต้องไม่เป็นตัวแทนของรัฐ ภาคราชการ ไม่เป็น NGO ภาคประชาสังคม ให้ทั้ง 2 ฝ่ายมีการเสนอขึ้นมาฝ่ายละ 1 คน ในการประชุมคราวหน้าจะมีการพิจารณารายชื่อกัน
ในเรื่องที่ 2 จะเป็นการติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ ในภาคสนาม เราเห็นสอดคล้องกันว่าจะต้องมีการออกแบบรูปแบบกลไก ประกอบด้วย บก.ติดตามสถานการณ์ และคณะทำงานติดตามสถานการณ์ เป็นรายจังหวัดของทั้ง 4 จังหวัด ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อำเภอของ จว.สงขลา พร้อมยังได้มีการหารือถึงกรอบแนวทางที่จะจัดทำรายละเอียดของกิจกรรม ซึ่งจะมุ่งเน้นในเรื่องของกิจกรรมลดความรุนแรง ที่มีมุมมองความเห็นที่แตกต่างกัน ทาง ผอคส.มาเลเซีย ได้ให้มีการทำแผนผังใหญ่ มีการลงรายละเอียดของกิจกรรม มีการทำตัวอย่างให้ดู ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำไปเป็นประเด็นในการพูดคุยระหว่างจัดประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งหน้า

หน.ฝ่ายเทคนิค ในคณะพูดคุยสันติสุข ยังกล่าวถึงข้อเสนอในเรื่องการปรับลดกำลังและแนวทางในการยุติการก่อเหตุร้ายในพื้นที่นั้นว่า ยังไม่มีการหารือกัน ไม่มีการพูดกัน ในวันนี้หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องโครงสร้างของกลไกติดตามสถานการณ์เรียบร้อยแล้ว จะมาวางกรอบแนวทางในการจัดทำรายละเอียดของกิจกรรมในแต่ละระยะ จะต้องมีการลงรายละเอียดและพูดคุยกันค่อนข้างมาก ทางผอคส.มาเลเซีย เสนอว่าควรยกไปหารือในช่วงการประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกัน ในการประชุมคณะเทคนิคครั้งหน้า เราก็จะมีการหารือกันใน 3 เรื่อง รูปแบบกำหนดรายละเอียดของกิจกรรม เรื่องที่ 2 จัดทำรายละเอียดของแต่ละกิจกรรมจะต้องมีการปฏิบัติอะไรบ้าง มีกิจกรรมอะไรที่สามารถทำร่วมกันได้ เรื่องที่ 3 จะเป็นเรื่งของ TOR เกี่ยวกับหน้าที่บทบาทของกลไกติดตามสถานการณ์ ทั้งจากส่วนกลางและภาคสนาม เป็นกรอบที่เราร่วมกันวางไว้ในการประชุมเทคนิคครั้งหน้า