เศร้า พ่อหายออกจากบ้าน ลูกไปแจ้งความ ก่อนเดินตามหา พบเป็นศพผูกคอดับ หัวหลุดจากร่าง บนเทือกเขาสูงใกล้แนวชายแดนไทย-มาเลย์ ต้องใช้เวลาเดินเท้า 1 ชั่วโมง ถึงจุดเกิดเหตุ

   

เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 67 ร.ต.ท.พงศกร เผ่าชาญณรงค์ พนักงานสอบสวนเวรฯ สภ.สะเดา ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีผู้พบศพคนเสียชีวิต อยู่บนเทือกเขาใกล้แนวเขตแดนประเทศไทยและมาเลเซีย จึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนประสานกู้ชีพกู้ภัยไม้ขมเทศบาลเมืองสะเดา และเดินทางไปที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สะเดา


ซึ่งการเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องลัดเลาะไปตามสวนยางพาราที่ติดแนวป่า ก่อนต้องจอดรถไว้ และใช้วิธีเดินเท้าเข้าไป เนื่องจากพื้นที่สูงและลาดชันมาก บริเวณและจุดที่พบศพเขตหมู่ที่ 6 บ้านบางน้ำข้น ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา พื้นที่เป็นสวนยางพารา แซมด้วยต้นทุเรียน และต้นลองกอง 


จุดพบศพมีต้นรังกับ ทราบชื่อต่อมาคือ นายรออาลี เจ๊ะอุบง อายุ 53 ปี ชาวตำบลสำนักแต้ว ลักษณะศพผูกคอตัวเองด้วยเชือกที่ทำจากกิ่งต้นรังกับ แล้วแขวนกับกิ่งต้นรังกับสูงจากพื้นดินประมาณ 2 เมตร ส่วนหัวยังติดอยู่กับเชือกและกิ่งไม้ ส่วนท่อนล่างหล่นลงมากองกับพื้นในสภาพเน่าเฟะ ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ ชุดกู้ชีพฯ ต้องนำใส่ถุงซิปก่อนแบกลงมาอย่างทุลักทุเล

    

นายมะแอดี เจ๊ะอุบง อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นบุตรชาย และเป็นผู้พบศพคนแรก บอกว่า พ่อออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตนเองได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.สะเดา เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ก่อนออกตามหา ซึ่งในวันนี้ได้ชวนชาวบ้านและเพื่อนๆ ออกตามหาอีกครั้ง ซึ่งเมื่อหาจนถึงใกล้จุดพบศพได้กลิ่นเหม็น จึงตามกลิ่นไปจนพบพ่อกลายเป็นศพแล้ว

...


สำหรับพ่อเคยได้รับการบำบัด แต่ไม่หายเป็นปกติ ส่วนสาเหตุที่พ่อผูกคอฆ่าตัวตาย คิดว่าคงเครียด ตนเองก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน เพราะต้องทำงานที่ต่างจังหวัด เพื่อนบ้านบอกว่าค่อนข้างพูดน้อย และไม่ได้มีปัญหากับใคร สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ทางครอบครัวและญาติๆ ไม่ติดใจกับสาเหตุการเสียชีวิต โดยจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาที่ภูมิลำเนาคือจังหวัดปัตตานีต่อไป.